หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 12/12/2562

สรุปจุดเด่น OnePlus 7T Series เรือธง Super Flagship อัปเกรดใหม่ด้วยจอ 90Hz, ขุมพลัง Snapdragon 855+ และ Warp Charge 30T ในราคาเริ่มเพียง 17,990 บาท

 

หลังจากที่ OnePlus แบรนด์สมารทโฟนที่ได้รับความนิยมในระดับ Global ได้เริ่มเข้ามาบุกตลาดประเทศไทยเมื่อปี 2017 กับรุ่น OnePlus 6 ที่มาพร้อมกับสเปกแบบไฮเอนด์รอบด้านทั้งชิป Snapdragon 845, กล้องหลังคู่ หรือชาร์จไว Dash Charge ในราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งล่าสุดนี้ทาง OnePlus ก็ได้เริ่มวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง OnePlus 7T Series ในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมาพร้อมกับจุดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล Refresh Rate ระดับ 90Hz มาใช้งานกับสมาร์ทโฟนเรือธงของตนเองทุกรุ่น ตามคอนเซ็ปท์ Smooth like never before 

เชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า OnePlus 7T Series ที่กำลังวางขายในบ้านเรามีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงขอโอกาสรวบรวมฟีเจอร์เด่นของ OnePlus 7T Series เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้แก่ทุกท่าน หากพร้อมแล้วไปรับชมกันเลยครับ

 

จอ Fluid Display 90Hz สุดลื่นไหล

จริงๆ แล้ว OnePlus ได้นำร่องการใช้งานเทคโนโลยีหน้าจอที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz มาใช้งานตั้งแต่รุ่น OnePlus 7 Pro ที่เปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปี 2019 ซึ่งถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่ไม่นับรวมมือถือเกมมิ่ง (Gaming Phone) ที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานบนวงการสมาร์ทโฟน ต่อมาใน OnePlus 7T Series ทาง OnePlus ก็ได้อัปเกรดไปอีกขั้นเพราะได้นำเทคโนโลยี Fluid Display หรือหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz ให้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น 

 

ตัวอย่างอนิเมชันเปรียบเทียบการแสดงผลระหว่างจอ 90Hz vs 60Hz

ข้อดีของหน้าจอ Refresh Rate ระดับ 90Hz คือจะช่วยให้ฟีลลิ่งในการทัชสกรีน รวมถึงอนิเมชันต่างๆ ภายในตัวเครื่องดูลื่นไหลมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับหน้าจอแสดงผลทั่วไปที่มีค่า Refresh Rate ระดับ 60Hz ซึ่งเป็นผลมาจากหลักการทำงานของหน้าจอแสดงผล Refresh Rate ระดับ 90Hz ของ OnePlus 7T Series ที่จะทำการแสดงผลภาพนิ่งจำนวน 90 ภาพใน 1 วินาที ในขณะที่จอ Refresh Rate 60Hz ที่ใช้กันทั่วไป จะทำการแสดงผลภาพนิ่งจำนวน 60 ภาพใน 1 วินาที ซึ่งหากยังมองไม่เห็นภาพ ลองสังเกตภาพ GIF ด้านบนที่จำลองการแสดงผลระดับ 90Hz เทียบกับ 60Hz ซึ่งจะเห็นว่าอนิเชมันของลูกบอลทางฝั่งซ้ายจะมีความเนียนตากว่าแบบชัดเจน

 

นอกจากจุดเด่นด้านความลื่นไหลแล้ว หน้าจอของ OnePlus 7T Series ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันเด่นจัดเต็มรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น ค่าความสว่างของหน้าจอสูงสุดที่ 1000nit ส่งผลให้มองเห็นภาพขณะใช้งานกลางแจ้งได้อย่างชัดเจน, ค่า Contrast Ratio ระดับ 400000:1 ในรุ่น OnePlus 7T Pro ไปจนถึงการรองรับการแสดงผลตามมาตรฐาน HDR10+ ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบันมีผู้ให้บริการคอนเทนต์ HDR10+ แล้ว เช่น Youtube, Netflix และ Amazon Prime Video

 

ดีไซน์ระดับพรีเมียม

OnePlus 7T Series ทุกรุ่นมาพร้อมกับดีไซน์ระดับพรีเมียมที่ทาง OnePlus ใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ด้วยบอดี้กระจกขอบโค้งแบบ 3D Gorilla Glass จากแบรนด์ Corning ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งจากอุบัติเหตุแล้ว ขอบด้านหลังยังมีความโค้งเพื่อช่วยรับกับอุ้งมือของผู้ใช้ ทำให้จับได้อย่างกระชับถนัดมือ พร้อมกระบวนการเคลือบผิวแบบเล่นเฉดสี เพื่อเสริมความเรียบหรูให้แก่ตัวเครื่อง

 

มากไปกว่านั้น ในรุ่นพิเศษอย่าง OnePlus 7T Pro McLaren Edition ที่ได้จับมือร่วมพัฒนาร่วมกับแบรนด์ซูเปอร์คาร์ระดับโลกอย่าง McLaren ก็มีการหยิบยืมเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นลิมิเต็ดอย่าง McLaren Speedtail มาใส่ไว้ในสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว ด้วยฝาหลังที่มี Texture ลวดลายน่าค้นหาเหมือนกับพวงมาลัย และคอนโซลของรถรุ่นดังกล่าว

 

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับสีสันพิเศษกับสีดำตัดสีส้ม Papaya Orange ซึ่งเป็นสีเอกลักษณ์ของ McLaren รวมถึงธีม, ไอคอน, ไฟแจ้งเตือน, นาฬิกาหน้า Lock Screen และอุปกรณ์ต่างๆ ที่แถมมาให้ภายในตัวเครื่อง ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก McLaren ทั้งหมด

 

แรงด้วย Snapdragon 855+ พร้อมระบบ OxygenOS อัปเดตไวต่อเนื่อง

ด้านประสิทธิภาพการทำงานของ OnePlus 7T Series ทั้งสามรุ่นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะเลือกใช้ขุมพลังตัวท็อปรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ Qualcomm อย่าง Snapdragon 855+ ที่สามารถทำคะแนนรวมโดยเฉลี่ยจาก AnTuTu อยู่ในระดับท็อป 3 พร้อมทั้งยังมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในรูปแบบใหม่อย่าง UFS 3.0 ซึ่งมีจุดเด่นด้านความเร็วอ่าน-เขียน ที่รวดเร็วยิ่งกว่าหน่วยความจำแบบ UFS 2.0 หรือ 2.1 ที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน ทำให้การเปิดแอปพลิเคชัน รวมถึงการเปิดดูไฟล์ต่างๆ ภายในตัวเครื่องจะรวดเร็วขึ้นตามไปด้วย

 

และจุดเด่นที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ OxygenOS 10 เวอร์ชันล่าสุด หรือระบบปฏิบัติการ Android 10 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ OnePlus ใส่ใจมาโดยตลอด โดยในเวอร์ชันนี้ มีการนำมาปรับแต่งใหม่โดยเน้นความสะอาดตาของหน้า UI คล้ายกับ Pure Android แต่เหนือกว่าด้วยการใส่ลูกเล่น รวมถึง Tweak ต่างๆ มากกว่า 370 ตัว พร้อมเพิ่งฟังก์ชันใหม่ๆ เพื่อช่วยให้ระบบมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน รวมไปถึงความลื่นไหลที่แทบไม่ต่างจาก Pure Android นอกจากนี้ OxygenOS ยังถือเป็นอีกหนึ่ง Custom UI ที่ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง โดยจากการสำรวจของ AOSMark ระบุว่า OnePlus ครองอันดับที่ 2 ด้านการอัปเดตระบบปฏิบัติการ ซึ่งเป็นรองเพียงแค่ Google ที่เป็นผู้พัฒนา Android เท่านั้น และที่สำคัญทาง OnePlus ยังให้คำมั่นสัญญาว่า OxygenOS จะได้รับอัปเดตเป็นเวลานานถึง 5 ปี แบ่งออกเป็น การอัปเดตเวอร์ชันระบบปฏิบัติการ 2 ปี และการอัปเดตแพทซ์ความปลอดภัยอีก 3 ปี ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนจะมีความสดใหม่อยู่ตลอดเวลา

 

กล้องหลังสามเลนส์ 48MP ครอบคลุมทุกระยะ

นอกเหนือจากดีไซน์ระดับพรีเมียม รวมถึงสเปกที่เร็วแรงแล้ว OnePlus 7T Series ยังมาพร้อมกับเซ็ตอัพกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียดสูงสุด 48 ล้านพิกเซล ที่มีเลนส์ครอบคลุมทุกระยะตั้งแต่เลนส์ Ultra Wide ไปจนถึงเลนส์ Telephoto พร้อมรองรับการถ่ายภาพแบบ Macro ที่ช่วยให้ผู้ใช้เปิดมุมมองการถ่ายภาพแบบใหม่ๆ ด้วยกล้องที่โฟกัสวัตถุได้ใกล้ขึ้นถึงระดับ 2.5 เซนติเมตร นอกจากนี้ ทาง OnePlus ยังใส่ฟีเจอร์เพื่อช่วยให้ภาพที่ออกมามีความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น UltraShot Engine สำหรับปรับแต่งภาพถ่ายแบบอัตโนมัติโดย, Nightscape สำหรับถ่ายภาพกลางคืนให้สว่างคมชัดโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง ไปจนถึง Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างเนียนตา

 

Warp Charge 30T

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อัปเกรดมาใหม่ใน OnePlus 7T Series ทั้งสามรุ่นนั่นก็คือ ระบบชาร์จเร็วแบบ Warp Charge 30T ที่ทาง OnePlus ได้พัฒนาต่อยอดมาจาก Warp Charge 30 ของเดิมเพื่อช่วยให้เติมแบตเตอรี่กลับเข้าตัวเครื่องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งทาง OnePlus ยังชูจุดเด่นในเรื่องของการชาร์จไปเล่นไปโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความร้อนอีกด้วย

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับจุดเด่นของ OnePlus 7T Series ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องทุกการใช้งานรุ่นหนึ่งบนท้องตลาดเลยทีเดียว โดย OnePlus 7T Series เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ โดยราคาวางจำหน่ายในแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้

 

  • OnePlus 7T (รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB) ราคา 17,990 บาท
  • OnePlus 7T Pro (รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB) ราคา 26,990 บาท
  • OnePlus 7T Pro McLaren Limited Edition (รุ่น RAM 12GB + ROM 256GB) ราคา 29,990 บาท 

 

นอกเหนือจากการวางขาย OnePlus 7T Series รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการแล้ว OnePlus ยังได้ปรับราคาขายของเรือธงรุ่นก่อนหน้าอย่าง OnePlus 7 Pro ให้เข้าถึงง่ายขึ้นด้วย รายละเอียดดังนี้

 

  • OnePlus 7 Pro รุ่น RAM 6GB + ROM 128GB ราคาพิเศษ 18,990 บาท (จากปกติ 22,990 บาท)
  • OnePlus 7 Pro รุ่น RAM 8GB + ROM 256GB ราคาพิเศษ 19,990 บาท (จากปกติ 24,990 บาท)
  • OnePlus 7 Pro รุ่น RAM 12GB + ROM 128GB ราคาพิเศษ 23,990 บาท (จากปกติ 27,990 บาท) 

 

นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันพิเศษเมื่อซื้อเครื่องกับ AIS พร้อมสมัครแพ็กเกจที่กำหนด จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุด 12,000 บาท ทำให้ OnePlus 7 Pro มีราคาเริ่มต้นเพียง 8,990 บาทเท่านั้น (รายละเอียดเพิ่มเติม)

สำหรับผู้ที่สนใจก็สามารถจับจอง OnePlus 7 Pro และ OnePlus 7T Series ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ AIS Online Store, JD central และ Lazada ส่วนช่องทางการขายแบบ Offline หาซื้อได้ที่ AIS Shop 33 สาขาที่ร่วมรายการได้แก่

 

  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล บางนา
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
  • เอไอเอสช็อป สาขาเดอะมอลล์ บางแค
  • เอไอเอสช็อป สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 1
  • เอไอเอสช็อป สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์
  • เอไอเอสช็อป สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 3
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 2
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
  • เอไอเอสช็อป สาขาซีคอนสแควร์
  • เอไอเอสช็อป สาขาเมกา บางนา
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว 2
  • เอไอเอสช็อป สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์
  • เอไอเอสช็อป สาขามาบุญครอง
  • เอไอเอสช็อป สาขาไอคอนสยาม
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล เชียงใหม่
  • เอไอเอสช็อป สาขาเดอะมอลล์ นครราชสีมา
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล หาดใหญ่
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล อุบลราชธานี
  • เอไอเอสช็อป สาขาอยุธยาซิตี้พาร์ค
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ระยอง
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล ขอนแก่น
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล สมุย
  • เอไอเอสช็อป สาขาเซ็นทรัล พัทยาบีช
  • เอไอเอสช็อป สาขาโรบินสัน ฉะเชิงเทรา
  • เอไอเอสเซเรเนดช็อป สาขาดิเอ็มควอเทียร์
  • เอไอเอสเซเรเนดช็อป สาขาเซ็นทรัล ระยอง
  • เอไอเอสเซเรเนดช็อป สาขาเซ็นทรัล หาดใหญ่

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
*บทความนี้เป็น Advertorial

 


วันที่ : 12/12/2562

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy