รวบตึง! แท็บเล็ต Samsung Galaxy Tab A9, Galaxy Tab S9 FE และ Galaxy Tab S9 ซื้อรุ่นไหนดี รุ่นไหนเหมาะกับใคร
หากพูดถึงแท็บเล็ต Samsung ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมาตลอดในบ้านเรา ซึ่งล่าสุดในปี 2566 นี้ ทาง Samsung ก็ได้เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ออกมาถึง 3 รุ่นด้วยกัน คือ Galaxy Tab A9 Series, Galaxy Tab S9 FE Series และ Galaxy Tab S9 Series ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ตลาดระดับกลาง ไปจนถึงระดับไฮเอนด์ และในแต่ละรุ่นก็มีรุ่นย่อยที่มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันไปอีก
ด้วยความที่มีหลายรุ่นนี่เอง ใครที่กำลังคิดจะซื้อแท็บเล็ต Samsung ในตอนนี้อาจจะเลือกไม่ถูก เพราะไม่แน่ใจว่ารุ่นไหนถึงจะเหมาะ และคุ้มค่ากับการใช้งานของตัวเองมากที่สุด พวกเรา Thaimobilecenter จึงได้ทำการสรุปจุดเด่นของแท็บเล็ตทั้ง 3 รุ่นแบบรวบตึง แต่ละรุ่นต่างกันตรงไหน มีจุดเด่นอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง เราไปหาคำตอบกันเลยครับ
Samsung Galaxy Tab A9 Series: Galaxy Tab A9 | Tab A9+
จุดเด่นเฉพาะตัวของ Galaxy Tab A9 | A9+
Galaxy Tab A9 | A9+ เป็นแท็บแล็ตระดับกลางที่มีราคาประหยัดที่สุดจากทั้ง 3 ซีรีส์ แม้จะไม่มีปากกา และไม่ได้แรงระดับเรือธงเหมือนกับรุ่นพี่ แต่ก็สามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ, ช็อปปิ้งออนไลน์, ไลฟ์ขายของ รวมถึงการใช้งานเพื่อความบันเทิงอย่างการดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม โดยรุ่น A9+ จะมีลำโพง 4 ตัวระบบ Dolby Atmos ช่วยเสริมความสามารถตรงจุดนี้
ความแตกต่างระหว่าง Galaxy Tab A9 และ A9+ คือรุ่น A9+ จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า, แบตเตอรีความจุเยอะกว่า พร้อมหน่วยความจำภายในและ RAM ที่เยอะขึ้นเป็นเท่าตัว ส่วนความลื่นไหลในการทำงานน่าจะไม่ต่างกันมากเพราะชิปเซ็ต MediaTek Helio G99 กับ Snapdragon 695 มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน
ความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของ Galaxy Tab A9+ คือรองรับโหมด DeX ซึ่งเป็นโหมดการใช้งานที่ทำให้แท็บเล็ตมีอินเทอร์เฟซคล้ายกับคอมพิวเตอร์ PC ช่วยให้จัดการไฟล์ในเครื่องสะดวกขึ้น และทำงานเอกสารง่ายขึ้น หากใครที่ต้องพิมพ์งานบ่อย ๆ และมีคีย์บอร์ดอยู่แล้วโหมด DeX น่าจะช่วยได้พอสมควร
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเล่นเกมเป็นหลัก Galaxy Tab A9 น่าจะเหมาะกว่ารุ่น A9+ เพราะตัวเครื่องเล็กกว่า จึงจับถนัดมือและควบคุมได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะเกมที่เน้นการควบคุมอย่าง PUBG, Free Fire และเกมชูตติ้งอื่น ๆ ครับ
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตไว้ดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม เน้นความบันเทิงเป็นหลัก
- ผู้ที่ต้องพิมพ์งานบ่อย ๆ เช่น นักเขียน หรือนักศึกษา (ต้องซื้อคีย์บอร์ดแยก)
Galaxy Tab S9 FE Series: Galaxy Tab S9 FE | Tab S9 FE+
จุดเด่นเฉพาะตัวของ Galaxy Tab S9 FE | Tab S9 FE+
หากเทียบกับ Galaxy Tab A9 Series แล้ว Galaxy Tab S9 FE | Tab S9 FE+ มีการอัปเกรดขึ้นมามากพอสมควรทั้งในแง่ของสเปกและฟีเจอร์ โดยรุ่นนี้มีปากกา S Pen มาให้ในกล่องด้วย จึงได้ลูกเล่นของปากกาเข้ามาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการเคาะปากกา 2 ครั้งเพื่อจดโน้ตด่วน, ทางลัดแคปหน้าจอ, S Pen to Text แปลงสิ่งที่เขียนเป็นตัวอักษรพิมพ์ และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง นอกจากนี้การมีปากกายังทำให้การใช้งานบางอย่าง เช่นการตกแต่ง Reels หรือตัดต่อวิดีโอบน CapCut / TikTok ง่ายขึ้นเยอะอีกด้วย
สำหรับสเปกทั่วไป Galaxy Tab S9 FE ใช้ชิปเซ็ต Exynos 1380 แรงกว่า Snapdragon 695 พอสมควร แต่ยังไม่ถึงกับเป็นชิปเซ็ตเรือธง เรื่องการใช้งานทั่วไปรวมถึงการเล่นเกมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ยังมีจอที่ใหญ่ขึ้นเป็น 10.9 นิ้ว และ 12.4 นิ้ว พร้อมความละเอียดที่สูงขึ้น และมีอัตรารีเฟรช 90Hz การดูหนังจึงให้ภาพที่คมกว่า ชัดกว่า ถึงแม้จะมีลำโพงแค่ 2 ตัว แต่ก็รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เรื่องคุณภาพเสียงจึงไม่เป็นปัญหา เพียงแต่อาจจะเบากว่า Tab A9 Series เท่านั้น
Galaxy Tab S9 FE | Tab S9 FE+ เพิ่มความจุแบตเตอรี่ขึ้นเป็น 8,000 mAh และ 10,090 mAh เยอะกว่า Tab A9 Series มาก และยังอัปเกรดชาร์จไวเป็น 45W ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จพอสมควร แก้จุดอ่อน “แบตใหญ่-ชาร์จช้า” ของแท็บเล็ตได้อย่างตรงจุด
ทั้งนี้ ทั้งตัวแท็บเล็ต Galaxy Tab S9 FE | Tab S9 FE+ และปากกา S Pen มีคุณสมบัติกันน้ำ IP68 ช่วยให้หายห่วงได้ระดับหนึ่งเวลาพกพาไปใช้งานด้านนอกครับ
เหมาะกับใคร?
- นักเรียน-นักศึกษา หรือวัยทำงานที่ต้องจดเลคเชอร์ หรือทำพรีเซนเทชั่นบ่อย ๆ
- ผู้ที่ต้องการใช้ S Pen แบบรุ่นแฟล็กชิป แต่อยากประหยัดงบ
- ผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่ ภาพสวย ไว้ดูหนังหรือเล่นเกมในราคาที่ไม่แพงมาก
Galaxy Tab S9 Series: Galaxy Tab S9 | Tab S9+ | Tab S9 Ultra
จุดเด่นเฉพาะตัวของ Galaxy Tab S9 | Tab S9+ | Tab S9 Ultra
Galaxy Tab S9 Series เป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบได้ดีที่สุดแล้วในทั้ง 3 ซีรีส์ที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นการทำงานทั่วไป, ความบันเทิง ไปจนถึงงานประเภทครีเอทีฟ แต่ก็มีราคาที่สูงขึ้นตามความสามารถของมันด้วยเช่นกัน
Galaxy Tab S9, Tab S9, Tab S9 Ultra ไม่ได้มีสเปกที่ต่างกันมากนัก หลัก ๆ จะต่างกันที่ขนาดหน้าจอ, กล้อง และความจุแบตเตอรี ในส่วนของกล้อง และแบตเตอรี่ อาจจะไม่ได้ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานมากนัก สิ่งที่สำคัญดูจะเป็นขนาดของหน้าจอมากกว่า
หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะในรุ่นท็อปอย่าง Galaxy Tab S9 Ultra ที่มีจอขนาด 14.6 นิ้ว จะเหมาะกับการทำงานครีเอทีฟอย่างการตัดต่อวิดีโอ, แต่งรูป หรือวาดภาพ มากกว่าการที่จะเอามาดูหนังเฉย ๆ เพราะอาจจะไม่สะดวกเวลารับชมบางอิริยาบถ
แต่ถ้าใครจะเอามาดูหนังอย่างเดียวก็ไม่ขัดศรัทธา เพราะ Galaxy Tab S9 Series ใช้จอ Dynamic AMOLED 2X ชนิดเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน Galaxy S Series รุ่นใหม่ ๆ จึงให้สีสันที่สวยกว่า คมกว่า พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz จะดูหนังหรือเล่นเกมก็ไม่ผิดหวังแน่นอน แถมยังสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอได้อีกต่างหาก
ในด้านประสิทธิภาพ ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 ที่ใช้ในซีรีส์นี้จัดว่าเป็นขิปเซ็ตเรือธง และเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน Galaxy S23 Series เรื่องความแรงจึงไม่ต้องพูดถึง แถมยังรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับแสงเงาขณะเล่นเกม
ส่วนแบตเตอรี่และระบบชาร์จไวไม่ได้ต่างจากรุ่น FE มากนัก และยังเป็นชาร์จไว 45W เหมือนเดิม
โดยรวมแล้ว สเปกที่สูงขนาดนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานเชิงครีเอทีฟได้เป็นอย่างดี และดีกว่าตระกูล FE โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นนักวาด Galaxy Tab S9 Series จะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดครับ
เหมาะกับใคร?
- นักเรียน-นักศึกษา หรือคนวัยทำงานที่ต้องการแท็บเล็ตที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน สามารถใช้จดเลคเชอร์, ทำพรีเซนเทชั่น และตอบโจทย์ความบันเทิงด้านอื่น ๆ แบบจบในเครื่องเดียว
- นักวาด (Digital Artist) ทั้งระดับมืออาชีพและมือสมัครเล่น
- คอนเทนต์ครีเอเตอร์ แต่งรูป หรือตัดต่อวิดีโอ
- ผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตประสิทธิภาพสูงระดับ Best in Class
- ผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟน Galaxy S Sereis อยู่แล้ว และต้องการแท็บเล็ตที่จะใช้ทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ
- ผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกอย่างแบบจบในเครื่องเดียว
สรุปซื้อรุ่นไหนดี?
- นักเรียน-นักศึกษา แนะนำ Galaxy Tab A9, A9+, S9 FE
- วัยทำงาน แนะนำ Galaxy Tab S9 FE
- นักเขียน แนะนำ Galaxy Tab A9, A9+, S9 FE
- นักวาด แนะนำ Galaxy Tab S9, S9+, S9 Ultra
- นักทำคอนเทนต์ แต่งรูป ตัดต่อคลิป แนะนำ Galaxy Tab S9 FE, S9, S9+, S9 Ultra
ซื้อที่ไหน?
Samsung Galaxy Tab A9 Series, S9 FE Series และ S9 Series วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store โดยมีราคาดังนี้:
- Galaxy Tab A9 LTE (4/64GB) : 6,990 บาท
- Galaxy Tab A9+ Wi-Fi (8/128GB) : 8,990 บาท
- Galaxy Tab A9+ 5G (8/128GB) : 10,990 บาท
ลิงค์สำหรับสั่งซื้อ : https://bit.ly/485nESl
โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567 แถมฟรี! Book Cover มูลค่า 1,590 บาท เฉพาะผู้ที่สั่งซื้อ Galaxy Tab A9+ รับส่วนลดทันที 40% สำหรับ Book Cover เมื่อซื้อพร้อม Galaxy Tab A9
- Galaxy Tab S9 FE Wi-Fi (6/128GB) : 16,990 บาท
- Galaxy Tab S9 FE 5G (6/128GB) : 19,990 บาท
- Galaxy Tab S9 FE+ Wi-Fi (8/128GB) : 23,900 บาท
- Galaxy Tab S9 FE+ 5G (8/128GB) : 27,900 บาท
ลิงค์สำหรับสั่งซื้อ : https://bit.ly/3GrHWJL
โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567 รับส่วนลด 2,000 บาท เมื่อซื้อ Galaxy Tab S9 FE+ และรับส่วนลดทันที 30% สำหรับ Smart Book Cover หรือ Book Cover Keyboard เมื่อซื้อพร้อม Galaxy Tab S9 FE และ Galaxy Tab S9 FE+
- Galaxy Tab S9 Wi-Fi (8/128GB) ราคา 28,900 บาท
- Galaxy Tab S9 5G (8/128GB) ราคา 32,900 บาท
- Galaxy Tab S9+ Wi-Fi (12/256GB) ราคา 35,900 บาท
- Galaxy Tab S9+ 5G (12/256GB) ราคา 39,900 บาท
- Galaxy Tab S9 Ultra 5G (12/256GB) ราคา 49,900 บาท
ลิงค์สำหรับสั่งซื้อ : https://bit.ly/47HM6Jq
โปรโมชันตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567 รับส่วนลด 3,000 บาท เมื่อซื้อ Galaxy Tab S9 Series (ทุกรุ่น) และรับส่วนลดทันที 30% สำหรับ Book Cover Keyboard พร้อมซื้อพร้อม Galaxy Tab S9 Series
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 18/12/2566