หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 8/2/2561

รีวิว JBL Pulse 3 ยอดลำโพงไร้สาย กันน้ำได้ ใหม่ล่าสุด พร้อมไฟ LED แบบ 360 องศา และพลังเสียงสุดกระหึ่มเบสแน่น ในราคา 8,990 บาท!

 

ย้อนกลับไปเมื่องานมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก หรือ CES เมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา JBL แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องเสียงชั้นนำระดับโลก ได้ทำการเปิดตัวลำโพง Bluetooth รุ่นใหม่ล่าสุดในชื่อ JBL Pulse 3 ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้านดีไซน์, พลังเสียง และไฟสีสันที่สามารถแสดงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา พร้อมระบบเสียงรอบด้าน ทำให้ JBL Pulse 3 เป็นลำโพงที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก

ล่าสุดทางมหาจักร ดีเวลอปเมนต์ ก็ได้นำ JBL Pulse 3 เข้ามาวางจำหน่ายให้ผู้ใช้ในประเทศไทยได้มีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของด้วย โดยเคาะราคาวางจำหน่ายเอาไว้ที่ 8,990 บาท ซึ่งภายในวันนี้ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้นำ JBL Pulse 3 มารีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกัน ซึ่งการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, ไฟของตัวลำโพงแสดงสีสันได้สวยงามเพียงไหน และจะมีกำลังเสียงเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยดีกว่าครับ

สเปก JBL Pulse 3

  • Output Power : 20W
  • Transducer : 3 x 40mm
  • Frequency Response : 65Hz – 20kHz
  • Signal-to-noise ratio : ≥80dB
  • แบตเตอรี่ : 3.7V, 6000mAh
  • ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ : 4.5 ชั่วโมง @ 5V 2.3A
  • รองรับการใช้งานสูงสุด 12 ชั่วโมง
  • ขนาดตัวเครื่อง : 223 x 92 x 92 มม.
  • น้ำหนัก : 960 กรัม
  • คุณสมบัติด้านการกันน้ำ ตามมาตรฐาน IPX7
  • Bluetooth เวอร์ชัน 4.2

ชมตัวอย่างฟีเจอร์ และการใช้งานของ JBL Pulse 3 ได้ที่วิดีโอนี้

สำหรับ JBL Pulse 3 เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจตั้งแต่กล่องบรรจุภัณฑ์เลยทีเดียว โดยบริเวณด้านหน้าของแพ็คเกจนั้น มีการพิมพ์ภาพดีไซน์ของลำโพง พร้อมกับชื่อรุ่นเอาไว้ให้เห็นแบบเด่นชัด ซึ่งเมื่อทำการพลิกกล่องไปด้านข้าง ไฟลำโพงบนกล่องแพ็คเกจ ก็จะมีการเปลี่ยนสีสันเหมือนกับลำโพงของจริงด้วย

ที่ด้านหลังของแพ็คเกจ มีการระบุคุณสมบัติเด่นๆ ของ JBL Pulse 3 เอาไว้ ไล่ตั้งแต่ ระยะเวลาในการเล่นต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง, ไฟลำโพงที่สามารถแสดงสีสันได้รอบทิศทางแบบ 360 องศา, คุณสมบัติกันน้ำระดับ IPX7, รองรับฟีเจอร์ JBL CONNECT+ สำหรับเชื่อมต่อลำโพงของ JBL เข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการขยายกำลังเสียงให้ไกลขึ้น และการมาพร้อมกับไมโครโฟนภายในตัว เพื่อใช้งานรับสายโทรศัพท์ และพูดคุยสนทนาผ่านทางลำโพงได้ทันที

สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมาให้ภายในกล่อง ประกอบไปด้วย อะแดปเตอร์, สาย microUSB สำหรับชาร์จไฟ, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

ข้ามมาที่ตัวลำโพงกันบ้าง โดย JBL Pulse 3 มาพร้อมกับดีไซน์ทรงกระบอก ขนาดใกล้เคียงกับกระบอกเก็บน้ำ โดยมีสัดส่วนอยู่ที่ 223x92x92 มิลลิเมตร น้ำหนัก 960 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ยังสามารถพกพาได้ง่าย ส่วนตรงกลางจะเป็นไฟ LED สำหรับแสดงสีสันที่มองเห็นได้รอบด้านแบบ 360 องศา

ด้านล่างของตัวเครื่อง จะเป็นส่วนของดอกลำโพงที่มีการบุด้วยผ้า ซึ่งขับกำลังเสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศาเช่นเดียวกัน

ด้านหลังของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ไฟ LED สำหรับแสดงสถานะแบตเตอรี่, ปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง, ปุ่มเปิด-ปิด การเชื่อมต่อ Bluetooth, ปุ่มเปิด-ปิด ฟังก์ชัน JBL CONNECT+, ปุ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงสีสันของไฟลำโพง, ปุ่มเพิ่มระดับเสียง, ปุ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Play สำหรับเล่น หรือหยุดเพลง รวมไปถึงการเรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะบนสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่ออยู่

สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อจะถูกปิดไว้ด้วยจุกยาง เพื่อป้องกันน้ำเข้า โดยมาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อ AUX และพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จไฟให้แก่ตัวลำโพง

ที่ด้านบนของลำโพง คือระบบ Passive Radiator สำหรับช่วยขับเสียงเบสให้มีพลังมากขึ้น พร้อมสกรีนโลโก JBL เอาไว้แบบเด่นชัด

อย่างที่กล่าวไปด้านต้นว่า JBL Pulse 3 มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำระดับ IPX7 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกสุด 1 เมตร เป็นระยะเวลานาน 30 นาที ซึ่งทำให้เหมาะกับการนำไปใช้งานเป็นเครื่องเสียงคู่ใจในทุกสถานการณ์

นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อ JBL Pulse 3 เข้ากับลำโพง JBL Pulse 3 ตัวอื่น รวมไปถึงลำโพงของ JBL รุ่นอื่นๆ ที่มีฟังก์ชัน JBL CONNECT+ ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดที่ปุ่ม JBL CONNECT+ บนลำโพงที่กำลังเชื่อมต่อ Bluetooth อยู่ จากนั้นให้กดปุ่ม JBL CONNECT+ บนลำโพงที่ต้องการจะเชื่อมต่อ เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว

สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนถือว่าสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth บนสมาร์ทโฟนเอาไว้ จากนั้นให้กดสัญลักษณ์ Bluetooth ที่อยู่ด้านล่างลำโพง ซึ่งจะพบรายชื่อของ JBL Pulse 3 ปรากฏอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟน จากนั้นให้แตะเพื่อทำการเชื่อมต่อ เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นแล้ว

นอกจากนี้ JBL Pulse 3 ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่าง นั่นก็คือ การควบคุมสีสันของลำโพง, รูปแบบการเล่นของไฟ และการตั้งค่าต่างๆ ภายในตัวลำโพง ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนชื่อ JBL Connect (Android, iOS)

ภายในแอปพลิเคชัน JBL Connect สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นของไฟได้ทั้งหมด 8 รูปแบบ ได้แก่ Fireworks, Equaliser, Rave, Rainbow, Campfire, Customized, Wave และ Jet

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งสีสันบนตัวลำโพงได้อย่างง่ายดายผ่านเมนู Pick Color

ซึ่งภายในหน้าเมนู Pick Color ผู้ใช้สามารถเลือกเปลี่ยนสีสันบนตัวลำโพงได้ทั้งหมด 2 วิธี ซึ่งวิธีแรกจะเป็นการนำกล้องไปส่องยังวัตถุที่ต้องการ จากนั้นให้แตะที่ปุ่มชัตเตอร์ตรงกลางด้านล่าง ซึ่ง JBL Pulse 3 จะทำการเปลี่ยนสีไฟให้เหมือนกับสีวัตถุแบบอัตโนมัติ

ส่วนวิธีที่สองให้แตะที่ไอคอนถาดสีที่อยู่บริเวณด้านขวา ซึ่งผู้ใช้สามารถลากนิ้วเพื่อปรับเฉดสีได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน JBL Connect ยังมาพร้อมกับโหมดการทำงานแบบพิเศษทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ Party Mode และ Streo Mode โดย Party Mode จะเป็นการเชื่อมต่อลำโพง JBL ที่มีฟังก์ชัน JBL CONNECT+ เข้าด้วยกันได้สูงสุดถึง 100 ตัว ซึ่งเสียงจะเล่นออกมาพร้อมกันทั้งหมด ส่วน Stereo Mode ซึ่งจะแบ่งการเล่นเสียงแยกกันแบบซ้าย-ขวา ซึ่งจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเชื่อมต่อลำโพง JBL จำนวน 2 ตัวเข้าด้วยกันนั่นเอง

สำหรับคุณภาพเสียงของ JBL Pulse 3 นั้น ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบฟังเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานอย่างเช่น Hip Hop หรือเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ (EDM) เป็นอย่างมาก เนื่องด้วยมวลเสียงเบสที่มีน้ำหนัก เก็บตัวไว ไม่กลบเสียงนักร้องหรือเสียงย่านอื่นๆ และไม่มีเสียงเบสแตกให้ได้ยิน หรือหากจะนำไปฟังเพลงเบาๆ แบบ Pop, Jazz หรือ Acoustic ก็เหมาะเช่นเดียวกัน ด้วยโทนเสียงกลางที่มีความสดใสชัดเจน และเสียงสูงที่ไปได้ไกล ซึ่งเมื่อประกอบกับเสียงเบสที่มีความชัด นุ่มนวล ส่งผลให้คุมจังหวะเสียงเพลงได้อย่างลงตัว ทำให้ JBL Pulse 3 สามารถฟังเพลงได้หลากหลายแนวเลยทีเดียว

JBL Pulse 3 เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ในราคา 8,990 บาท โดยมีให้เลือกทั้งหมด 2 เฉดสีด้วยกัน ได้แก่ สีขาว และสีดำ ซึ่งหากใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปทดลอง และหาซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำ หรือสามารถสั่งซื้อได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ mahajaklife.com ซึ่งสุดท้ายนี้ทางทีมงาน thaimobilecenter ต้องขอขอบคุณทาง JBL ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งลำโพง JBL Pulse 3 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com


วันที่ : 8/2/2561

Tags :
  

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy