หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ

Date : 22/6/2564

พรีวิว Samsung Galaxy A22 5G สมาร์ทโฟน 5G ราคาดีที่สุดของค่าย จอลื่น ชิปเร็ว แบตใหญ่ ในงบแค่หลักพัน

หากเป็นช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว การจะเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน 5G สักเครื่องนั้นถือว่าไม่ง่าย เพราะตัวเลือกในตลาดบ้านเรานั้นยังมีค่อนข้างน้อย และมักจะจำกัดอยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟนเรือธง หรือรุ่นไฮเอนด์ราคาแพงเท่านั้น แต่เวลาผ่านไปเพียงแค่ 1 ปี เมื่อเครือข่าย 5G ในประเทศไทยเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น การจะหาสมาร์ทโฟน 5G มาใช้นั้นไม่ยากอีกต่อไป เพราะด้วยงบประมาณเพียงแค่ไม่ถึง 1 หมื่นบาท หรือเพียงแค่หลักพัน ก็สามารถเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน 5G ดี ๆ สักเครื่องได้แล้ว ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung ก็ลงมาเล่นในตลาดสมาร์ทโฟน 5G ราคาย่อมเยานี้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดวานนี้ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Samsung Galaxy A22 5G สมาร์ทโฟน 5G ที่มีราคาเข้าถึงง่ายที่สุดเท่าที่ Samsung เคยทำมาเพียง 8,299 บาท และเราก็ไม่พลาดที่จะนำมาพรีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันในเบื้องต้นครับ

ตัวเครื่องของ Galaxy A22 5G ที่เราได้รับมาลองใช้งานในครั้งนี้เป็นสี Gray ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นสีเทาที่เข้มมาก จนเกือบจะเป็นสีดำเลยทีเดียว

ด้านดีไซน์นั้นมาในแบบ Minimal ซึ่งดูเรียบง่าย ตามสไตล์ของผลิตภัณฑ์ Samsung รุ่นใหม่หลาย ๆ รุ่นในปีนี้ รอบ ๆ ตัวเครื่องมีความโค้งมนที่ช่วยให้สามารถจับถือได้อย่างถนัดมือ

วัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่องนั้นเป็นพลาสติก ทั้งกรอบด้านข้าง และฝาหลัง พร้อมผิวสัมผัสแบบด้าน ซึ่งช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ หรือคราบเปื้อนต่าง ๆ ได้ดี และไม่ลื่นมือ แต่ก็ยังซ่อนความเงาไว้เล็กน้อยเพื่อความสวยงาม โดยเฉพาะเมื่อตอนที่กระทบกับแสง

ส่วนของกล้องด้านหลังนั้นใช้ดีไซน์แบบ Square Camera หรือสี่เหลี่ยมด้านเท่า พร้อมกล้องจำนวน 3 ตัว (Triple Camera) + ไฟแฟลช LED ซึ่งประกอบไปด้วย

- กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide (Main) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8 และมุมรับภาพ 79 องศา
- กล้องตัวที่ 2 แบบ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/5.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 115 องศา
- กล้องตัวที่ 3 แบบ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4

ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องนั้นเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ Infinity-V Display (PLS-TFT LCD) ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2408x1080 พิกเซล) ในอัตราส่วนแบบ 20:9 พร้อมค่า Refresh Rate ที่ 90 Hz ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ลื่นไหลกว่าปกติ แต่ด้วยการที่หน้าจอเป็นแบบ PLS-TFT LCD จึงอาจจะยังสู้แสงจัด ๆ ในที่กลางแจ้งได้ไม่ดีนัก

บริเวณขอบด้านบนของหน้าจอมีลำโพงหูฟังสำหรับการสนทนา พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่ฝังอยู่ในหยดน้ำทรงตัว V

ขอบดำด้านข้าง กับด้านบนของหน้าจอนั้นถือว่ามีความบางเฉียบ แต่สำหรับขอบดำด้านล่างของหน้าจอถือว่าหนาพอสมควร

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงช่องใส่ถาดซิมการ์ด

โดยถาดซิมการ์ดที่ให้มาเป็นแบบ Triple Slot ซึ่งสามารถใส่ทั้ง Nano SIM จำนวน 2 ซิม กับการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้พร้อม ๆ กัน และแน่นอนว่าสามารถใช้งานกับเครือข่าย 5G ในประเทศไทยได้ทุกเครือข่ายตั้งแต่แกะกล่อง ทั้ง AIS, TrueMove H และ dtac

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ พร้อมใช้งานเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วยในตัว (Side-Mounted Fingerprint Scanner) และใกล้ ๆ กันนั้นก็จะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงรูไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงแบบเดี่ยว

เครื่อง Galaxy A22 5G ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยนั้นเป็นโมเดล SM-A226B/DS

ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ถูกครอบทับด้วย One UI Core 3.1

ซึ่ง One UI Core นั้นต่างจาก One UI รุ่นปกติตรงที่ทาง Samsung จะเลือกนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น (Entry-Level) รวมทั้งรุ่นระดับกลางบางรุ่น (Mid-Range) โดยจะมีฟีเจอร์บางอย่างที่ถูกปรับลดจาก One UI รุ่นปกติ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟนกลุ่มนี้

หน้าตาของแอปพลิเคชันพื้นฐานที่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน

สามารถเลือกเปิดใช้งานเครือข่าย 5G ได้ในแบบอัตโนมัติ (Auto Connect) ทั้ง 2 ซิมการ์ด (ใช้งาน 5G ได้ทีละซิม)

ด้านหน่วยประมวลผลที่นำมาใช้คือ MediaTek Dimensity 700 5G ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5G ระดับเริ่มต้นที่มีประสิทธิภาพดี เร็วพอที่จะตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล โดยมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8 GB และหน่วยความจำ ROM แบบ UFS 2.1 ขนาด 128 GB ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในระดับหนึ่ง แต่หากยังไม่พอ ก็สามารถใส่การ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD เพิ่มได้อีกสูงสุดถึง 1 TB เลยทีเดียว

เราสามารถตั้งค่า Refresh Rate ของหน้าจอได้โดยเข้าไปที่หน้า Motion Smoothness โดยหากเลือกแบบ High ก็จะเป็นการเลือกใช้ Refresh Rate ที่ 90 Hz แต่หากเราให้ความสำคัญการประหยัดพลังงานมากกว่า เราก็สามารถเลือกแบบ Standard ที่จะปรับ Refresh Rate ให้เป็น 60 Hz ได้เช่นกัน และนอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Eye Comfort Shield ที่จะช่วยถนอมสายตาด้วยลดแสงสีฟ้า

แม้จะไม่ใช้หน้าจอขอบโค้ง แต่ก็ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Edge Panels

ด้านระบบความปลอดภัยมีมาให้ทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง และระบบจดจำใบหน้า

แบตเตอรี่มีความจุอยู่ที่ 5000 mAh ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 15W Adaptive Fast Charging ที่อาจจะไม่ได้เป็นเทคโนโลยีที่เร็วที่สุด แต่ก็ถือว่าเร็วเพียงพอในสถานการณ์ทั่ว ๆ ไป

สุดท้าย สำหรับฟีเจอร์ของกล้องถ่ายภาพนั้นเรียกว่าทำมาเพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอทั่ว ๆ ไปได้อย่างครบถ้วน ทัั้งโหมดถ่ายภาพปกติ, โหมดถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ, โหมดบุคคล, โหมดถ่ายวิดีโอ, โหมดอาหาร, โหมดพาโนรามา, โหมดโปร, โหมด Hyperlapse, โหมดกลางคืน และโหมด Slow Motion

ตัวอย่างภาพถ่ายในเบื้องต้นจากกล้องหลัง และกล้องหน้าของ Samsung Galaxy A22 5G

สำหรับท่านใดที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy A22 5G รุ่นนี้ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ AIS Shop ทุกสาขา และร้านค้าในเครือ AIS ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ในราคา 8,299 บาท พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษจาก AIS เริ่มเพียง 1,289 บาท โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Gray, Mint และ Violet

และนอกจาก Galaxy A22 5G แล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งตัวเลือกที่เปิดตัวมาพร้อมกัน นั่นคือ Galaxy A22 รุ่น LTE ในราคา 6,999 บาท ซึ่งแม้จะมีดีไซน์ภายนอกที่แทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน แต่ก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่ต่างกัน เช่นการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอแบบ 90Hz HD+ Super AMOLED Infinity-U Display, ชิปเซ็ต Helio G80 + RAM 6 GB, กล้องหลัง 4 ตัว ที่มาพร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล เรียกว่าแม้ตัวเลือกนี้จะใช้งาน 5G ไม่ได้ แต่ก็มาพร้อมกับจอแสดงผลที่ดีกว่า, กล้องถ่ายภาพที่ดีกว่า และที่สำคัญคือมีราคาที่ย่อมเยากว่า โดย Galaxy A22 รุ่น LTE จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ Samsung.com, Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ

ส่วนรีวิวฉบับเต็มของ Galaxy A22 5G และ Galaxy A22 LTE ทุกท่านสามารถติดตามกันได้ในเร็ว ๆ นี้ครับ