พรีวิว PICO 4 Ultra แว่น VR+MR สุดล้ำ ที่ให้คุณได้วาร์ปเข้าสู่โลกใหม่ ในราคาที่จับต้องได้
ใครที่ติดตาม Thaimobilecenter อยู่จะทราบดีว่าปกติแล้วเราจะพรีวิวมือถือและแท็บเล็ตกันเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับครั้งนี้เราจะมาขอลองอะไรใหม่ ๆ กันบ้าง ซึ่งนั่นก็คือแว่น VR สุดล้ำ PICO 4 Ultra รุ่นนี้ครับ
จริง ๆ แล้ว PICO 4 Ultra ไม่ได้เป็นแค่แว่น VR (Virtual Reality) อย่างเดียว แต่ยังเป็นแว่น MR (Mixed Reality) ในตัวด้วย ทำให้สามารถแสดงผล VR ซ้อนกับโลกความจริงได้ สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาต่อยอดจาก PICO 4 ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้น, กล้องที่ชัดขึ้น และการวัดมิติความลึกที่แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยราคาค่าตัวเพียง 19,999 บาททำให้เป็น VR Headset ระดับ mid-range ที่น่าสนใจ เหมาะกับผู้ที่กำลังจะเข้าสู่โลก VR เป็นครั้งแรก ไปจนถึงชาว VR ที่ต้องการแว่นคุณภาพสูงไว้ใช้งาน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชม พรีวิว PICO 4 Ultra กันเลยครับ
สเปกเบื้องต้นของ PICO 4 Ultra
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon XR2 Gen 2
- จอความละเอียด 2160 x 2160 พิกเซล (ต่อข้าง) อัตรารีเฟรช 90Hz
- มุมรับภาพ 105 องศา
- กล้อง Mixed Reality ความละเอียด 32MP 2 ตัว
- กล้องวัดความลึก iToF 1 ตัว
- กล้องตรวจจับสภาพแวดล้อม 4 ตัว
- RAM 12GB LPDDR5
- ความจุภายใน 256GB UFS 3.1
- รองรับ Wi-Fi 7
- รองรับ Bluetooth 5.3
- ลำโพงเสียงสเตอริโอ
- ไมโครโฟน 4 ตัว
- แบตเตอรี่ 5,700mAh รองรับชาร์จไว 45W (QC 4.0 / PD 3.0)
- คอนโทรลเลอร์ใช้แบตเตอรี่ AA 2 ก้อน (ต่อข้าง)
- น้ำหนักแว่น 580 กรัม
ดีไซน์ภายนอก
PICO 4 Ultra มีหน้าตาเหมือนแว่น VR/MR ทั่วไป โดยมาในดีไซน์ futuristic สีขาวสะอาดตา ตัวแว่นมีน้ำหนักไม่มาก ใส่แล้วไม่เมื่อยคอ
ตัวแว่นสามารถปรับให้พอดีกับศีรษะของผู้ใช้ได้ โดยหมุนที่ล้อด้านหลังเพื่อปรับความกว้างของสายคาดหัว นอกจากนี้ด้านบนยังมีสายรัดช่วยเพิ่มความกระชับ ซึ่งปรับได้เช่นกัน
ปุ่มเปิดเครื่องจะอยู่ใกล้ ๆ แว่นด้านขวา ส่วนด้านซ้ายจะเป็นพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จ, โอนถ่ายข้อมูล และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
เห็นอย่างนี้ PICO 4 Ultra มีลำโพงในตัว โดยจะอยู่บนสายคาดใกล้ๆ กับหู ทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังเลย
ตัวแว่นจะมากับคอนโทรลเลอร์ 2 อัน สำหรับควบคุมสิ่งต่าง ๆ ในโลก VR
นอกจากนี้ PICO 4 Ultra ยังมีอุปกรณ์เสริมคือ Motion Tracker ซึ่งเป็นเซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวสำหรับสวมใส่บนข้อเท้า มาพร้อมสายรัดยืดหยุ่นแบบปรับได้ และมีน้ำหนักเบาเพียง 27 กรัมต่อข้าง สำหรับใช้งานร่วมกับเกมหรือแอปพลิเคชันบางตัวที่ต้องจับการเคลื่อนไหวบริเวณเท้าด้วย ส่วนการใช้งานทั่วไปอย่างการดูหนัง, ทำงาน ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ครับ
เปิดประตูสู่โลก VR!
ทันทีที่เราใส่และเปิด PICO 4 Ultra เราจะถูกต้อนรับด้วยบรรยากาศของโลก VR ทันที ก้อนหินทุกก้อนและต้นไม้ทุกต้นในฉากจะมีมิติสมจริง และเป็นมุมมอง 360 องศา สามารถหันไปดูอะไรทางไหนก็ได้ตามใจชอบ ใครที่ใช้แว่น VR ครั้งแรกจะรู้สึกราวกับว่าถูกวาร์ปไปอีกโลกหนึ่งเลย หรือถ้าไม่ชอบฉาก VR แบบนี้ก็ยังมีฉากแบบอื่นให้เปลี่ยนอีกเพียบ
เบื้องหน้าของเราจะมีหน้าต่างเริ่มต้น และมีแถบเมนูอยู่ด้านล่าง (หากไม่มีให้กดปุ่มสีแดงบนคอนโทรลเลอร์ข้างขวา) ซึ่งเราสามารถย่อ-ขยาย หรือย้ายตำแหน่งได้โดยใช้คอนโทรลเลอร์
จากภาพสกรีนช็อตอาจจะดูไม่ใหญ่ แต่ระยะสายตาที่เราเห็นในแว่นจริง ๆ จะอยู่ในบริเวณวงกลมสีแดงดังรูป บอกเลยว่าใหญ่เต็มตาแน่นอน
โหมดการใช้งานจะมี 2 โหมด โหมดที่พาเราเข้าไปอยู่ในโลก VR เต็ม ๆ นี้คือโหมด Immersive ส่วนอีกโหมดหนึ่งคือโหมด Seethrough ที่จะทำให้เราเห็นสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ด้วย สามารถสลับโหมดได้ตลอดเวลาโดยกดที่ปุ่มรูปแว่นบนแถบเมนูด้านล่าง ซึ่งการที่เราเห็นวัตถุในโลก VR ซ้อนกับโลกความจริงแบบนี้ก็คือ MR หรือ Mixed Reality นั่นเองครับ
ทั้งนี้ การควบคุมแอปพลิเคชันจะใช้คอนโทรลเลอร์เป็นหลัก แต่ก็สามารถควบคุมด้วยมือเปล่า ๆ ของเราเองได้เช่นกันในกรณีที่ตัวคอนโทรลเลอร์แบตเตอรี่หมด หรือไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ
PICO 4 Ultra สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ในตัว โดยรองรับ Wi-Fi 7 สามารถท่องเว็บ, สตรีมหนัง และเล่นเกมได้เต็มที่
ซอฟต์แวร์ของ PICO 4 Ultra จะเป็นระบบ Android แต่แอปพลิเคชันต่าง ๆ จะมีสโตร์ให้ดาวน์โหลดแยกจากสมาร์ทโฟนอย่างสิ้นเชิง โดยเป็นแอปและเกม VR/MR โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูง ตั้งแต่ 300-1,000 บาทขึ้นไป แต่แอปฟรีก็มีอยู่บ้างเช่นกัน
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ PICO 4 Ultra คือเมื่อเราดูวิดีโอแบบ full screen เราจะเหมือนถูกวาร์ปเข้ามาอยู้่ในโรงหนัง โดยมีจอขนาดยักษ์อยู่ตรงหน้า ล้อมรอบด้วยห้องมืด ๆ ให้อารมณ์เหมือนดูหนังแบบเหมาโรงคนเดียวเลย
ส่วนเกมบน PICO 4 Ultra จะให้อารมณ์ที่แตกต่างจากการเล่นเกมทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะเราจะรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ในเกมจริง ๆ และต้องออกท่าทางตลอด ทำให้อินไปกับเกมได้มากกว่า แต่เพื่อความปลอดภัยควรเว้นพื้นที่ว่างรอบตัวไว้ประมาณ 2 เมตร ซึ่งตัวแว่นจะแสดงระยะปลอดภัยให้เราเห็นทุกครั้งก่อนเข้าสู่แอปหรือเกมครับ
PICO 4 Ultra สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ โดยเราจะต้องติดตั้งโปรแกรม PICO connect ลงในคอมพิวเตอร์เสียก่อน (ส่วนในแว่นจะมีอยู่แล้ว) สามารถเชื่อมต่อได้ 2 วิธีคือผ่าน Wi-Fi และ USB หากเป็นการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ทั้งแว่นและคอมพิวเตอร์จะต้องอยู่ในวง Wi-Fi เดียวกัน
พอเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้วจะทำให้เราเห็นหน้าจอคอมพิวเตอร์ลอยขึ้นมาตรงหน้าแบบนี้เลย
นอกจากนี้ PICO 4 Ultra ยังรองรับการทำงานร่วมกับ SteamVR ทำให้เราสนุกกับคอนเทนต์และเกม VR บนแพล็ตฟอร์ม Steam ได้อย่างเต็มรูปแบบ หรือจะเล่นเกมทั่วไปบนจอใหญ่ ๆ ในโลก VR ก็ได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นเกมที่รองรับคอลโทรลเลอร์ VR ด้วยครับ
สรุป
PICO 4 Ultra เป็นแว่น VR/MR ที่มีน้ำหนักไม่มาก ใส่แล้วไม่ปวดคอ ประสิทธิภาพการทำงานจัดว่าลื่นไหลไม่มีกระตุก เหมาะกับการใช้งานเพื่อความบันเทิงอย่างการดูหนัง หรือเล่นเกม หรือจะใช้เพื่อการทำงานก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่เหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้คีย์บอร์ด เพราะระหว่างสวมแว่นเราจะใช้ได้แค่คีย์บอร์ดจำลอง ซึ่งต้องใช้คอนโทรลเลอร์เล็งและกดแป้นทีละตัว จึงไม่ค่อบสะดวกเท่าไหร่
สำหรับใครที่ไม่เคยใช้แว่น VR มาก่อน PICO 4 Ultra เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะให้ประสบการณ์การเล่นเกมและดูหนังที่ต่างไปจากเดิมมาก ชนิดที่ว่าามือถือหรือคอมพิวเตอร์ก็ให้ไม่ได้ ได้ลองแล้วจะติดใจจนวางไม่ลงครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 17/10/2567
