ซื้อมือถือพ่วงโปร กับซื้อมือถือเครื่องเปล่า แบบไหนคุ้มกว่ากัน? ไขข้อข้องใจมือถือติดโปรน่าซื้อหรือไม่ ถ้าเลือกเครื่องเปล่าควรซื้อที่ไหน เราสรุปมาให้ท่านแล้ว!
ทุกวันนี้การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่สักหนึ่งเครื่องก็อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เพราะที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนให้เลือกอย่างมากมาย ชนิดที่ว่าอาจจะตาลายกับลิสต์สเปกตัวเครื่องได้เลยทีเดียว ซึ่งบรรดาดีลเลอร์ทั้งหลายก็มักจะจำหน่ายสมาร์ทโฟนพร้อมของแถมเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้ซื้อติดมือกลับไปด้วยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และทำให้รู้สึกคุ้มค่ากับการจ่ายเงิน ขณะที่บรรดาค่ายมือถือทั้ง 3 รายก็ใช้กลยุทธ์ด้วยการจำหน่ายมือถือรุ่นใหม่ที่ลดค่าเครื่องให้ถูกลง แต่ขายพร้อมโปรโมชั่นแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเป็นระยะเวลา xx เดือน หรือที่รู้จักกันในนามของ "เครื่องติดโปร" นั่นเอง
ประเด็นการซื้อมือถือจากค่ายพร้อมโปรโมชั่นแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต กับการซื้อมือถือเครื่องเปล่าจากศูนย์ หรือร้านตัวแทนจำหน่าย ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันในหมู่ผู้ใช้ว่าซื้อแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน บ้างก็บอกว่ามือถือติดโปรต้องจ่ายแพงกว่า ซื้อไปก็ไม่คุ้ม บ้างก็บอกว่าโปรย้ายค่ายมีทั้งส่วนลดค่าเครื่อง และค่าแพ็กเกจ ซื้อใหม่ทั้งทีแบบนี้น่าจะคุ้มกว่า ฯลฯ วันนี้เราจะมาหาคำตอบในเรื่องนี้กันครับว่า "ซื้อมือถือพ่วงโปร กับซื้อมือถือเครื่องเปล่า แบบไหนคุ้มกว่ากัน?"
เครื่องเปล่า vs เครื่องติดโปร แตกต่างกันอย่างไร?
"เครื่องเปล่า" คือมือถือที่จำหน่ายผ่านศูนย์บริการของแบรนด์โดยตรง เช่น Samsung, iStudio, Huawei, OPPO, Vivo ฯลฯ หรือจำหน่ายผ่านทางตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ เช่น TG Fone, JayMart ฯลฯ โดยเครื่องเปล่าจะเป็นการจำหน่ายตัวเครื่องเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ต้องสมัครโปรโมชั่น หรือแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตอันใหม่สำหรับการใช้งานแต่อย่างใด ส่วนราคาวางจำหน่ายจะเป็นราคากลาง (ราคาศูนย์) และมักจะไม่ค่อยมีส่วนลด
"เครื่องติดโปร" คือมือถือที่จำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ คล้ายกับเครื่องเปล่า แต่จะมีราคาตัวเครื่องที่ถูกกว่าราคาศูนย์ค่อนข้างมาก โดยเครื่องติดโปรนั้น ผู้ใช้จำเป็นต้องสมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตขั้นต่ำตามที่เครือข่ายได้กำหนดไว้ ส่วนใหญ่มักมีการเก็บค่าบริการล่วงหน้าจำนวน x,xxx บาท (หรืออาจไม่มีก็ได้) แต่ประเด็นสำคัญคือ แพ็กเกจที่สมัครไว้นั้นจะต้องใช้งานให้ครบตามเวลา โดยมากคือ 12 เดือน และไม่สามารถเปลี่ยนแพ็กเกจ หรือเปลี่ยนเครือข่ายได้จนกว่าจะครบช่วงเวลาที่กำหนดไว้
เครื่องเปล่า vs เครื่องติดโปร แบบไหนจ่ายเงินสุทธิเยอะกว่ากัน?
ข้อถกเถียงเรื่องเครื่องเปล่ากับเครื่องโปรคงหนีไม่พ้นเรื่องของเม็ดเงินที่ต้องเสียไป และการตัดสินใจเลือกซื้อแบบครั้งเดียวจบแล้วไปหาโปรใช้เอง หรือยินดีติดโปรเพื่อแลกกับค่าเครื่องที่ถูกลง เราลองมาดูตัวเงินกันจริงๆ ดีกว่าว่า การเลือกซื้อแบบไหนต้องใช้เงินเท่าไหร่กันบ้าง โดยขอยกตัวอย่างเป็นการซื้อ Samsung Galaxy Note 8 ครับ
ซื้อเครื่องเปล่า - Samsung Galaxy Note 8 ราคาศูนย์อยู่ที่ 33,900 บาท สามารถจ่ายเงินก้อนเดียว แล้วเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตใช้งานได้ตามใจชอบ ซึ่งมีทั้งแบบเติมเงิน และแบบรายเดือน สมมติว่าการใช้งานมาตรฐานต่อเดือนอยู่ที่ 400 บาท เป็นเวลา 12 เดือน จะคิดเป็นเงิน 400x12 = 4,800 บาท เท่ากับว่าระยะเวลา 1 ปี เราจ่ายเงินไปทั้งสิ้น 33,900+4,800 = 38,700 บาท
ซื้อเครื่องติดโปร - Samsung Galaxy Note 8 ราคาสำหรับลูกค้าแบบย้ายค่ายเบอร์เดิมจะมีค่าเครื่องถูกที่สุด โดยอยู่ที่ 27,400 บาท ลดค่าเครื่องไปทั้งหมด 6,500 บาท แต่ต้องสมัครโปรรายเดือนขั้นต่ำที่ 1,099 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 12 เดือน คิดเป็นเงิน 1,099x12 = 13,188 บาท บวกกับค่าบริการล่วงหน้า 1,500 บาท (เก็บตั้งแต่ตอนซื้อ) เท่ากับว่าเราจ่ายเงินตอนซื้อเครื่องไปทั้งหมด 28,900 บาท (ถูกกว่าเครื่องเปล่า 5,000 บาท) แต่เมื่อบวกกับแพ็กเกจรายเดือนที่ต้องจ่าย 1 ปีเต็ม เท่ากับว่าเราจ่ายไปทั้งหมด 28,900+13,188 = 42,088 บาท
จะเห็นว่ามือถือติดโปรในตัวอย่างข้างต้นนั้นมีค่าใช้จ่ายรวม 1 ปีแพงกว่าการซื้อเครื่องเปล่าอยู่ประมาณ 3 พันกว่าบาท ซึ่งเป็นส่วนต่างระดับปานกลาง ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่เครื่องติดโปรของแต่ละค่ายนั้นมีการกำหนดราคาวางจำหน่ายที่ไม่เท่ากันในแต่ละรุ่น บางรุ่นอาจมีความคุ้มค่ามากกว่าถ้าซื้อแบบพ่วงโปรที่มีราคาไม่สูงมาก ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบราคา และแพ็กเกจให้ดีก่อนจะตัดสินใจซื้อนะครับ
เครื่องเปล่า vs เครื่องติดโปร ควรเลือกซื้อแบบใดถึงคุ้มค่าที่สุด?
สำหรับการเลือกซื้อระหว่างเครื่องเปล่ากับเครื่องติดโปร มีตัวแปรสำคัญที่สามารถใช้ตัดสินได้ง่ายๆ ก็คือ ความพอใจในแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต และเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เพราะส่วนมากแล้วเครื่องโปรจะเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ย้ายค่าย (มีราคาถูกที่สุด) และต้องการขยับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้เยอะขึ้น หรือผู้ที่ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเยอะๆ อยู่แล้ว และต้องการมือถือเครื่องใหม่ในราคาที่ถูกกว่าปกติ ซึ่งในจุดนี้ตัวผู้ซื้อเองอาจจะต้องตรวจสอบความต้องการของตนให้ชัดเจนก่อนว่า อยากเพิ่มจำนวน Data ใช้งาน หรือว่าอยากย้ายค่ายหรือไม่ เพราะถ้าหากตัวผู้ใช้ยังพึงพอใจกับแพ็กเกจ และเครือข่ายเดิม ก็ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อเครื่องโปรแต่อย่างใด
ส่วนการเลือกซื้อเครื่องเปล่าก็เหมาะกับผู้ใช้ที่พึงพอใจกับแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต และจำนวน Data ที่มีให้ใช้งานอยู่แล้ว ดังนั้น เครื่องเปล่าก็จะตอบโจทย์ในการเลือกซื้อมากกว่าในทุกๆ ด้าน แต่สำหรับการเลือกซื้อเครื่องเปล่าก็มีจุดที่น่าสนใจเช่นเดียวกันว่า ควรเลือกซื้อที่ไหน อย่างไร ถึงจะตรงใจเรามากที่สุด ซึ่งเราจะอธิบายในหัวข้อถัดไปครับ
ซื้อเครื่องเปล่าควรเลือกซื้อที่ไหน?
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า "เครื่องเปล่า" คือเครื่องที่ซื้อจากศูนย์บริการ หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Jaymart, TG Fone ฯลฯ) แต่ช่องทางการซื้อเครื่องเปล่าอีกช่องทางหนึ่งก็คือ "ร้านขายส่ง" นั่นเองครับ โดยความแตกต่างหลักๆ ระหว่างการซื้อผ่านศูนย์ กับร้านขายส่งก็คือ "ราคา" เพราะร้านขายส่งจะมีราคาวางจำหน่ายที่ถูกกว่าราคาศูนย์พอสมควร ยกตัวอย่างเช่น
- Samsung Galaxy Note 8 ราคาศูนย์อยู่ที่ 33,900 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยจากร้านขายส่งใน MBK อยู่ที่ประมาณ 29,900 บาท
- iPhone 7 Plus รุ่น 128GB ราคาศูนย์อยู่ที่ 31,500 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยจากร้านขายส่งใน MBK อยู่ที่ประมาณ 29,500 บาท
- Huawei P10 Plus ราคาศูนย์อยู่ที่ 20,900 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยจากร้านขายส่งใน MBK อยู่ที่ประมาณ 17,500 บาท
แต่อย่างไรก็ตาม ราคาที่ถูกกว่าก็ย่อมต้องมีการแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน คือ การซื้อจากร้านขายส่งบางร้านจะไม่มีการรับประกันเปลี่ยนเครื่องภายใน 7 วัน ถ้าหากมีปัญหาขึ้นมาอาจต้องส่งซ่อมที่ศูนย์เท่านั้น และส่วนมากไม่มีของแถมพิเศษ ขณะที่การซื้อผ่านดีลเลอร์รายใหญ่อย่าง Jaymart หรือ TG Fone มักจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ (เฉพาะบางรุ่น) ให้เกือบตลอดทั้งปี, มีบริการที่ดีกว่า และรับประกันการเปลี่ยนสินค้าภายใน 7 วันด้วย หรือการผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตก็มีร่วมรายการแทบทุกสาขา ซึ่งร้านขายส่งบางร้านก็มีบริการผ่อนจ่าย แต่ค่อนข้างน้อยกว่าถ้าเทียบกับดีลเลอร์รายใหญ่ ก็เรียกได้ว่าการซื้อผ่านศูนย์ใหญ่นั้นสามารถเรียกความมั่นใจจากลูกค้าได้มากกว่า แต่สำหรับสินค้าจากร้านขายส่งก็เป็นเครื่องศูนย์เหมือนกัน แตกต่างกันที่การรับประกันเท่านั้น แต่สำหรับท่านใดที่จะลองซื้อเครื่องจากร้านขายส่ง ขอแนะนำให้ดูเฉพาะร้านรายใหญ่ที่เชื่อถือได้เท่านั้นนะครับ
สรุป
หากจะสรุปการเลือกซื้อมือถือระหว่างเครื่องเปล่า และเครื่องติดโปรให้ได้ใจความสั้นๆ นั้นก็อาจจะสรุปได้ว่า ถ้าผู้ใช้ต้องการมือถือใหม่ และได้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น (หรืออยากย้ายค่าย) ในเวลาเดียวกัน ก็อาจเลือกซื้อเครื่องโปรเพื่อความคุ้มค่าสูงสุดได้ แต่ถ้าตัวผู้ใช้พอใจกับแพ็กเกจ, เครือข่าย และจำนวน Data ในปัจจุบันแล้ว การซื้อเครื่องเปล่ามาใช้งานก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยทางทีมงานก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเลือกซื้อมือถือเครื่องใหม่ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อกันนะครับ สำหรับวันนี้เราต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 1/11/2560
