รวมมือถือชิป Snapdragon 750G รุ่นใหม่ รองรับ 5G ในราคาไม่ถึงหมื่น มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน
สำหรับท่านที่หมั่นติดตามข่าวสารในวงการสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำก็น่าจะได้เห็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 750G รุ่นใหม่ล่าสุดของทางค่าย Qualcomm กันบ้างแล้ว ที่มีจุดเด่นเป็นการรองรับเครือข่าย 5G สำหรับอนาคต และยังมีราคาที่ย่อมเยาโดยเริ่มที่ประมาณหมื่นบาทเท่านั้น
ในวันนี้ทางทีงานจึงได้รวบรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 750G รองรับการใช้งาน 5G ในราคาเริ่มไม่ถึง 10,000 บาท มาให้ชมกัน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้ใช้ หากพร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ
Samsung Galaxy A42 5G : 11,990 บาท
5G | Snapdragon 750G | 5000 mAh + 15W | Super AMOLED Infinity-U Display
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นล่าสุดของทาง Samsung ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 750G รุ่นใหม่ล่าสุด จับคู่กับ RAM ขนาด 8GB + ROM ขนาด 128GB โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15W Fast Charging บนระบบปฏิบัติการ Android 10 รวมถึงฝาหลังแบบ Prism ไล่เฉด และไล่ระดับเป็นชั้น พร้อมติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ผสานกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล บนการดีไซน์จอไร้ขอบแบบ Super AMOLED Infinity-U Display ขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A42 5G
- ตัวเครื่องมีขนาด 164.4x75.9x8.6 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 193 กรัม
- หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (720x1600 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 750G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 619
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD สูงสุด 1TB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวที่แรกเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 123 องศา
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
- กล้องตัวหลักเลนส์ Wide-Angle (Main) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/1.8
- กล้องตัวที่สี่เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 15W Fast Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย One UI
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G / 4G LTE
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
Xiaomi Mi 10T Lite 5G : ประมาณ 10,000 บาท
5G | Snapdragon 750G | หน้าจอ Refresh Rate 120Hz | 4820 mAh + 33W
สมาร์ทโฟนน้องใหม่จากตระกูล Mi 10T Series ที่ผ่าน กสทช. เรียบร้อยแล้ว โดยพกพาจุดเด่นอย่างหน้าจอแสดงผลที่มี Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz พร้อมขุมพลังตัวใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 750G ที่รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ตั้งแต่แกะกล่อง พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4820 mAh และกล้องถ่ายภาพ 4 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล โดย Xiaomi เปิดราคาวางจำหน่ายในยุโรปเอาไว้ที่ 279 ยูโร หรือประมาณ 10,300 บาท ซึ่งคาดว่าในบ้านเราอาจเปิดราคาใกล้เคียงหรือต่ำกว่า
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Xiaomi Mi 10T Lite 5G
- ตัวเครื่องมีขนาด 165.38x76.8x9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 214.5 กรัม
- หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 มีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 750G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 619
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB / 128GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักเลนส์ Wide-Angle (Main) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX682 รูรับแสงขนาด F/1.89 เทคโนโลยี Super Pixel 1.6 ไมครอน
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 120 องศา
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
- กล้องตัวที่สี่เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ In-Display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.45
- แบตเตอรี่ความจุ 4820 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W Fast Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 10
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G / 4G LTE
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
Redmi Note 9 Pro 5G : เริ่มต้นประมาณ 7,300 บาท
5G | Snapdragon 750G | Quad Camera 108MP | 4820 mAh + 33W
สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปใหม่จากตระกูล Redmi Note 9 Series ที่มาพร้อมกับชิป Snapdragon 750G รุ่นใหม่ รองรับการเชื่อมต่อ 5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA) จับคู่ RAM ขนาดสูงสุด 8GB โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 4820 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W Fast Charging รวมถึงหน้าจอขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ที่มีค่า Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz และยังมาพร้อมกล้องตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซลอีกด้วย กับราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 1,599 หยวน หรือประมาณ 7,300 บาทเท่านั้น
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Redmi Note 9 Pro 5G
- ตัวเครื่องมีขนาด 165.38x76.8x9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 215 กรัม
- หน้าจอแสดงผล DotDisplay ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 มีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 750G
- ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว Liquid-Cool System
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 619
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB / 8GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB / 256GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ขนาด 512GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย
- กล้องตัวหลักเลนส์ Wide-Angle (Main) ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Samsung HM2 รูรับแสงขนาด F/1.75 เทคโนโลยี Super Pixel 1.6 ไมครอน
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.2 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 120 องศา
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4 ถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร
- กล้องตัวที่สี่เลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด F/2.4
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าแบบ In-Display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รองรับเทคโนโลยีกันสั่นแบบ EIS
- แบตเตอรี่ความจุ 4820 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W Fast Charge
- ระบบปฏิบัติการ Android 10
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G (SA/NSA Dual-Mode) / 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g (2.4 + 5.0GHz) และ Bluetooth 5.1
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
Moto G 5G : ประมาณ 10,900 บาท
5G | Snapdragon 750G | 5000 mAh + 20W | Triple Camera 48MP
สมาร์ทโฟน 5G รุ่นน้อง Moto G 5G Plus จากตระกูล G Series ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 750G ใช้งานได้ยาวนาน 2 วันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 20W TurboPower โดยมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ และกล้องหน้าฝังบนจอ ผสานกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งเปิดราคาในยุโรปเริ่มต้นที่ 300 ยูโร หรือประมาณ 10,900 บาท
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ Moto G 5G
- ตัวเครื่องมีขนาด 166.1x76.1x9.9 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 212 กรัม
- หน้าจอแสดงผล LTPS Max Vision Display ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 394 ppi)
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Qualcomm Snapdragon 750G
- หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 619
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB / 6GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB / 128GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุดที่ 1 TB
- กล้องดิจิทัลที่ด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ F/1.7 พร้อมเทคโนโลยี Quad Pixel พิกเซลขนาด 1.6 ไมครอน
- กล้องตัวที่สองเลนส์ Ultra-Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.2 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 118 องศา
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Macro Vision ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.2 พิกเซลขนาด 1.75 ไมครอน สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 2 เซนติเมตร
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าฝังบนจอ (In-Display Selfie) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.2
- แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 20W TurboPower
- ระบบปฏิบัติการ Android 10
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง (Fingerprint Scanner)
- ระบบสแกนใบหน้า (Face Unlock)
- รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G / 4G LTE
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4 + 5 GHz), Bluetooth 5.1 และ NFC
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
เรียกได้ว่าทั้ง 4 รุ่นข้างต้นมาพร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ในราคาสบายกระเป๋ากว่ารุ่นท็อปพอสมควร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสมาร์ทโฟนช่วงราคานี้ แต่อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อจึงขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เอง ว่ามีความชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใดมากที่สุด ทั้งในด้านการดีไซน์ว่าสวยถูกใจขนาดไหน และฟีเจอร์ด้านในสามารถพร้อมตอบโจทย์การใช้งานของตนเองได้ครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งหากว่าได้ทดลองใช้งานในเบื้องต้น แล้วเกิดความพึงพอใจ ก็ถือได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นคุ้มค่าแก่การจับจองเป็นเจ้าของแล้วค่ะ สำหรับวันนี้ทางทีมงานต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 30/11/2563