OPPO เผยโฉม 5G Cloud Gaming กลางงาน MWC 2019 พร้อมจับมือ Qualcomm และ Ericsson มุ่งพัฒนาสมาร์ทโฟน 5G ให้ถึงขีดสุด
หลังจากที่งานใหญ่ประจำปีอย่าง OPPO Innovation Event 2019 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เพิ่งผ่านพ้นไป ด้วยไฮไลท์สำคัญคือเทคโนโลยี 10x Lossless Zoom กับ 5G พร้อมทั้งมีการนำสมาร์ทโฟนกล้อง 10x Lossless Zoom รุ่นต้นแบบมาจัดแสดงให้บรรดาสื่อมวลชนจากทั่วโลกได้ลองใช้งานกันแบบเต็มที่ แต่สำหรับเทคโนโลยี 5G นั้นดูเหมือนทาง OPPO จะเก็บทีเด็ดไว้โชว์อีกครั้งในงานแสดงเทคโนโลยีในอุตสากรรรมโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง MWC 2019 และในที่สุดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทีมงาน Thaimobilecenter ของเราก็ได้รู้ว่า OPPO ได้นำเอานวัตกรรม 5G มานำเสนออย่างไรในงาน MWC 2019 ครั้งนี้ และเราก็ได้นำภาพ กับข้อมูลบางส่วนมาฝากให้ทุกท่านได้ติดตามกัน
อย่างที่ได้ทราบกันไปในบทความที่แล้วคือ ในปี 2019 นี้ OPPO ได้ลงทุนด้านการวิจัย และพัฒนา (R&D) เป็นมูลค่ามากถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เรื่องของ 5G, AI และ AR โดยสิ่งที่ทาง OPPO เอามานำเสนอในงาน MWC 2019 ครั้งนี้แบ่งออกได้เป็น 4 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่เทคโนโลยี 5G Cloud Gaming, สมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ OPPO, การจับมือเป็นพันธมิตรด้านหน่วยประมวลผล 5G กับ Qualcomm และการจับมือเป็นพันธมิตรด้านระบบเครือข่าย 5G กับ Ericsson ดังรายละเอียดต่อไปนี้
OPPO 5G Cloud Gaming การพลิกโฉมประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไฮไลท์อย่างแรกที่ทาง OPPO นำมาโชว์ในงาน MWC 2019 ก็คือ OPPO 5G Cloud Gaming ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มการประมวลผลเกมประสิทธิภาพสูงที่ถูกปรับแต่งมาอย่างดี โดยทำหน้าที่ประมวลผลเกมพีซี (PC Games) หลังจากที่ภาพกราฟิกถูกส่งมายังสมาร์ทโฟน 5G ของ OPPO ผ่านทางระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 5G เพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีการตอบสนองต่อการรับ-ส่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยม ด้วยค่าความหน่วงที่ต่ำ (Low Latency) เรียกว่าเป็นการพลิกโฉมประสบการณ์ของการเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ว่าได้
โดยผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ประมวลผลก็คือบริษัท Shadow ผู้ให้บริการ Game Streaming ชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง Amsterdam ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่วนในเรื่องของระบบเครือข่าย 5G นั้นรับผิดชอบโดยบริษัท Ericsson และสุดท้ายในเรื่องของชิปเซ็ต 5G ที่ใช้ประมวลผลนั้นรับผิดชอบโดยบริษัท Qualcomm ด้วยแพลตฟอร์ม Qualcomm Snapdragon 855 5G Mobile Platform ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของชิปเซ็ต Snapdragon 855 กับชิปโมเด็ม Snapdragon X50 5G
OPPO โชว์การเล่นเกม Soul Calibur VI บนเครือข่าย 5G ด้วยสมาร์ทโฟน 5G รุ่นต้นแบบของตนเอง
เทคโนโลยี Cloud Gaming บนระบบเครือข่าย 5G นั้นทำให้เกิดความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับวงการเกม ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างชิปเซ็ต และระบบเครือข่าย ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านการเล่นเกมขึ้นไปอีกขั้น ทั้งกราฟิกที่ดีกว่า, ความเร็วของการดาวน์โหลดที่ดีกว่า และการตอบสนองที่รวดเร็ว (Low Latency) ซึ่งแน่นอนว่าทาง OPPO ก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี Cloud Gaming บนสมาร์ทโฟนของตนเองไปอีกอย่างเนื่อง
โดยปกติแล้วบรรดานักเล่นเกมที่ชื่นชอบการเล่นเกมบนเครื่องคอนโซลเช่น Xbox หรือ PlayStation นั้นจะพบว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำเกมดีๆ บนเครื่องเหล่านี้มาเล่นบนเครื่องสมาร์ทโฟน ด้วยข้อจำกัดของการประมวลผลที่ไม่รองรับกราฟิกระดับสูงเช่นนั้น แต่พอมาถึงชั่วโมงนี้ ด้วยเทคโนโลยี 5G Cloud Gaming ที่ย้ายเกมไปไว้บนระบบคลาวด์ จึงช่วยให้บรรดานักเล่นเกมสามารถสนุกกับการเล่นเกมได้โดยตรงผ่านระบบคลาวด์ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการดาวน์โหลดไฟล์เกมลงมาติดตั้ง, ข้อจำกัดของการประมวลผล หรือว่าการตอบสนองต่อการรับ-ส่งข้อมูลที่ช้า และแน่นอนว่าคุณภาพของกราฟิกนั้นก็จะยอดเยี่ยมไม่แพ้เกมระดับ Triple-A บนเครื่องคอนโซลเลยทีเดียว
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ OPPO
จากงาน OPPO Innovation Event 2019 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ OPPO อยู่ในมือของคุณ Anyi Jiang ผู้ดำรงตำแหน่ง Vice President ของ OPPO รวมทั้งทำให้เราได้รู้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวกำลังจะเปิดตัว และวางจำหน่ายภายในปีนี้ โดยถูกพัฒนาภายใต้แพลตฟอร์ม Qualcomm Snapdragon 855 5G Mobile Platform เป็นรุ่นแรกๆ ของโลก ซึ่งอาศัยการทำงานร่วมกันของชิปเซ็ต Snapdragon 855 กับชิปโมเด็ม Snapdragon X50 5G โดยการพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ขึ้นมา ทาง OPPO ต้องเจอกับความท้าทายในหลายๆ ด้านด้วยกัน ทั้งในเรื่องของการออกแบบเสารับสัญญาณ, การจัดการกับการสื่อสารบนระบบเครือข่ายแบบ Baseband, การจัดการกับคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency), การจัดการกับการบริโภคพลังงาน, การจัดการกับความร้อน และอื่นๆ จนสุดท้ายแล้วก็ได้มาซึ่งระบบการสื่อสารที่สมบูรณ์, มีประสิทธิภาพ, มีความเร็วสูง, มีความน่าเชื่อถือ และมีการตอบสนองที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ในปี 2019 ทาง OPPO ก็จะดำเนินการอย่างจริงจังต่อไป ในการร่วมมือกับบรรดาผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำภายใต้โครงการ OPPO 5G Landing Project ไม่ว่าจะเป็น Telstra, Swisscom, Optus และ Singtel เพื่อร่วมกันเร่งพัฒนากระบวนการในเชิงพาณิชย์สำหรับสมาร์ทโฟน 5G ต่อไป
OPPO จับมือ Qualcomm ร่วมเป็นพันธมิตรด้านหน่วยประมวลผล 5G
ในช่วงสัปดาห์นี้ เรามีโอกาสได้เห็นคุณ Cristiano Amon ประธานบริษัท Qualcomm ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับความร่วมมือกับ OPPO ทั้งในงาน OPPO Innovation Event 2019 และงาน MWC 2019 โดยกล่าวถึง ความมุ่งมั่นของ OPPO ที่จะพัฒนานวัตกรรม 5G ว่า “ความเป็นผู้นำของ OPPO ในยุค 4G ทำให้ OPPO อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สามารถเป็นผู้นำในการเปลี่ยนเข้าสู่ยุค 5G และ Qualcomm Technologies หวังว่าจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ OPPO เพื่อพัฒนาศักยภาพที่แท้จริงของ 5G และสนับสนุนการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G เครื่องแรกของ OPPO ที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม Qualcomm Snapdragon 855 5G Mobile Platform ซึ่งประกอบไปด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855 ที่เป็นรุ่นเรือธง กับโมเด็ม Snapdragon X50 5G บนวงจรรับส่งสัญญาณแบบ RF และ RF Front-End Solutions”
OPPO ได้คาดการณ์ และเตรียมพร้อมสำหรับการมาถึงของ 5G ตั้งแต่ปี 2015 โดยได้ลงทุนด้านการออกแบบ และเทคโนโลยีเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถผลิตสมาร์ทโฟนได้ในแบบที่ต้องการ โดยไม่ยอมรับการผลิตที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ได้สมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับคุณสมบัติ และประโยชน์ของ 5G ได้อย่างแท้จริง
ซึ่งการมาถึงของสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ OPPO คาดว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตของผู้บริโภค ด้วยความสามารถในการดาวน์โหลดวิดีโอ, อัปโหลดวิดีโอ, เล่น Cloud-Play แบบ 4K และ 8K, วิดีโอคอล 3 มิติ, เกม 5G Cloud Gaming และเกม AR / VR แบบหลายผู้เล่น, การช้อปปิ้งครบวงจรแบบ AR, การสร้างภาพ 3 มิติ, ความสามารถในการดื่มด่ำกับความบันเทิงได้ทุกที่ และอื่นๆ
OPPO จับมือ Ericsson ร่วมเป็นพันธมิตรด้านระบบเครือข่าย 5G
ภายในบูธของ Ericsson ในงาน MWC 2019 เราก็ได้เห็นสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ OPPO มาโชว์ตัวอยู่ด้วยเช่นกัน พร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์ของ 5G Cloud Gaming ซึ่งหากย้อนไปเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมาทาง OPPO และ Ericsson ได้ประกาศการลงนามทำข้อตกลงสิทธิบัตรระดับโลก ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยข้อตกลงดังกล่าวได้ครอบคลุมถึงการออกใบอนุญาตใช้สิทธิบัตร และการร่วมมือกันในโครงการธุรกิจต่างๆ
Adler Feng หัวหน้าแผนกทรัพย์สินทางปัญญาของ OPPO กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยวางรากฐานสำหรับการทำงานร่วมกันของทั้งสองบริษัทให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในยุค 5G “OPPO ให้ความสำคัญกับเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญาอยู่เสมอ และเราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับ Ericsson เพื่อผลักดันนวัตกรรมที่ล้ำสมัยทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ และบริการ”
Ericsson คือหนึ่งในผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารชั้นนำของโลก (ICT) โดย Gustav Brismark หัวหน้าแผนกทรัพย์สินทางปัญญาของ Ericsson กล่าวว่า “ข้อตกลงที่สำคัญนี้เป็นการยืนยันถึงคุณค่าของสิทธิบัตรที่พวกเรามีอยู่ และโปรแกรมการอนุญาตใช้สิทธิ์ที่แข็งแกร่งของ Ericsson FRAND ซึ่ง Ericsson ได้ลงนามในข้อตกลงสิทธิบัตรมากกว่า 100 ฉบับ และเรายินดีที่จะลงนามข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับ OPPO”
OPPO ให้ความสำคัญกับสิทธิบัตร และการเก็บสะสมสิทธิบัตรอยู่เสมอ เมื่อเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา บริษัทได้ยื่นคำขอสิทธิบัตรมากกว่า 33,000 ฉบับ ทั่วโลก และเป็นเจ้าของสิทธิบัตรอีกมากกว่า 8,000 ฉบับ ซึ่งข้อตกลงกับ Ericsson นี้เป็นข้อตกลงสิทธิบัตรฉบับล่าสุดระหว่าง OPPO กับพันธมิตรอุตสาหกรรมโทรคมนาคมชั้นนำ ได้แก่ Qualcomm, Dolby และ Nokia นอกจากนี้ OPPO จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรอุตสาหกรรมชั้นนำเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์ที่ดีที่สุดมอบให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก
สรุปส่งท้าย
สำหรับวงการสมาร์ทโฟน ปีนี้นับเป็นปีของ 5G อย่างแท้จริง แต่ละแบรนด์ชั้นนำต่างพากันเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา มีการช่วงชิงความเป็นผู้นำแบบไม่มีใครยอมใคร รวมถึงแบรนด์ OPPO เช่นเดียวกัน แต่ OPPO ก็นับว่าได้ถือไพ่ที่ได้เปรียบไม่แพ้แบรนด์ใด ด้วยการวางแผนวิจัย และพัฒนาเกี่ยวกับสมาร์ทโฟน 5G มาล่วงหน้าอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2015 รวมถึงล่าสุดก็ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่ของโลกมากมาย ทั้งในฝั่งของผู้ผลิตหน่วยประมวลผล และผู้ให้บริการเครือข่าย ดังรายละเอียดข้างต้น จึงน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกของ OPPO นั้นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อใด และจะมาในชื่อไหน ซึ่งหากเราทราบข้อมูลก็จะนำมาอัปเดตให้ทุกท่านได้ติดตามกันอีกครั้งอย่างแน่นอน
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 28/2/2562