สรุปจุดเด่น Samsung Galaxy A แต่ละรุ่นต่างกันอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร?
หากพูดถึงสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมที่สุดของ Samsung ก็คงจะต้องเป็น Galaxy A Series อย่างแน่นอน เพราะเป็นซีรีส์ที่มีหลายรุ่นให้เลือก และมีหลายช่วงราคา ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางบน แต่ด้วยความหลากหลายนี้เอง ทำให้หลายคนอาจจะสับสนว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นอย่างไร และต่างกันตรงไหนบ้างนอกจากราคา เราจึงได้สรุปจุดเด่น รวมถึงความแตกต่างของสมาร์ทโฟน Galaxy A Series ทุกรุ่นที่มีวางจำหน่ายในไทย ณ เวลานี้ มาให้ได้พิจารณากัน เพื่อให้เลือกซื้อรุ่นที่โดนใจกันง่ายขึ้นครับ
Samsung Galaxy A71
ราคากลาง 13,990 บาท
จุดเด่น
- จอใหญ่ 6.7 นิ้ว Super AMOLED สีสันสดใส ดูหนังและเล่นเกมได้เต็มอารมณ์
- ชิปเซ็ต Snapdragon 730 เล่นเกมส่วนใหญ่ได้สบาย
- กล้องหลัง 4 ตัว 64MP พร้อมฟีเจอร์ครบครัน
เหมาะกับ : ผู้ที่อยากได้สมาร์ทโฟนสเปกแรง จอสวย กล้องดี เล่นเกมลื่น ใช้แล้วไม่อึดอัด แต่มีงบประมาณไม่ถึงรุ่นเรือธง
Samsung Galaxy A71 เป็นรุ่นท็อปสุดของ A Series ที่มีวางจำหน่ายในไทย ณ ปัจจุบัน (สิงหาคม 2020) เป็นสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้นที่มีสเปกสูง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ จุดเด่นคือหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ใหญ่พอที่จะเล่นเกมและดูหนังได้อย่างเต็มตา ตัวเครื่องใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 730 ซึ่งก็เป็นชิปเซ็ตที่แรงพอสมควร สามารถเล่นเกมส่วนใหญ่ในปัจจุบันได้สบายๆ ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh นั้นก็ถือว่าอึดพอสมควร อีกทั้งยังรองรับชาร์จไว 25W ด้วย ด้านการถ่ายรูปถือว่าทำได้ดีเพราะเป็นกล้อง 4 ตัว 64MP มีครบทั้งเลนส์ Ultra Wide และ Macro พร้อมลูกเล่นต่างๆ มากมาย ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ โดยรวมเรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ดีรอบด้าน ถ้าต้องการสมาร์ทโฟนที่ใช้แล้วไม่หงุดหงิด แต่มีงบไม่ถึงเรือธง Samsung Galaxy A71 ถือว่าเหมาะเลยครับ
Samsung Galaxy A71 5G
ราคากลาง 19,990 บาท
จุดเด่น
- สเปกและความรู้สึกในการใช้งานเหมือนกับ Galaxy A71
- รองรับ 5G ในราคาถูกกว่ามือถือเรือธง
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ 5G ในงบที่ประหยัดกว่ามือถือเรือธง
Samsung Galaxy A71 5G เพิ่งเปิดตัวในบ้านเราได้ไม่นาน สเปกเกือบทั้งหมดเหมือนกับ A71 รุ่นธรรมดา ต่างกันที่รุ่น 5G จะใช้ชิปเซ็ต Exynos 980 ที่รองรับ 5G และมีประสิทธิภาพสูงกว่า Snapdragon 730 พอสมควร แต่โดยรวมแล้วฟีลลิ่งในการใช้งานยังเหมือนกับ A71 รุ่นธรรมดา ทั้งนี้ A71 5G มีราคากลางแพงกว่า A71 รุ่นธรรมดาราว 6,000 บาท แลกมากับการได้ใช้ 5G และชิปเซ็ตที่แรงขึ้นมาอีกหน่อย ในส่วนนี้อาจจะต้องชั่งน้ำหนักกันว่าต้องการใช้ 5G มากขนาดไหน เพราะจริงๆ แล้วเครือข่าย 5G ในบ้านเราก็ยังไม่แพร่หลายมากเท่าไหร่ครับ
Samsung Galaxy A51
ราคากลาง 9,999 บาท
จุดเด่น
- จอใหญ่ 6.5 นิ้ว Super AMOLED สีสันสดใส ดูหนังและเล่นเกมได้เต็มอารมณ์
- เล่นเกมทั่วๆ ไปอย่าง RoV หรือ PUBG ได้อย่างไม่มีปัญหา
- กล้องหลัง 4 ตัว 48MP พร้อมฟีเจอร์ครบครัน
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับกลางที่รับมือได้ทุกงานทั้งดูหนัง เล่นเกม ถ่ายรูป ในงบ 10,000 บาท
Samsung Galaxy A51 คือ Samsung Galaxy A71 ที่ลดสเปกลงมาเล็กน้อยและขายในราคาที่ถูกลง ฟีลลิ่งการใช้งานจะคล้ายกับ Galaxy A71 มาก แต่ประสิทธิภาพไม่สูงเท่า อย่างไรก็ตาม สเปกของ Galaxy A51 ก็อยู่ในระดับที่รับได้ทุกงานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป, การเล่นเกม, ถ่ายรูป และอื่นๆ ถ้าใครต้องการมือถือที่ทำได้ทุกอย่าง ไว้ใจได้ ไม่งอแง ในราคาประมาณหมื่นบาท Samsung Galaxy A51 ตอบโจทย์แน่นอน
Samsung Galaxy A31
ราคากลาง 7,999 บาท
จุดเด่น
- แบตเตอรี่อึดกว่ารุ่นบนๆ (5000mAh)
- เล่นเกมทั่วๆ ไปได้ ในระดับที่น่าพอใจ
- กล้องหลัง 4 ตัว 48MP ถ่ายรูปสวยไม่แพ้มือถือรุ่นอื่น
- มีสแกนนิ้วใต้จอ
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนไว้ใช้งาน เน้นดูหนัง ดูซีรีย์ ไม่เน้นเล่นเกมมากเท่าไหร่
Samsung Galaxy A31 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีสเปกต่ำกว่า Galaxy A51 แต่ยังคงมีจุดเด่นที่หน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ที่ให้สีสันสวยงามกว่าจอ IPS และใหญ่พอสมควร โดยมีความละเอียดระดับ FHD+ ดูหนังดูซีรีย์ได้สบาย แถมมีแบตเตอรี่ 5000mAh อึดกว่ารุ่นบนๆ ส่วนกล้องก็ถือว่าโดดเด่น โดยเป็นกล้อง 4 ตัว ความละเอียด 48MP สเปกโดยรวมอยู่ในระดับที่ใช้งานได้ทั้งการทำงานและความบันเทิง แต่การเล่นเกมบางเกมอาจจะไม่ลื่นไหลติดมือเท่าที่ควร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนไว้ใช้งาน เน้นดูหนัง ดูซีรีย์ ไม่เน้นเล่นเกมมากครับ
Samsung Galaxy A21s
ราคากลาง 5,790 บาท
จุดเด่น
- สเปกใกล้เคียงกับ A31 แต่ความจุน้อยกว่า
- รองรับการใช้งานทั่วไปได้ครบถ้วน และเล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนไว้ใช้งาน เน้นดูหนัง ไม่เน้นเล่นเกมมาก และไม่ซีเรียสเรื่องหน้าจอ TFT
Samsung Galaxy A21s มีสเปกโดยรวมที่ใกล้เคียงกับ Galaxy A31 มากเรียกว่าสูสีกันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นรุ่นใหม่ที่อัปเกรดมาจาก A21 เดิม ฟีลลิ่งในการใช้งานไม่ต่างกันมากนัก แต่จุดที่น่าสังเกตคือรุ่นนี้จะใช้จอประเภท TFT LCD ซึ่งแสดงสีสันได้ไม่ดีเท่าจอ Super AMOLED ของ Galaxy A31 และไม่สามารถฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอได้ จึงต้องย้ายเซ็นเซอร์ไปด้านหลังตัวเครื่องแทน เรียกได้ว่าลดสเปกหน้าจอและเซ็นเซอร์สแกนนิ้วลงเพื่อขายในราคาที่ถูกกว่า แต่เซ็นเซอร์สแกนนิ้วด้านหลังก็มีประสิทธิภาพที่รวดเร็วไม่ต่างจากการสแกนบนหน้าจอเลย โดยรวมแล้ว Samsung Galaxy A21s จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ซีเรียสเรื่องหน้าจอ และต้องการประหยัดมากขึ้นครับ
Samsung Galaxy A11
ราคากลาง 4,799 บาท
จุดเด่น
- ราคาประหยัด ไม่ถึง 5,000 บาท
- จอใหญ่ ใช้งานง่าย
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงไว้ใช้งาน เล่นโซเชียล ติดต่อลูกค้า โดยไม่เน้นเล่นเกม
สำหรับรุ่นนี้จะเป็นรุ่นประหยัดที่ให้ความรู้สึกในการใช้งานต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างรู้สึกได้ เพราะตัวเครื่องดูเป็นพลาสติกค่อนข้างชัดเจน ด้วยสเปกที่ไม่สูงมากการใช้งานจะรู้สึกว่าไม่ลื่นไหลติดมือเท่ากับรุ่นอื่นๆ แต่ก็ตอบสนองได้รวดเร็ว ไม่ทำให้หงุดหงิดแต่อย่างใด คุณภาพของกล้องถ่ายรูปถือว่าพอใช้ได้ในชีวิตประจำวัน แต่ลูกเล่นจะค่อนข้างน้อย และถ่ายรูปในที่มืดได้ไม่ค่อยดีนัก โดยรวมเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนเครื่องสำรอง หรือสมาร์ทโฟนที่เอาไว้ทำงาน เล่นโซเชียล ติดต่อลูกค้า ในราคาเบาๆ
Samsung Galaxy A01 Core
ราคากลาง 2,500 บาท
จุดเด่น
- ราคาถูกสุดเพียง 2,000 กว่าบาท
- งานประกอบทนทาน ตกพื้นแบตไม่หลุดกระจาย
เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงไว้ใช้งานอย่างเดียว และมีความทนไม้ทนมือ แต่ไม่อยากใช้มือถือปุ่มกด
Samsung Galaxy A01 Core คือน้องสุดท้องของตระกูล A ณ ขณะนี้ และมีราคาถูกที่สุดด้วย โดยมาในราคาเพียงสองพันกว่าบาทเท่านั้น สเปกที่ให้มาแค่ให้เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่นการโทร ท่องเว็บ เล่นโซเชียล ไม่เหมาะกับการเล่นเกม ส่วนกล้องก็มีแค่โหมดอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว ไม่มีลูกเล่นใดๆ มาให้ แต่ตัวเครื่องออกแบบมาแตกต่างจากสมาร์ทโฟนระดับล่างทั่วไปตรงที่เปิดฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ได้ ถือเป็นข้อดีเพราะทำให้ทนทานยิ่งขึ้น น้ำซึมเข้าเครื่องยากขึ้น และจะไม่มีเหตุการณ์ที่ตกพื้นแล้วแบตกระจายอย่างแน่นอน จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือคู่ใจไว้ใช้งาน ลุยได้ทุกที่ ในราคาที่ถึงพังไปก็ไม่เสียดายมาก หรือผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องสำรองครับ
อย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำจากทีมงาน Thaimobilecenter เท่านั้น ในท้ายที่สุดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองว่าจะชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นไหนมากกว่ากัน จึงควรทดลองจับของจริงที่หน้าร้านก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนที่โดนใจเราที่สุดครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 28/8/2563
