ซัมซุงคว้าอันดับหนึ่งแบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจสูงที่สุดในโลกในกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า
ซัมซุงคว้าอันดับ 1 แบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจสูงที่สุดในโลกในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยคะแนน 157 คะแนน จากรายงาน “Inspiring Growth” เผยแพร่โดยวันเดอร์แมน ธอมสัน ประเทศไทย เอเจนซีผู้ให้บริการด้านความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล และเทคโนโลยีครบวงจร ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยแรกในบริบทที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคกับการเติบโตของแบรนด์ รวมถึงจัดอันดับ 100 แบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจสูงที่สุดในโลก ในตลาดต่างๆ กว่า 45 ประเทศทั่วโลก
ผลจากการวิจัยพบว่า องค์ประกอบหลักของแบรนด์ที่มีพลังบันดาลใจมี 3 ประการ ได้แก่ ยกระดับชีวิตและจิตใจ (Elevating), มีพลังดึงดูด (Magnetic) และสร้างแรงกระตุ้น (Motivating) โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาซัมซุงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่สร้างมาตรฐานใหม่กับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะก้าวเป็นที่สุดของผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานระดับโลกและส่งมอบการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริโภคและชุมชนจำนวนมากขึ้น รวมถึงปลดล็อคหนทางการลดคาร์บอนใหม่ๆ ที่บ้าน ด้วยอีโคซิสเต็มการเชื่อมต่ออุปกรณ์อย่างไร้รอยต่ออย่าง SmartThings Energy สุดยอดเทคโนโลยีแห่งบ้านอัจฉริยะ โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัว SmartThings Station ที่ช่วยผู้บริโภคจัดระบบควบคุมตั้งค่าอัตโนมัติให้กับพื้นที่ส่วนต่างๆ ภายในบ้าน ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพพร้อมรองรับการใช้งานอย่างครบวงจรในอนาคต และการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมที่จะช่วยให้การใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมีความยั่งยืนมากขึ้น เช่น AI Energy Mode โหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะกับประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าที่เคยที่ช่วยให้ผู้บริโภคลดต้นทุนด้านพลังงานไปพร้อมกับการลดผลกระทบต่อสภาวะอากาศ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมที่ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การคำนึงถึงแต่ฟังก์ชันการใช้งานของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับความสวยงามภายนอกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกไลฟ์สไตล์ อย่าง BESPOKE โดยผู้บริโภคสามารถปรับแต่งและผสมผสานตู้เย็นที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้อย่างสมบูณ์แบบอีกทั้งสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่หลากหลายได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะปรับเปลี่ยนสี ผิวสัมผัส ขนาด ทิศทางของบานประตู เพื่อให้เข้ากับทุกพื้นที่ภายในบ้านของผู้ใช้งาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Lifestyle TV ที่ไม่ได้เป็นเพียงทีวีธรรมดาๆ แต่ยังเป็นงานออกแบบอันทรงคุณค่าที่สามารถยกระดับพื้นที่ส่วนตัว ทั้ง The Frame (เดอะ เฟรม) และ The Serif (เดอะ เซรีฟ) ได้เปิดโลกใหม่แห่งความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับงานศิลป์ และการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ในแบบที่เลือกได้
วันที่ : 28/3/2566