หลังจากที่มีการปล่อยทีเซอร์พร้อมยืนยันกำหนดการเปิดตัวของมือถือรุ่นอัปเกรดจากตระกูลยอดนิยมอย่าง realme 8 และ realme 8 5G ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดทางทีมงานก็ได้มีโอกาสจับตัวเครื่องจริงของทั้งสองรุ่นนี้ก่อนใคร จึงไม่พลาดที่จะนำภาพมาฝากกันเช่นเคย และหากพร้อมแล้วไปชมการพรีวิว realme 8 | 8 5G กันเลยค่ะ

 

realme 8 และ realme 8 5G มาในแพ็กเกจสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมระบุชื่อรุ่นไว้อย่างชัดเจน

 

ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์, สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน โดยในรุ่น realme 8 จะมาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 30W Dart Charge (5V/6A)

 

ส่วนรุ่น realme 8 5G มาพร้อมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 18W Fast Charging

 

realme 8 และ realme 8 5G มาในดีไซน์จอไร้ขอบ ไร้รอยบาก เจาะรูกล้องหน้าที่มุมบนซ้ายเหมือนกัน โดยรุ่น realme 8 จะมีขนาดรูกล้องหน้าเล็กกว่า

โดย realme 8 มีหน้าจอแสดงผล Super AMOLED Fullscreen ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล) 

ส่วนรุ่น realme 8 5G มีหน้าจอ 90Hz Ultra Smooth Display ขนาด 6.5 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล) พร้อมรองรับค่า Refresh Rate ระดับสูงสุดที่ 90Hz

 

ที่ด้านบนหน้าจอมีเพียงลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ สำหรับกล้องหน้าฝังบนจอแบบ  In-Display Selfie มีความละเอียดเท่ากันที่ 16 ล้านพิกเซล 

 

ด้านหน้าส่วนล่างใช้ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ (ค่าเริ่มต้น)

 

ที่ด้านบนของตัวเครื่อง realme 8 มีไมโครโฟนตัวที่สอง ส่วนรุ่น realme 8 5G ไม่มีช่อง หรือปุ่มสั่งการใดๆ

 

ที่ด้านล่างตัวเครื่องประกอบไปด้วยลำโพงเสียงตัวหลัก, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องแตกต่างกันเล็กน้อย โดย realme 8 จะมีเพียงถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Triple-Slot ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้ในเวลาเดียวกัน

ส่วน realme 8 5G มีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot เช่นเดียวกัน พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง

 

ที่ด้านขวาตัวเครื่อง realme 8 มีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ทาง realme 8 5G มีเพียงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่องในตัว

 

ฝาหลังของ realme 8 มีความโดดเด่นที่ลวดลายแบบแยกส่วน ที่มีความเงางาม สะท้อนแสงแบบโฮโลแกรม โดยสีที่ทางทีมงานนำมาพรีวิวให้ได้ชมกันเป็นสี Cyber Silver

สำหรับ realme 8 5G มีฝาหลังเงางาม สะท้อนแสงไฟเป็นริ้ว Dynamic Speed Light โดยสีที่ทางทีมงานนำมาพรีวิวให้ได้ชมกันเป็นสี Supersonic Blue

 

realme 8 มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย

• กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล (f1.79)
• กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.25) 
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4)
• กล้อง B&W Lens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4)

 

realme 8 5G มีกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย

• กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (f1.8)
• กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4)
• กล้อง B&W Lens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4)

 

realme 8 ประมวลผลด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 ที่มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 300,676 คะแนน

 

ส่วน realme 8 5G รองรับเครือข่าย 5G ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 700 และมีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 297,345 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกัน 

 

นอกจากนี้ realme 8 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge (5V/6A) ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จได้เป็นอย่างดี และเหลือเวลาไปทำกิจกรรมอื่นได้แบบสบายๆ  อีกด้วย

 

สำหรับ realme 8 และ realme 8 5G จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยวันที่ 21 เมษายนนี้ ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันค่ะว่าจะเปิดราคามาถูกใจทุกท่านหรือไม่ และจะมีฟีเจอร์ใดที่น่าสนใจอีกบ้าง

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 19/4/2564