สวัสดีครับ สำหรับวันนี้รีวิวแก็ดเจ็ตรุ่นใหม่ที่น่าสนใจโดย Thaimobilecenter ก็ยังคงอยู่กับหูฟังไร้สาย JBL LIVE กันอีกเช่นเคย หลังจากที่เราได้รีวิวหูฟังในซีรีส์นี้ไปแล้ว 2 รุ่น ได้แก่ JBL LIVE 200BT และ JBL LIVE 400BT ในวันนี้ก็ถึงคิวของรุ่นที่ 3 ซึ่งก็คือ JBL LIVE 500BT ครับ

JBL LIVE 500BT เป็นหูฟังไร้สายอีกรุ่นหนึ่งในตระกูล LIVE ที่เน้นการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยอัปเกรดขึ้นมาจากรุ่น 400BT ให้เป็นหูฟังแบบ Over-Ear ที่จะครอบหูทั้งหมด ทำให้ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีกว่า ส่วนวัสดุและดีไซน์ของหูฟังยังคงเป็นพลาสติกโพลิเมอร์ที่ยืดหยุ่นและมีความทนทานสูง headband หุ้มด้วยเส้นใยฝ้าถักซึ่งให้สัมผัสนิ่ม และไม่กินผม หูฟังทั้ง 2 ข้างบุด้วยหนังเทียมที่มีความนุ่ม ช่วยลดแรงกดทับเวลาสวมใส่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตัวหูฟังยังพับเก็บได้อีกด้วย

ส่วนฟังก์ชันเด่นของหูฟัง JBL LIVE ที่ขาดไม่ได้ ก็คือการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Voice Assistant ที่ช่วยให้เราควบคุมการเล่นเพลง และดูการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นดู พร้อมกันนี้ ตัวหูฟังยังมีเทคโนโลยี Ambient Aware และ TalkThru ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก, แบตเตอรี่ขนาด 700 mAh ที่ใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 30 ชั่วโมง นอกจากนี้ตัวหูฟังยังสามารถต่อสาย AUX เพื่อใช้ฟังเพลงตอนที่แบตหูฟังหมดได้ด้วย มาถึงตรงนี้แล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปชม รีวิวหูฟัง JBL LIVE 500BT กันเลยครับ

ฟีเจอร์เด่นของหูฟัง JBL LIVE 500BT

• ระบบเสียง JBL Signature Sound พร้อมไดร์ฟเวอร์ขนาด 50 มม.
• ก้าน Headband ทำมาจากพลาสติกโพลิเมอร์หุ้มด้วยผ้า มีความยืดหยุ่น ทนทาน และไม่กินผม
• ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา เมื่อเทียบกับหูฟัง Over-Ear ทั่วไป
• หูฟังทั้งสองข้างบุด้วยหนังเทียม ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย
• รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านทาง Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Point Connection สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้พร้อมกัน 2 ตัว
• รองรับ Voice Assistant ระบบการสั่งการด้วยเสียง (Google Assistant และ Amazon Alexa)

 

สเปกเบื้องต้นของหูฟัง JBL LIVE 500BT

• ขนาดไดร์ฟเวอร์ : 50 มม.
• Driver sensitivity at 1kHz/1mW : 108dB SPL
• Dynamic Frequency Response Range : 18Hz - 20Hz
• Impedance : 32 ohms
• รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เวอร์ชัน 4.2
• Bluetooth Frequency : 2.402 - 2.480GHz
• Bluetooth Transmitted Power : 0-4dbm
• Bluetooth Transmitted Modulation : GFSK, π/4DQPSK, 8DPSK
• Bluetooth Profiles : A2DP V1.3, AVRCP V1.5, HFP V1.6, HSP V1.2
• แบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 700 mAh, 3.7V DC รองรับการใช้งานสูงสุด 33 ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 2 ชั่วโมง
• รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน สามารถใช้รับสายโทรศัพท์ได้
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Point Connection สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 ตัว
• รองรับระบบการสั่งการด้วยเสียง Google Assistant และ Amazon Alexa
• เทคโนโลยี Ambient Aware และ TalkThru ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างและพูดคุยกับคนรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
• รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Point Connection สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 ตัว
• น้ำหนัก 231.6 กรัม

 

ดีไซน์และการใช้งาน

หูฟังไร้สาย JBL LIVE 500BT จะมีดีไซน์ที่เหมือนกับรุ่น 400BT ที่รีวิวไปก่อนหน้านี้ แต่มีที่ครอบหูฟังใหญ่กว่า โดยเป็นแบบ Over-Ear ที่จะครอบปิดใบหูทั้งหมด ตัวหูฟังมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากรุ่น 400BT เล็กน้อย แต่ยังคงเรียกได้ว่ามีน้ำหนักเบา ก้านหูฟังหมุนได้ 90 องศา และพับได้ เพื่อให้เก็บใส่กระเป๋าได้ง่ายขึ้น

 

ฟองน้ำของหูฟังทั้งสองข้างเป็นหนังเทียมนุ่มๆ ช่วยลดแรงกดทับกับใบหูเวลาสวมใส่ และด้วยความที่เป็นหูฟังแบบ Over-Ear ทำให้กันเสียงรบกวนภายนอกได้เป็นอย่างดี

 

Headband เป็นพลาสติกโพลิเมอร์ที่มีความยืดหยุ่นและทนทานต่อแรงบิดงอ หุ้มด้วยผ้าเนื้อนิ่ม พร้อมเก็บรอยตะเข็บอย่างดี ทำให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้น และไม่กินผม นอกจากนี้ยังปรับระดับความยาวได้ด้วย

 

ปุ่มควบคุมการทำงานของหูฟัง JBL LIVE 500BT ทั้งหมดจะอยู่ที่หูฟังด้านขวา ซึ่งได้แก่ ปุ่ม Power แบบสไลด์ เมื่อเปิดเครื่องจะปรากฏไฟ LED สีขาว และจะเปลี่ยนเป็นไฟ LED สีน้ำเงินกระพริบเพื่อค้นหาสัญญาณ Bluetooth และเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แล้ว ไฟจะกลายเป็นสีน้ำเงินนิ่ง ถัดมาเป็นปุ่มควบคุมการทำงานทั้งด้านการฟังเพลง, การใช้งานโทรศัพท์ รวมถึงการสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) ซึ่งมีวิธีการควบคุมดังนี้ครับ :

• การฟังเพลง
  • ปุ่ม + : กด 1 ครั้ง เพิ่มระดับเสียง, กด 2 ครั้ง ข้ามไปเพลงถัดไป
  • ปุ่ม - : กด 1 ครั้ง ลดระดับเสียง, กด 2 ครั้ง กลับไปเล่นเพลงก่อนหน้า
  • ปุ่ม o : เล่น/หยุดเพลง
• การโทรศัพท์ ใช้เฉพาะปุ่ม o เพียงปุ่มเดียว กด 1 ครั้งเพื่อรับสาย และกดอีก 1 ครั้งเพื่อวางสาย หากต้องการตัดสายที่โทรเข้ามา ให้กดค้างไว้ 2 วินาที
• การสั่งการด้วยเสียง (Voice Assistant) กดปุ่ม o 2 ครั้ง ระบบจะ stand by พร้อมรับคำสั่งเสียงทันที ซึ่งเราสามารถสั่งให้เปิดเพลง, ปิดเพลง เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ยังมีช่องเสียบหูฟัง 2.5 มิลลิเมตร สำหรับเสียบสาย AUX เพื่อใช้งานในกรณีที่ไม่ต้องการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth หรือใช้ฟังเพลงเมื่อแบตเตอรี่หมดได้ด้วย ซึ่งสาย AUX มีมาให้ในกล่องอยู่แล้ว ถัดไปทางขวาเป็นปุ่มค้นหาสัญญาณ Bluetooth  และปุ่ม Ambient Aware ซึ่งจะลดระดับเสียงเพลงลง ทำให้สามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ชัดขึ้น และพูดคุยกับคนอื่นๆ โดยรอบได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง

ส่วนพอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่จะอยู่ที่หูฟังด้านซ้าย พร้อมไฟ LED บอกสถานะ โดยขณะชาร์จจะเป็นไฟสีแดง และจะดับลงเองเมื่อชาร์จจนเต็ม 100%

 

สำหรับอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่อง จะมีสาย USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และสาย AUX ซึ่งเป็นสายถัก แต่ไม่มีอแดปเตอร์ชาร์จมาให้ โดยสามารถใช้อแดปเตอร์ชาร์จสมาร์ทโฟนแทนได้ สำหรับหูฟัง JBL LIVE 500BT มีแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 700 mAh สามารถฟังเพลงได้นานต่อเนื่องสูงสุด 33 ชั่วโมง และใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 2 ชั่วโมง แต่ในกรณีเร่งด่วนที่ไม่สามารถชาร์จได้จนเต็มก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะการชาร์จเพียง 15 นาที ก็เพียงพอที่จะใช้งานได้นานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ

 

ทดสอบการเชื่อมต่อ และการใช้งาน

JBL Live 500BT เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth เพียงแค่เปิดเครื่อง หูฟังจะเริ่มค้นหาสัญญาณ Bluetooth ในระยะทันทีโดยแสดงไฟกะพริบสีน้ำเงิน ถึงตรงนี้ให้เราใช้สมาร์ทโฟนเชื่อมต่อกับ JBL LIVE 500BT ผ่าน Bluetooth ตามปกติ เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟบอกสถานะจะกลายเป็นสีน้ำเงินนิ่ง พร้อมใช้งานแบบไร้สายได้ทันทีทั้งการฟังเพลง โทรศัพท์ และการสั่งงานด้วยเสียง

 

นอกจากการเชื่อมต่อแบบปกติแล้ว JBL LIVE 500BT ยังใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน My JBL Headphones ได้ ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ Android และ iOS แอปพลิเคชันนี้จะช่วยให้เราตั้งค่า Equalizer, เลือก Voice Assistant สำหรับการสั่งงานด้วยเสียง, เปิด-ปิดฟังก์ชัน TalkThru + Ambient Aware, ดูแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของหูฟัง และอัปเดตเฟิร์มแวร์ของหูฟังได้ครับ

ดาวน์โหลด My JBL Headphones

 

ทดสอบคุณภาพเสียงเบื้องต้น

JBL LIVE 500BT มีแนวเสียงแบบ JBL Signature Sound ซึ่งมีความโดดเด่นอยู่ที่เสียงร้องที่ชัดใส และแยกออกจากเสียงดนตรีอย่างชัดเจน โดยมีเวทีเสียงกว้างพอประมาณ เสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นจะอยู่ไม่ห่างกันมาก แต่เก็บรายละเอียดได้ชัดเจนและไม่ซ้อนทับกัน เสียงแหลมขึ้นได้สูง ทอดยาวได้ไกล ส่วนเสียงเบสไม่ค่อยแน่นเท่าที่ควร โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับการฟังเพลงที่มีทำนองสบายๆ ฟังได้เรื่อยๆ ยาวๆ อย่างแนว Pop, Rock, Hip-hop และ Acoustic เป็นต้นครับ

 

สรุปการรีวิว

JBL LIVE 500BT เป็นหูฟังไร้สายแบบ Over-Ear ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ในหลายๆ โอกาสด้วยกัน โดยมีดีไซน์เหมือนกับรุ่น 400BT ซึ่งเน้นความเรียบง่าย และทะมัดทะแมง ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา และผลิตจากวัสดุที่ทนแต่อแรงบิดงอได้ดี มีการหุ้มส่วน Headband ด้วยเส้นใยผ้าถัก จึงให้สัมผัสอ่อนนุ่ม และสวมใส่สบายยิ่งขึ้น สำหรับหูฟังทั้งสองข้างบุด้วยหนังเทียมที่มีความนุ่มกำลังดี และครอบใบหูได้ทั้งหมด ช่วยลดแรงกดทับบนใบหูได้พอสมควร พร้อมกับช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ค่อนข้างดี แต่มีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่เล็กน้อยตรงที่หูฟังเก็บเสียงเพลงไม่ค่อยอยู่ หากฟังเพลงดังๆ จะมีเสียงลอดออกรบกวนคนรอบข้างได้

ในส่วนของคุณภาพเสียง JBL LIVE 500BT มาพร้อมไดร์ฟเวอร์ขนาด 40 มม. และใช้ระบบเสียง JBL Signature Sound ซึ่งมีแนวเสียงเฉพาะของตัวเอง โดยจะเน้นเสียงร้องที่โดดเด่น และเก็บรายละเอียดของเครื่องดนตรีได้เยอะ แต่เสียงเบสจะมีอิมแพ็คไม่มากนัก อย่างไรก็ดีสามารถปรับ Equalizer ผ่านแอปพลิเคชัน My JBL Headphones เพื่อช่วยดึงให้เบสหนักขึ้นได้ เหมาะกับการฟังเพลงที่มีทำนองสบายๆ เช่น Pop, Rock, Hip-hop และ Acoustic เป็นต้น

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือแบตเตอรี่ขนาด 700 mAh เท่ากับรุ่น 400BT แต่ใช้งานได้นานกว่า โดยใช้งานได้สูงสุดนานถึง 33 ชั่วโมง ถือว่าแบตอึดไม่น้อยเมื่อเทียบกับหูฟังในคลาสเดียวกัน และถึงแม้จะฟังจนแบตหมด ก็ยังฟังเพลงต่อได้ด้วยการเสียบสาย AUX ซึ่งแถมมาให้เรียบร้อยแล้วในกล่อง และยังมีเทคโนโลยี Ambient Aware + TalkThru ช่วยเสริมการใช้งานให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยทำให้ได้ยินเสียงรอบข้างได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังออกอีกด้วย

จากคุณสมบัติทั้งหมดนี้ สามารถบอกได้ว่า JBL LIVE 500BT มีจุดเด่นที่เหมือนกับรุ่น 400BT แต่เป็นแบบ Over-Ear เหมาะกับการใช้งานเกือบทุกโอกาสในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างทำงานที่ออฟฟิศ, ระหว่างเดินเล่นในสวน, ระหว่างทางกลับบ้าน หรือแม้กระทั่งนอนเล่นที่บ้าน แต่จุดที่ต้องระวังคือหูฟังรุ่นนี้ไม่มีคุณสมยัติกันน้ำ และไม่เหมาะที่จะใส่ระหว่างเล่นกีฬาครับ

JBL LIVE 500BT มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำ, สีแดง, สีน้ำเงิน, สีเขียว และสีขาว ในราคา 5,990 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mahajaklife.com

 

บทความรีวิวโดย : thaimobilecenter.com

 

วันที่ : 8/7/2562