เปิดตัว OnePlus 8 | 8 Pro จัดเต็มทุกความแรงด้วยจอ 120Hz, ชิป Snapdragon 865, RAM LPDDR5 ขนาด 12GB, รองรับ 5G และชาร์จเร็วทั้งเสียบสาย และไร้สาย!

ในที่สุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ OnePlus 8 Series สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ครั้งนี้มีการอัปเดตใหม่รอบด้าน ทั้งดีไซน์ และสเปกภายใน โดยคราวนี้เปิดตัวให้เห็นกันทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ OnePlus 8 และ OnePlus 8 Pro

เริ่มต้นที่รุ่นท็อปอย่าง OnePlus 8 Pro โดยมือถือรุ่นดังกล่าวมาพร้อมกับหน้าจอ Fluid Display ที่มีการเจาะรูบริเวณมุมซ้ายบนคล้ายกับรุ่น OnePlus 8 แต่ขยายขนาดของหน้าจอแสดงผลให้ใหญ่ขึ้นที่ 6.78 นิ้ว พร้อมอัปเกรดความละเอียดมากขึ้นเป็น 2K+ อีกทั้งยังเพิ่มค่า Refresh Rate สูงขึ้นเป็น 120Hz เทียบชั้นกับสมาร์ทโฟนระดับเกมมิ่ง พร้อมค่า Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งยังมาพร้อมกับค่าความสว่างสูงถึง 1300nits พร้อมค่าความผิดเพี้ยนของสีเพียง 0.4 JNCD โดยหน้าจอของ OnePlus 8 Pro ได้รับการการันตีคุณภาพจาก DisplayMate ในระดับ A+ เลยทีเดียว

นอกจากนี้ หน้าจอของ OnePlus 8 Pro ยังรองรับการแสดงผลในระดับ 10bit สามารถแสดงสีสันได้มากกว่า 1 พันล้านสี ช่วยให้ถ่ายทอดสีสันของคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มอารมณ์ อีกทั้ง ยังมาพร้อมกับอัลกอริทึมสำหรับประมวลผลในชื่อ MEMC ซึ่งจะเข้ามาช่วงปรับการแสดงผลประเภทวิดีโอให้ดูลื่นไหลมากขึ้นอีกด้วย

ด้านงานดีไซน์รอบนี้ OnePlus 8 Pro เน้นไปที่กระบวนการ CMF ซึ่งย่อมาจาก Color (สีสัน) / Material (วัสดุ) และ Finish (ผิวสัมผัส) โดยมาพร้อมกับ 3 สีสันได้แก่ สีดำ Onyx Black และสีน้ำเงิน Ultramarine Blue พร้อมสีเขียว Glacial Green รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP68

ส่วนทางด้านการถ่ายภาพ มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ IMX689 ที่พัฒนาร่วมกับ Sony, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ IMX586 องศาในการรับภาพกว้าง 120 องศา , กล้อง Telephoto รองรับการซูมภาพ Hybrid Zoom 3 เท่า และซูมภาพ Digital Zoom 30 เท่า ส่วนกล้องตัวสุดท้ายคือกล้อง Color Filter

นอกจากนี้ กล้องถ่ายภาพของ OnePlus 8 Pro ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ถ่ายภาพที่น่าสนใจอย่างการถ่ายภาพกลางคืน Nightscape ด้วยเลนส์มุมกว้าง, ระบบกันสั่นแบบ OIS + EIS, ระบบ Audio Zoom สำหรับซูมเสียงให้ชัดขึ้นผ่านไมโครโฟนจำนวน 3 ตัว, การถ่ายวิดีโอแบบ 3-HDR ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายวิดีโอแบบย้อนแสงเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน หรือระบบตัดเสียงลมรบกวนขณะถ่ายวิดีโอ

ทางด้านประสิทธิภาพการทำงาน OnePlus 8 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 865 ประกบคู่กับ RAM แบบ LPDDR5 ขนาดสูงสุด 12GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4510mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วแบบเสียบสาย 30W และชาร์จไร้สาย 30W ที่สำคัญยังรองรับระบบ Wi-Fi 6 ที่เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้ง OnePlus 8 Pro ยังมีลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ อย่างระบบเสียง Dolby Atmos หรือ Haptic Vibration 2.0 ที่ตอบสนองระบบสั่นในการเล่นเกมได้ดีขึ้น

ด้าน OnePlus 8 มาพร้อมกับดีไซน์แบบใหม่ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Fluid Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่มีการเจาะรูบริเวณมุมซ้ายของหน้าจอสำหรับติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับการแสดงผลบนค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ช่วยให้เล่นเกม และใช้งานได้อย่างลื่นไหลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับคะนนทดสอบจาก DisplayMate ในระดับ A+ เหมือนกับรุ่น OnePlus 8 Pro อีกด้วย ในส่วนของดีไซน์นั้นทาง OnePlus ต้องการออกแบบให้ OnePlus 8 ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่กะทัดรัดที่สุด (Compact Phone) ด้วยดีไซน์แบบ Burdenless หรือดีไซน์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าไม่มีอะไรมาขัดขวางการใช้งาน พร้อมน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 180 กรัมเท่านั้น ซึ่งแม้ว่า OnePlus 8 จะมีหน้าจอค่อนข้างใหญ่ แต่จริงๆ แล้วตัเครื่องกลับมีขนาดพอๆ กับ iPhone 11 Pro ที่มีหน้าจอเล็กกว่า

สำหรับสีสัน OnePlus 8 มีให้เลือกทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ สีดำ Onyx Black, สีเขียว Glacial Green และสีชูโรงอย่าง Interstellar Glow ที่สามารถเปลี่ยนสีตามมุมแสงที่ตกกระทบได้ โดยผิวสัมผัสจะครอบทับด้วยฟิล์มหลายชั้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มือถือรุ่นนี้เปลี่ยนสีได้นั่นเอง

ในส่วนของการถ่ายภาพ ติดตั้งชุดกล้องหลัง 3 ตัวเอาไว้ที่ด้านบน แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ IMX586, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

ด้านประสิทธิภาพการทำงาน มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 865 พร้อมหน่วยความจำภายในแบบ UFS 3.0 แบบ Turbo Write ความจุสูงสุด 256GB และแบตเตอรี่ขนาด 4300mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็วแบบเสียบสาย 30W พร้อมรองรับ Wi-Fi 6 และ USB 3.1 ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลได้รวเร็วมากยิ่งขึ้น

OnePlus 8 Series ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจติดตั้งมาให้ เช่น การรองรับการทำงานร่วมกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Amazon Alexa, การรองรับแพลตฟอร์มการเล่นเกมอย่าง Google Stadia หรือการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G

ราคา และกำหนดการวางจำหน่าย

OnePlus 8 Series เริ่มเปิดให้พรีออเดอร์ในยุโรปแล้ววันนี้ โดยจะเปิดขายครั้งแรกในวันที่ 21 เมษายน 2563 ขณะที่กำหนดการขายในไทย ยังไม่ประกาศให้ทราบ โดยราคาเปิดตัวของ OnePlus 8 Series ในต่างประเทศ มีรายละเอียดดังนี้

OnePlus 8