พรีวิว realme 6 Pro สมาร์ทโฟนจอ 90Hz ฝังกล้องหน้าคู่แบบ In-Display กับชิป Snapdragon 720G รุ่นแรกของโลก พร้อมกล้องหลัง 4 ตัว 64MP และแบตชาร์จเร็ว 30W บนดีไซน์ใหม่แบบสายฟ้า ในราคาแค่หลักพัน
เป็นที่ทราบกันดีนะคะว่าทาง realme ประเทศอินเดีย ได้เปิดตัวรุ่นน้องใหม่อย่าง realme 6 และ realme 6 Pro อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับการปรับโฉมดีไซน์ใหม่อีกครั้งให้พรีเมียมมากขึ้น และอัปเกรดฟีเจอร์ภายในแบบครบครัน โดยการใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Qualcomm Snapdragon 720G เป็นรุ่นแรกของโลก
และทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้มีโอกาสสัมผัสตัวเครื่องจริงของ realme 6 Pro ก่อนใคร จึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาฝากผู้อ่านทุกท่านเหมือนเช่นเคย ซึ่งจะมีความพรีเมียมขนาดไหน และมีฟีเจอร์ใดที่น่าสนใจบ้าง ไปชมการพรีวิว realme 6 Pro พร้อมกันได้เลยค่ะ
realme 6 Pro มาในแพ็กเกจสีเหลือง ที่เป็นสีเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมระบุชื่อรุ่นไว้อย่างชัดเจน
ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์ VOOC (5V/6A), สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, เคสใส, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน
ภาพตัวอย่างการสวมใส่เคสใสที่แถมมาให้ภายในแพ็กเกจ
สำหรับการดีไซน์ของ realme 6 Pro เรียกได้ว่าปรับโฉมครั้งใหญ่จาก realme 5 รุ่นก่อนหน้าในหลายส่วน ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลไร้ขอบที่มีการเจาะรูกล้องหน้าแบบคู่ Dual In-Display Selfie ขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 398 ppi) ในอัตราส่วน 20:9 มีพื้นที่การแสดงผลคิดเป็น 90.6% และครอบทับด้วยกระจก 2.5D Gorilla Glass 5
หนึ่งในฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์ของ realme 6 Pro จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากหน้าจอแสดงผลที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนระดับใกล้เคียงกัน ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานต่างๆ โดยเฉพาะการเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลกว่าที่เคย
ที่ด้านบนตัวเครื่องไม่มีรอยบากทรงหยดน้ำอีกต่อไป โดยมีเพียงลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ สำหรับกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ฝังอยู่บนหน้าจอที่มุมบนซ้ายแบบ Dual In-Display Selfie ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องรองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ด้านหน้าส่วนล่างใช้ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
หรือเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง
ที่ด้านล่างประกอบด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่อหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดแบบ Triple-Slot ซึ่งรองรับการใส่ 2 ซิมการ์ด แบบ nanoSIM และการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ที่ความจุสูงสุด 256GB ได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมด้วยปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง
สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ย้ายมาอยู่ที่ด้านขวาตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint) พร้อมกับเป็นปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และล็อกหน้าจอในตัว
realme 6 Pro มีฝาหลังดีไซน์ใหม่ในชื่อ Chic Lightning Design ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสายฟ้า พร้อมเทคโนโลยีการพิมพ์ไล่สีแบบ UV-Curing ที่มีการปรับแต่งกว่า 100 ครั้ง จึงทำให้ลวดลายดูมีมิติ และสวยพรีเมียมกว่ารุ่นก่อนๆ รวมถึงรองรับเทคโนโลยีป้องกันละอองน้ำแบบ 3 ชั้น (ไม่สามารถนำไปจุ่มน้ำได้นะคะ) โดยสีที่ทางทีมงานนำมาพรีวิวให้ได้ชมกันนั้นเป็นสี Lightning Blue
ที่ด้านหลังติดตั้งกล้องทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบไปด้วย
- กล้องตัวแรกแบบ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.3 เก็บภาพมุมกว้างสุด 119 องศา
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung GW1 รูรับแสงขนาด F/1.8
- กล้องตัวที่สามแบบ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.5 รองรับการซูมแบบ 20x Hybrid Zoom
- กล้องตัวที่สี่แบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับการถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
จากที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า realme 6 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 720G เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งก็ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในประเทศไทยที่ได้ใช้ชิปเซ็ตรุ่นนี้อีกด้วย โดยมีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าประมาณ 60% บนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 8nm และมาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon Elite Gaming ที่รองรับการเล่นเกมแบบ HDR ผสานหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Adreno 618 ที่ประสิทธิภาพดีขึ้น 75% เรียกได้ว่าตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
realme 6 Pro รุ่นที่ทางทีมงานนำมาทดสอบมาพร้อมกับ RAM ขนาด 8GB + ROM ขนาด 128GB
realme 6 Pro มีผลทดสอบประสิทธิภาพจากแอปพลิเคชันชื่อดังอย่าง AnTuTu Benchmark ที่ 282,375 คะแนน และผลทดสอบจาก Geekbench 5 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 577 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 1,637 คะแนน
สำหรับผลทดสอบการประมวลผลด้านกราฟิกจากแอปพลิเคชัน 3DMark แบบ OpenGL ES 3.1 อยู่ที่ 2,527 คะแนน และแบบ Vulkan ได้ 2,328 คะแนน
โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย realme UI 1.0 ที่เน้นไปใน 4 ด้านหลักๆ ได้แก่ ระบบสี, ไอคอน, พื้นหลัง และภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชัน พร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอีกมากมาย อย่างเช่น Focus Mode สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาธิ หรือเข้านอน โดยทำการปิดแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้แบบชั่วคราว พร้อมเปิดเพลงสบายๆ และ Dark Mode ในการเปลี่ยนพื้นหลังให้กลายเป็นสีดำเพื่อความสบายตาขณะใช้งาน
Focus Mode
Dark Mode
นอกจากนี้ realme 6 Pro ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ระดับ 0-70% ได้ในเวลา 30 นาที หรือชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง รวมถึงรองรับระบบความปลอดภัยในการชาร์จทั้งหมด 5 ชั้น ตั้งแต่ในตัวเครื่องสมาร์ทโฟน ไปจนถึงอะแดปเตอร์ ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานขณะชาร์จได้อย่างปลอดภัย
สำหรับ realme 6 Pro ที่วางจำหน่ายในประเทศอินเดียมีราคาเริ่ม 16,999 รูปี (ประมาณ 7,300 บาท) ส่วนรุ่น realme 6 มีราคาเริ่มที่ 12,999 รูปี (ประมาณ 5,600 บาท) ซึ่งรุ่นย่อยที่วางจำหน่ายจริงในประเทศไทยจะมีรุ่นอื่นๆ เหมือนในประเทศอินเดียด้วยหรือไม่ ต้องติดตามข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
realme 6 Series จะเปิดตัวในประเทศไทยแบบออนไลน์ในวันที่ 11 มีนาคมนี้ ซึ่งก็ต้องมาติดตามกันค่ะว่าจะมีฟีเจอร์เด่นด้านใดอีกบ้าง และจะเปิดราคาวางจำหน่ายที่เท่าไร
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 9/3/2563
