รวมมือถือ 5G ช่วงราคา 6,000 บาท รุ่นใหม่ที่น่าสนใจ มีรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้าง มาดูกัน
เรียกได้ว่าตลอดทั้งปี 2020 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเด่นจากแบรนด์ดังออกมาให้เราได้เลือกซื้อกันหลากหลายรุ่น ซึ่งหนึ่งในฟีเจอร์ใหม่ที่กลายมาเป็นฟีเจอร์พื้นฐานของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันก็คงไม่พ้นความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยความเร็วระดับกิ๊กกะบิต และไม่เพียงแต่รุ่นเรือธงที่รองรับฟีเจอร์นี้ สมาร์ทโฟนในระดับกลางก็เริ่มรองรับฟีเจอร์นี้กันมากขึ้น พร้อมกับราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า จึงกลายมาเป็นตัวเลือกของใครหลายคน ในวันนี้ทางทีมงานจึงได้เลือกสมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ที่น่าสนใจกับช่วงราคา 5,000 - 6,000 บาท มาให้ได้ชมกัน ซึ่งจะมีรุ่นเด่นจากแบรนด์ใดบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
OPPO A53 5G : ประมาณ 5,900 บาท
5G | Dimensity 720 | Refresh Rate 90Hz | 4040 mAh
ชูโรงที่การเชื่อมต่อ 5G แบบ Dual-Mode (SA/NSA) ด้วยชิปเซ็ต Dimensity 720 จับคู่กับ RAM 4GB/6GB + ROM 128GB พร้อมจุดเด่นอย่างหน้าจอไร้ขอบที่มีค่า Refresh Rate สูงสุดที่ระดับ 90Hz ที่ด้านหลังติดตั้งกล้อง AI 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 4040 mAh และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง (Side-Mounted Fingerprint) บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย ColorOS 7.2 เวอร์ชันใหม่ ซึ่งเปิดราคาในประเทศจีนเริ่มต้นที่ 1,299 หยวน หรือประมาณ 5,900 บาท
realme Q2 5G : ประมาณ 5,300 บาท
5G | Dimensity 800U | 5000 mAh + 30W | Refresh Rate 120Hz
สมาร์ทโฟน 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U จับคู่ RAM 4GB/6GB + ROM 128GB พร้อมหน้าจอไร้ขอบไร้รอยบากเจาะรูกล้องหน้าที่มีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 120Hz ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว และแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W Dart Charge รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
iQOO U3 : ประมาณ 6,800 บาท
5G | Dimensirt 800U | Refresh Rate 90Hz | 5000 mAh + 18W
รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U ที่มากับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวทั้งหมด 5 ชั้น ผสาน RAM 6GB/8GB + ROM 128GB บนการดีไซน์หน้าจอไร้ขอบทรงหยดน้ำขนาด 6.58 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ รองรับมาตรฐาน HDR10 ที่มีค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz และใช้งานกล้องหลังคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging ซึ่งเปิดราคาทางการที่ 1,498 หยวน หรือประมาณ 6,800 บาท
Redmi Note 9 5G : ประมาณ 5,900 บาท
5G | Dimensity 800U | 5000 mAh + 18W | Triple Cam 48MP
มีจุดเด่นที่การรองรับเครือข่าย 5G แบบ Dual-Mode ด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U ทำงานร่วมกับ RAM 6GB/8GB + ROM 128GB พร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging บนการดีไซน์จอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้า และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รวมถึงมีลำโพงคู่เพื่ออรรถรสในการใช้งาน โดยเปิดราคาเริ่มต้นที่ 1,299 หยวน หรือประมาณ 5,900 บาท
แม้ว่าทั้ง 4 รุ่นยังไม่มีการวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ก็เรียกได้ว่าแต่ละรุ่นมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบครัน สามารถตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่านผู้ใช้เองว่ามีไลฟ์สไตล์แบบใด และชื่นชอบรุ่นใดมากที่สุด ทั้งในแง่ของสเปก การดีไซน์ และราคาวางจำหน่าย ซึ่งทางทีมงานขอแนะนำให้ไปทดลองใช้งานจริงก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนั่นเองค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 21/12/2563