รีวิว กรุงไทย NEXT แอปฯ ธุรกรรมการเงินโฉมใหม่จากธนาคารกรุงไทยที่ครอบคลุมที่สุดในไทย พร้อมเจาะลึกการใช้งานทุกฟังก์ชัน สรุปครบจบในบทความเดียว
นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ สำหรับ กรุงไทย NEXT (Krungthai NEXT) แอปพลิเคชันสำหรับการทำธุรกรรมการเงินจากธนาคารกรุงไทย ซึ่งต่อยอดจาก KTB netbank ที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2554 เรียกได้ว่า พลิกโฉมทั้งดีไซน์ใหม่, อินเทอร์เฟสใหม่ อีกทั้งยังได้เพิ่มฟีเจอร์ด้านการใช้งานต่าง ๆ อย่างครบครัน และน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม ตอบโจทย์ทุกความต้องการแบบครบวงจรในแอปฯ เดียว
โดยแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ชูจุดแข็งในการเป็นผู้นำด้านเน็ตเวิร์คการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชีวิตครบ แอปเดียวอยู่" ที่ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมประเภท โอน-เติม-จ่าย ได้แบบครบวงจรในแอปฯ เดียว เหมือนกับว่ากำลังทำธุรกรรมอยู่ที่ธนาคาร ซึ่งถือว่า สะดวก, รวดเร็ว และไม่เสียเวลาในการเดินทางอีกด้วย
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ก็คือ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอได้ตามใจ, รองรับการยืนยันตัวตนเพื่อปลดล็อกแอปพลิเคชันทั้งการสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถโอนเงิน, เติมเงิน, จ่ายบิล รวมถึงบริการเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กรุงไทย Travel Card กับการแลกเงินลงในบัตรเงินสดเพื่อใช้ในต่างประเทศ, บริการกรุงไทยเติมบุญ (E-donation) พร้อมออกใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันที, บริการตรวจสอบวงเงินและยอดค้างชำระบัตรเครดิต KTC และอื่น ๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่า แค่คุณสมบัติเบื้องต้น ก็ทำให้แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT โฉมใหม่นี้น่าใช้มากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัวเลยทีเดียว
และเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทยได้จัดงาน Krungthai NEXT Blogger Day เปิดตัวแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT พร้อมกับสาธิตการใช้งานเบื้องต้นและทดสอบใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ซึ่งทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์มีโอกาสได้เข้าร่วมงานดังกล่าวเช่นกัน โดยในวันนี้ จะมารีวิวเจาะลึกแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT มีของใหม่อะไรบ้าง และครอบคลุมทุกการใช้งานต่าง ๆ มากน้อยแค่ไหน
รีวิวแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT มีอะไรใหม่บ้าง ?
นอกเหนือจากการเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่จาก KTB netbank มาเป็น กรุงไทย NEXT แล้ว ยังได้ยกเครื่องแอปพลิเคชันใหม่ทั้งหมด ทั้งดีไซน์, อินเทอร์เฟส และฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่า มีครบและจบในแอปฯ เดียว มาดูกันดีกว่าว่า แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT มีอะไรใหม่บ้าง
1. ปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟสใหม่ทั้งหมด
ความเปลี่ยนแปลงแรกที่เห็นได้อย่างชัดเจนมากที่สุดบนแอปฯ กรุงไทย NEXT นั่นก็คือ อินเทอร์เฟสได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ใช้งานง่ายขึ้นและไม่ซับซ้อน ฉีกภาพลักษณ์เดิม ๆ ของแอปฯ KTB netbank อย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น
- ไอคอนการเข้าใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ รวมถึงอินเทอร์เฟส ได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น ใช้งานง่าย และเข้าใจง่าย
- ย้ายรายการโอน-เติม-จ่าย รวมถึงรายการที่ใช้งานบ่อยมาไว้หน้าแรก เพื่อลดขั้นตอนการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
- เพิ่มความปลอดภัยในการปลดล็อกใช้งาน ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ และการสแกนใบหน้า
- เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Travel Card กับการจัดการบัตรและแลกเงินเก็บเพิ่มได้ ลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรมขณะท่องเที่ยวในต่างประเทศ
- เพิ่มฟีเจอร์ E-donation (กรุงไทย เติมบุญ) พร้อมรับใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที รวมถึงส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากรสำหรับการลดหย่อนภาษี
- สามารถเพิ่มรูปโปรไฟล์ และปรับเปลี่ยนรายการโปรดที่ใช้งานบ่อยได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง
- ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือได้ทันทีที่หน้าแรก
2. ฟังก์ชัน โอน-เติม-จ่าย
สำหรับการโอนเงิน, การเติมเงิน และการจ่ายเงิน ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่สำคัญและจำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันประเภท Mobile Banking ซึ่งฟังก์การโอน-เติม-จ่าย บนแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT รองรับการใช้งานประเภทไหนบ้าง และครอบคลุมมากแค่ไหน มาดูกันเลยดีกว่า
- การโอนเงิน
หมดยุคการโอนเงินแบบเสียค่าธรรมเนียมแล้ว เพราะการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ฟรีค่าธรรมเนียม ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงินแบบข้ามเขต หรือต่างธนาคาร นอกจากนี้ หลังจากทำรายการเสร็จสิ้นแล้ว ใบสลิปจะถูกบันทึกไว้ในตัวเครื่อง และสามารถเพิ่มเลขที่บัญชีที่ต้องทำธุรกรรมบ่อย ๆ ไว้ในรายการโปรด ทำให้ไม่ต้องกรอกเลขที่บัญชีบ่อย ๆ เรียกได้ว่า สะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาในการทำธุรกรรมแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
- การเติมเงิน
นอกเหนือจากการเติมเงินโทรศัพท์ ไม่ว่าจะเป็น AIS, One-2-Call, dtac, TrueMove กับ TrueMove H แล้ว แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ยังรองรับการเติมเงินค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์กรมทางหลวง (บัตร M-PASS), กรมการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (บัตร Easy Pass) รวมถึง e-Wallet อย่าง TrueMoney อีกด้วย
- การจ่ายเงิน
สำหรับฟังก์ชันการจ่ายเงินบน แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT รองรับการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย ซึ่งจากภาพข้างต้น จะเห็นว่า มีทั้งภาครัฐ, เอกชน รวมถึงรัฐวิสาหกิจ ไม่ว่าจะเป็น การไฟฟ้านครหลวง, การประปานครหลวง, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, การประปาส่วนภูมิภาค, ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ, กรมขนส่ง, กรมธนารักษ์, กรมสรรพสามิต และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังรองรับการชำระหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) รวมถึงรับชำระค่าปรับจราจรอีกด้วย โดยทางธนาคารกรุงไทย เผยว่า สำหรับการรับชำระค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กับการรับชำระค่าประปาของการประปาส่วนภูมิภาค จะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
3. บริการอื่น ๆ
นอกเหนือจาก 3 ฟังก์ชันหลัก ๆ ในข้างต้นแล้ว แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ยังรองรับบริการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น
E-donation หรือบริการ กรุงไทย เติมบุญ ที่ผู้ใช้สามารถบริจาคเงินให้กับหน่วยงานที่รับบริจาค ไม่ว่าจะเป็นวัด, โรงพยาบาล, มูลนิธิ, สถานศึกษา, มัสยิด และองค์กรสาธารณกุศล กว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ ใช้งานง่าย ๆ เพียงแค่สแกน QR code ที่นอกจากจะสะดวก ปลอดภัยแล้ว ยังไม่เสียค่าธรรมเนียม แถมรับใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที รวมถึงส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากรสำหรับการลดหย่อนภาษี
Krungthai Travel Card ผู้ใช้สามารถแลกเงินตราต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT ในอัตราที่พิเศษกว่าในท้องตลาดได้ถึง 10 สกุลเงิน ไม่ว่าจะเป็น ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, ปอนด์, เงินเยน, ดอลลาร์ฮ่องกง, ดอลลาร์ออสเตรเลีย, ดอลลาร์สิงคโปร์ ดอลลาร์แคนาดา, ดอลลาร์นิวซีแลนด์, และฟรังก์สวิส ซึ่งมีข้อดีก็คือ ไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมากในขณะที่เดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรม
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและแลกเงินเพิ่มได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อกลับประเทศไทย สามารถแลกเป็นเงินไทยกลับมาในอัตราที่ดี อีกทั้งยังไม่มีทั้งค่าธรรมเนียมแลกเงินและค่าธรรมเนียมรูดบัตรอีกด้วย
Money Connect by Krungthai เป็นฟีเจอร์ด้านการลงทุนบนแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT กับบริการจองซื้อหลักทรัพย์ เช่น หุ้นกู้, พันธบัตร, หน่วยลงทุน ที่ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้จัดจำหน่าย ตามช่วงวันและเวลาการเปิดเสนอขายของหลักทรัพย์นั้น ๆ
สามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรได้ พร้อมแจ้งผลการทำรายการผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ หรืออีเมล
สามารถตรวจสอบรายการเดินบัญชีย้อนหลัง รวมถึงขอและรับ Statement ได้ง่าย ๆ ผ่านทางอีเมล
สามารถตรวจสอบยอดใช้จ่าย, วงเงินคงเหลือ, คะแนนสะสม, ยอดค้างชำระ และชำระค่าบัตรเครดิต KTC ได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน
4. ประสิทธิภาพในการทำงาน
แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและตอบสนองการต่อการใช้งานที่ดีและเร็วขึ้น พร้อมทั้งสามารถรองรับจำนวนธุรกรรมได้มากขึ้นถึง 5 เท่า จากเดิมมีการทำธุรกรรมสูงสุดเพียง 8,000 รายการต่อวินาที ทางธนาคารได้ดำเนินการปรับปรุงให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมได้มากกว่า 25,000 รายการต่อวินาที เพื่อรองรับการทำรายการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
5. ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย
ในด้านความปลอดภัยในการเข้าใช้งาน นอกเหนือจากการรองรับการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) แล้ว ล่าสุด ยังรองรับการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Recognition) แล้วเช่นกัน (เฉพาะรุ่นที่รองรับฟีเจอร์นี้) อีกทั้งยังมีระบบ Tokenization สำหรับตรวจสอบความปลอดภัยในการธุรกรรม ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ใส่รหัส PIN ในทุก ๆ Transactions หรือสามารถตั้งค่าให้ใส่รหัส PIN ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ได้ เช่น หากโอนเงินจำนวนมากกว่า 1,000 บาท จะต้องใส่ PIN เป็นต้น
เรียกได้ว่า แอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT โฉมใหม่นี้ ตอบรับกับนโยบาย Thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบเลยก็ว่าได้ โดยนอกจากจะปรับเปลี่ยนอินเทอร์เฟสใหม่ให้น่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ยังรองรับฟังก์ชันการใช้งานแบบครบวงจร และรองรับการให้บริการธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น การโอน-เติม-จ่าย, สามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือได้ทันทีจากหน้าแรก, Travel Card แลกเงินผ่านแอปฯ ในอัตราที่พิเศษกว่าในท้องตลาดได้ถึง 10 สกุลเงินหลัก ตลอด 24 ชั่วโมง, กรุงไทย เติมบุญ บริจาคเงินด้วยการสแกน QR code พร้อมออกใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ให้ทันที, ซื้อ-จองสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยไม่ต้องไปรอต่อคิวที่ธนาคาร นอกจากนี้ ยังปลอดภัยมากขึ้น กับระบบยืนยันตัวตนผ่านการสแกนลายนิ้วมือ หรือการสแกนใบหน้า (เฉพาะรุ่นที่รองรับ) ทำให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมแบบครบวงจรได้ในแอปฯ เดียว เสมือนทำธุรกรรมที่ธนาคาร สมชื่อคอนเซ็ปต์ "ชีวิตครบ แอปเดียวอยู่" นั่นเอง
โดยผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT โฉมใหม่นี้ได้ทั้งบน Android และ iOS ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT บนระบบ Android (รองรับ Android เวอร์ชัน 5.0 ขึ้นไป)
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน กรุงไทย NEXT บนระบบ iOS (รองรับ iOS 9 ขึ้นไป)
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 19/10/2561