เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพวกเราทีมงาน Thaimobilecenter ได้รีวิวลำโพงไซส์มินิ Harman/Kardon NEO ให้ชมกันไปแล้ว ซึ่งก็น่าจะถูกใจสาย Outdoor กันพอสมควร สำหรับคราวนี้เรามาดูรีวิวลำโพงไร้สายอีกแนวกันบ้าง ซึ่งให้อารมณ์ที่ต่างจาก Harman/Kardon NEO อย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็คือลำโพงสายปาร์ตี้ JBL Pulse 4 ครับ

JBL Pulse 4 เป็นลำโพงไร้สายตระกูล Pulse รุ่นล่าสุด ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ไฟ JBL Light Show หลากสีสันที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับท่วงทำนองและบรรยากาศได้ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน โดยในรุ่นนี้ได้เพิ่มความโดดเด่นของ Light Show ด้วยการขยายพื้นที่แสดงไฟ LED ให้ยาวตลอดตัวเครื่อง และสามารถเปลี่ยนเอฟเฟกต์และสีสันของไฟจากแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้

สำหรับระบบเสียงนั้น JBL Pulse 4 มากับระบบเสียงแบบ JBL Signature Sound ที่ชัดใสตามแบบฉบับของ JBL โดยสามารถเชื่อมต่อกับลำโพง JBL เครื่องอื่นเพื่อเล่นเพลงพร้อมกันได้สูงสุดถึง 100 ตัวด้วยฟีเจอร์ PartyBoost หรือเชื่อมต่อกับ JBL Pulse 4 ด้วยกันเพื่อแยกเสียงเป็นแบบสเตอริโอซ้าย-ขวาได้ ขณะเดียวกัน ตัวลำโพงยังมีคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IPX7 จึงสามารถนำไปเปิดสร้างบรรยากาศในปาร์ตี้ริมสระได้อย่างไร้กังวล โดยตัวลำโพงสามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่องนานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคุณสมบัติคร่าวๆ เท่านั้น ในส่วนของการใช้งานจริงลำโพงวิบวับรุ่นนี้จะแตกต่างจากรุ่นที่แล้วอย่างไรบ้าง เราไปดูกันในรีวิว JBL Pulse 4 โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันเลยดีกว่าครับ

สเปกเบื้องต้นของลำโพง JBL Pulse 4

• ขนาดตัวเครื่อง : 20.7 x 9.6 x 9.6 cm.
• น้ำหนัก : 1.26 กิโลกรัม
• รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
• รองรับ A2DP V1.3, AVRCP V1.6
• Transducer ขนาด 2.25 นิ้ว
• Rated Power : 20W RMS
• Frequency Response : 70Hz – 20kHz
• Signal-to-Noise Ratio: >80dB
• แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 7,260 mAh ใช้เวลาชาร์จ 3.5 ชั่วโมง
• เล่นเพลงต่อเนื่องนานสูงสุด 12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับความสว่าง, ระดับเสียง และชนิดของเพลง)
• Bluetooth Transmitter Power : ≤10dBm
• Bluetooth Transmitter Frequency Range : 2.402 – 2.480GHz
• 2.4GHz SRD Frequency Range : 2.407 – 2.475GHz
• Bluetooth Transmitter Modulation: GFSK, π/4-DQPSK, 8DPSK
• ระบบเสียง JBL Signature Sound
• พอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C
• กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
• ปรับแต่งสีสัน, ความสว่าง และเอฟเฟกต์ของไฟได้ผ่านแอปพลิเคชัน JBL Connect
• รองรับ​ JBL PartyBoost ที่สามารถจับคู่กับลำโพง JBL รุ่นอื่นได้สูงสุดถึง 100 ตัว หรือจำลองเป็นลำโพงสเตอริโอซ้าย-ขวาได้ ด้วยการเชื่อมต่อกับ JBL Pulse 4 รุ่นเดียวกัน

 

ดีไซน์ภายนอก

JBL Pulse 4 ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมของ Pulse Series เอาไว้ โดยมาในทรงแคปซูล และไฟ LED จากในตัวเครื่องที่ส่องสว่างรอบทิศทางผ่านบอดี้ที่เป็นกระจกโปร่งใส ซึ่งในรุ่นนี้ได้อัปเกรดเพิ่มพื้นที่ไฟ LED ให้เต็มตัวเครื่องตั้งแต่หัวจรดท้าย ขนาดของตัวลำโพงยังคงใกล้เคียงกับรุ่นที่แล้ว และมีน้ำหนัก 1.26 กิโลกรัม ถือว่าหนักพอสมควรแต่ยังสามารถถือด้วยมือเดียวได้ และยังเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวกอยู่

 

ที่มุมด้านบนของตัวลำโพงจะมีปุ่มการทำงาน 3 ชุด ชุดแรกจะเป็นปุ่มเปิด/ปิด และปุ่ม Bluetooth สำหรับปล่อยสัญญาณเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ

 

ปุ่มควบคุมชุดต่อมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง (เพิ่ม-ลด) และปุ่มเล่น/หยุดเพลง ซึ่งหากกด 2 ครั้งจะเป็นการข้ามไปเล่นเพลงถัดไป

 

ปุ่มควบคุมชุดสุดท้ายเป็นปุ่ม JBL PartyBoost ที่ทำให้ JBL Pulse 4 สามารถลิงค์กับลำโพง JBL เครื่องอื่นที่รองรับฟีเจอร์ PartyBoost เพื่อเล่นเพลงพร้อมกันได้สูงสุดถึง 100 ตัว หรือเชื่อมต่อกับ JBL Pulse 4 ด้วยกันเพื่อแยกเสียงลำโพงซ้าย-ขวาแบบสเตอริโอ และปุ่มเปลี่ยนสีสัน/เอฟเฟกต์ของไฟ LED หากกดค้างจะเป็นการปิดไฟ LED

 

เมื่อพลิกดูด้านหลังตัวเครื่องจะพบกับพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ พร้อมแถบไฟแสดงสถานะของแบตเตอรี่ขณะชาร์จ โดบแบตเตอรี่ของ JBL Pulse 4 มีความจุมากถึง 7,260 mAh เพื่อให้เล่นเพลงพร้อมกับแสดงเอฟเฟกต์ไฟ LED ได้ต่อเนื่องยาวนาน ใช้เวลาชาร์จ 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยใช้งานได้นานประมาณ 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสว่างของไฟ, ระดับเสียง และประเภทของเพลงที่เล่นด้วย

 

ไดรเวอร์ของ JBL Pulse 4 เป็นแบบกระจายเสียงรอบทิศทาง มีกำลังขับ 20 วัตต์ ส่วน Bass Radiator จะอยู่ด้านล่าง หมายความว่าเมื่อตั้งใช้งานตามปกติ ลำโพงจะปล่อยเบสอัดพื้น โดยฐานของไดรเวอร์ด้านนี้จะมีผิวที่ไม่เสมอกันเพื่อให้ขับเสียงออกมาได้อย่างเต็มที่

 

สำหรับอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องแพ็คเกจมีเพียงสายเคเบิล USB-C และคู่มือการใช้งานเท่านั้น ไม่มีอแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตมาให้ ซึ่งเราสามารถใช้อแดปเตอร์ของสมาร์ทโฟนแทนได้ครับ

การใช้งานและคุณภาพเสียง

JBL Pulse 4 เป็นลำโพงไร้สายที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านสัญญาณ Bluetooth โดยวิธีการเชื่อมต่อก็เหมือนกับลำโพงไร้สายทั่วไป โดยกดที่ปุ่ม Bluetooth ด้านบนลำโพง จากนั้นเปิดใช้งาน Bluetooth บนสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ แล้วเลือกเชื่อมต่อกับ JBL Pulse 4 เพียงเท่านี้ก็พร้อมใช้งานทันที

แต่ทั้งนี้ JBL Pulse 4 ยังมีลูกเล่นอื่นๆ อีก หากต้องการใช้งานลำโพงวิบวับรุ่นนี้ให้เต็มที่จริงๆ จะต้องใช้งานแอปพลิเคชัน JBL Connect ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งบน iOS และ Android ครับ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JBL Connect

          

 

เมื่อติดตั้ง JBL Connect แล้ว ให้เชื่อมต่อ JBL Pulse 4 กับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth ก่อน จากนั้นจึงเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา แอปพลิเคชันจะตรวจสอบลำโพง JBL ที่เราใช้อยู่โดยอัตโนมัติ และจะแสดงเมนูการตั้งค่าสำหรับรุ่นนั้นๆ ขึ้นมาซึ่งในที่นี้คือ JBL Pulse 4

 

ในหน้าแรกจะแสดงลำโพงที่เรากำลังเชื่อมต่ออยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็คือ JBL Pulse 4 แถบสีเขียวใต้ภาพคือสถานะแบตเตอรี่ของลำโพง ส่วนด้านล่างจะมีเมนู 3 อย่าง ได้แก่ Light Show, Party และ Stereo

 

เมนู Light Show คือเมนูสำหรับปรับแต่งแสงไฟ LED โดยมีเอฟเฟกต์สำเร็จรูปให้เลือก 4 แบบ ได้แก่ Equaliser, Wave, Spiritual และ Campfire นอกจากนี้เรายังเลือกสร้างเอฟเฟกต์เองได้ในเมนู Customized ซึ่งเราสามารถเลือกทิศทางการวิ่งของไฟผสมกันได้ 3 แถว ได้แก่ บน กลาง ล่าง

 

เมนู Party จะเป็นการเปิดโหมด PartyBoost ที่จะทำให้ JBL Pulse 4 เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน JBL รุ่นอื่นในระยะที่รองรับฟีเจอร์เดียวกันเพื่อเล่นเพลงพร้อมกันได้ ช่วยเพิ่มความดังและกระจายเสียงเพลงได้อย่างทั่วถึง สามารถเชื่อมกันได้สูงสุดถึง 100 ตัว

 

สำหรับเมนู Stereo จะเป็นการเชื่อมต่อ JBL Pulse 4 สองเครื่องเข้าด้วยกัน เพื่อให้แต่ละตัวเล่นเพลงแยกช่องซ้าย-ขวากันเป็นสเตอริโอ เป็นลูกเล่นที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงได้อย่างดี

 

ถัดจากเรื่องแสงสี เรามาดูเรื่องเสียงกันบ้างครับ ซึ่ง JBL Pulse 4 เป็นลำโพงที่ขับเสียงออกมารอบทิศทางแบบ 360 องศา ทำให้ได้ยินเสียงเท่ากันไม่ว่าจะฟังจากมุมไหน และยังมีการอัปเกรดเสียงเบสให้หนักแน่นกว่ารุ่นที่แล้วพอสมควร ส่วนแนวเสียงโดยรวมยังคงเป็นไปตามเอกลักษณ์ของ JBL Signature Sound ที่เน้นรายละเอียดของย่านเสียงกลางและเสียงร้อง โดยมีทั้งความคมชัดและความสดใส ส่วนเสียงแหลมทอดไปได้ค่อนข้างไกลและไม่แหลมจนบาดหู เวทีเสียงค่อนข้างกว้างพอสมควร มีพื้นที่ให้กับเครื่องดนตรีทุกชิ้นโดยไม่ทับซ้อนกัน โดยรวมเหมาะสำหรับเพลงสายปาร์ตี้อย่างแนว Pop, EDM และ Rock ครับ

ทั้งนี้ JBL Pulse 4 แตกต่างกับลำโพง JBL ที่เรารีวิวกันไปก่อนหน้านี้ตรงที่ไม่มีไมโครโฟนในตัว จึงรับสายและคุยโทรศัพท์ไม่ได้ เรียกได้ว่าลำโพงรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อการฟังเพลงโดยเฉพาะเลยครับ

 

สรุปการรีวิว

JBL Pulse 4 เป็นลำโพงไร้สายที่ต่อยอดจุดเด่นของความเป็น Pulse ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งไฟ JBL Light Show ที่ส่องสว่างยาวตลอดตัวเครื่องหัวจรดท้าย และเสียงที่เพิ่มพลังเบสให้หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม โดยมีการขับเสียงแบบรอบทิศทาง 360 องศา ทำให้เราได้ยินเสียงดังเท่ากันไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงมุมไหนของห้อง อีกทั้งยังซิงค์กับลำโพง JBL ตัวอื่นๆ ได้ด้วยฟีเจอร์ PartyBoost ช่วยให้เสียงเพลงกระหึ่มเต็มอารมณ์ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เมื่อรวมกับสีสันจากไฟ Light Show แล้ว ยิ่งทำให้บรรยากาศสนุกยิ่งขึ้น นับว่าเป็นลำโพงไร้สายที่ให้ได้ทั้งเสียงและบรรยากาศในคราวเดียว

แต่ทั้งนี้ JBL Pulse 4 ไม่มีไมโครโฟนในตัว จึงไม่สามารถรับสายโทรศัพท์หรือสั่งการด้วยเสียงเหมือนลำโพงบางรุ่นได้ การใช้งานจึงจำกัดอยู่แค่การฟังเพลงเท่านั้นครับ

ลำโพงไร้สาย JBL Pulse 4 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 8,990 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีขาว และสีดำ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com ครับ

บทความรีวิวโดย : thaimobilecenter.com

 

 

วันที่ : 9/3/2563