เปิดตัว realme X50 Pro 5G เรือธง 5G ชิป Snapdragon 865 จับคู่ RAM 12GB กล้อง AI 4 ตัว 64MP กล้องหน้าคู่ 32MP และชาร์จเร็ว 65W SuperDart ใหม่ล่าสุด ในราคาเริ่มที่ 16,700 บาท
ล่าสุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ realme X50 Pro 5G สมาร์ทโฟนเรือธง 5G รุ่นใหม่จากทาง realme ที่มากับการดีไซน์ระดับพรีเมียม และฟีเจอร์ระดับท็อปแบบจัดเต็ม โดยมาพร้อมกับเส้นรับสัญญาณรอบตัวเครื่อง และรองรับ 5G ในทุกคลื่น กับความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลเร็วสุดที่ 1.5 Gbps ที่เร็วขึ้นถึง 40%
realme X50 Pro 5G มาในดีไซน์จอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าคู่แบบ Dual Punch-Hole Display เทคโนโลยี Super AMOLED E3 จากทาง Samsung ขนาดใหญ่เต็มตา 6.44 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 กับพื้นที่การแสดงผลทั้งหมด 92% คมชัดระดับ Full HD+ โดยมีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz และ Sampling Rate ระดับ 180Hz รองรับมาตรฐาน HDR10+ พร้อม DCI-P3 มีค่าความสว่างสูงสุด 1000nits และฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint)
ตัวเครื่องรันด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 ตัวท็อปรุ่นล่าสุด ที่ทาง realme ระบุว่ามีผลทดสอบประสิทธิภาพจากทาง AnTuTu Benchmark สูงถึง 605,327 คะแนน พร้อมรองรับเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ VC Cooling System โดยทำงานร่วมกับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาดสูงสุดที่ 12GB จับคู่ ROM มาตรฐาน UFS 3.0 (Dual Channel) ความจุสูงสุดที่ 256GB รวมถึงมีแบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วสุดของค่ายอย่าง 65W SuperDart Charge ที่สามารถชาร์จจากระดับ 0 - 100% ได้ภายในเวลา 35 นาที และการชาร์จเพียง 3 นาทีสามารถชมภาพยนตร์ได้ 100 นาที / โทรศัพท์ได้นาน 4 ชั่วโมง / ฟังเพลงได้ 40 เพลง นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยทั้งหมด 5 ชั้นอีกด้วย
realme X50 Pro 5G มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) แบ่งออกเป็นกล้องหลักคมชัด 64MP พร้อมเลนส์ Ultra-Wide Angle คมชัด 8MP ถ่ายภาพมุมกว้างสุด 119 องศา พร้อมถ่าย Macro ระยะใกล้สุดที่ 3 เซนติเมตร, เลนส์ Telephoto คมชัด 12MP รองรับซูมสุด 20x Hybrid Zoom และเลนส์ B&W Portrait โดยมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพกลางคืน NightScape 3.0 เวอร์ชันใหม่ และโหมดสำหรับถ่ายวิดีโอแบบครบครัน ทั้ง Ultra-Wide, Real-Time Bokeh Effect, UIS Stabilization และ Slo-mo ที่ระดับ 960fps
สำหรับกล้องหน้าเป็นแบบคู่ฝังอยู่ในหน้าจอ ประกอบด้วย กล้องหลัก 32MP เซ็นเซอร์ Sony IMX616 พร้อมด้วยเลนส์ Ultra-Wide Angle 8MP โดยรองรับการถ่ายเซลฟี่ในมุมกว้าง, โหมดถ่ายภาพกลางคืน NightScape 3.0 และฟังก์ชันถ่ายวิดีโอเทียบเท่ากล้องหลัง ได้แก่ Ultra-Wide, Real-Time Bokeh Effect, UIS Stabilization และ Slo-mo ที่ระดับ 120fps
realme X50 Pro 5G ยังมาพร้อมกับ realme UI บนพื้นฐานของ Android 10 ที่ปรับโฉมการดีไซน์ User Interface ใหม่หมดจด ที่ให้ความสำคัญทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ระบบสี, ไอคอน, พื้นหลัง และภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชัน โดยผู้ใช้สามารถปรับการแสดงผลของไอคอนได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น Dark Mode ในการเปลี่ยนพื้นหลังให้กลายเป็นสีดำ และยังเลือกให้แอปพลิเคชันจาก Third-Party แสดงผลพื้นหลังเป็นสีดำได้ด้วยเช่นกัน รวมถึงฟังก์ชัน Focus Mode สำหรับช่วยตัดผู้ใช้ออกจากโลกภายนอก โดยระบบจะปิดแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้แบบชั่วคราว พร้อมเปิดเพลงสบายๆ โดยผู้ใช้สามารถเลือก Theme ของเพลงได้ และเปิดโหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ตอบโจทย์เวลาที่ผู้ใช้ต้องการสมาธิ หรือเข้านอนนั่นเอง
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ realme X50 Pro 5G
- ตัวเครื่องมีขนาด 158.96x74.24x8.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 205 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Dual Punch-Hole Super AMOLED E3 Full Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 408 ppi : สัดส่วนการแสดงผลของหน้าจออยู่ที่ 92%) โดยมี Refresh Rate ระดับ 90Hz และครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 3D Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 865
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 650
- หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 ขนาด 6GB / 8GB / 12GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 3.0 ขนาด 128GB / 256GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung GW1 ขนาด 1/1.72 นิ้ว โครงสร้าง 6 ชิ้นเลนส์ มีขนาดรูนับแสงที่ F/1.8 เก็บภาพมุมกว้างสูงสุด 78.6 องศา มีทางยาวโฟกัส 26mm
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โครงสร้าง 5 ชิ้นเลนส์ ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.3 เก็บภาพมุมกว้างสุด 119 องศา พร้อมถ่าย Macro ระยะใกล้สุดที่ระยะ 3 เซนติเมตร มีทางยาวโฟกัส 15.7mm
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โครงสร้าง 5 ชิ้นเลนส์ ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.5 มีทางยาวโฟกัส 54mm รองรับ Optical Zoom 5 เท่า และ Hybrid Zoom 20 เท่า
- กล้องตัวที่สี่เลนส์ B&W Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.4 เก็บภาพมุมกว้างสูงสุด 88.8 องศา
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบคู่ (Dual In-Display Selfie) ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX616 โครงสร้าง 5 ชิ้นเลนส์ มีขนาดรูนับแสงที่ F/2.5 เก็บภาพมุมกว้างสูงสุด 80.4 องศา และกล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โครงสร้าง 5 ชิ้นเลนส์ ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.2 เก็บภาพมุมกว้างสุด 105 องศา
- แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ซึ่งถูกครอบทับด้วย realme UI
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint)
- ระบบสแกนใบหน้า (AI Facial Unlock)
- ระบบเสียง Dolby Atmos พร้อม 1216 Super Linear Speaker
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G
- รองรับการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual-SIM)
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1 และ NFC
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
realme X50 Pro 5G มีตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีแดง (Rust Red) และสีเขียว (Moss Green) โดยเริ่มขายในประเทศอินเดียแล้ววันนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 6GB+128GB ราคา 37,999 รูปี (ประมาณ 16,700 บาท)
- รุ่น 8GB+128GB ราคา 39,999 รูปี (ประมาณ 17,600 บาท)
- รุ่น 12GB+256GB ราคา 44,999 รูปี (ประมาณ 19,800 บาท)
สำหรับการวางจำหน่ายในยุโรปก็แบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยเช่นกัน แต่มี RAM + ROM ต่างจากในอินเดีย ดังนี้
- รุ่น 8GB+128GB ราคา 599 ยูโร (ประมาณ 20,500 บาท)
- รุ่น 8GB+256GB ราคา 669 ยูโร (ประมาณ 22,900 บาท)
- รุ่น 12GB+256GB ราคา 749 ยูโร (ประมาณ 25,700 บาท)
ที่มา : realme
วันที่ : 24/2/2563
![](../img/icon/icon_article_review_orange.png)