เผยสาเหตุที่ iPhone X ทำยอดขายไม่ดีเท่าที่ควร จากผลสำรวจของบริษัทการเงินระดับโลก Piper Jaffray
ใครที่ติดตามข่าวในวงการสมาร์ทโฟนจะทราบว่า iPhone X เรือธงรุ่นล่าสุดของ Apple ทำยอดขายไม่ถึงเป้าที่ตั้งเอาไว้จนต้องลดการผลิตลงตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 เป็นต้นไป (แม้ว่าจะทำกำไรให้ Apple เป็นกอบเป็นกำก็ตาม) หลายคนจึงเกิดคำถามขึ้นในใจว่าทำไมสมาร์ทโฟนที่รวมนวัตกรรมขั้นสุดของ Apple เอาไว้ถึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ล่าสุดก็มีการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาแล้ว ซึ่งก็น่าจะตอบข้อสงสัยนี้ได้ไม่มากก็น้อยครับ
สถิติดังกล่าวถูกรวบรวมโดย Piper Jaffray บริษัทด้านการเงินและการลงทุนระดับโลก ซึ่งได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ iPhone ที่ไม่ได้อัปเกรดเป็น iPhone X จำนวน 1,500 ราย ถึงเหตุผลที่ยังคงใช้ iPhone เครื่องเดิมอยู่ โดยได้ผลลัพธ์ดังนี้
- 38% ไม่อัปเกรดเพราะ iPhone X ราคาแพงเกินไป (เริ่มต้นประมาณ 31,000 บาทในสหรัฐอเมริกา และ 40,500 บาทในไทย)
- 8% ไม่อัปเกรดเพราะคิดว่า iPhone X หน้าจอเล็กเกินไป (5.8 นิ้ว)
- 44% ไม่อัปเกรดเพราะ iPhone เครื่องเก่ายังใช้งานได้ดี
- 17% ไม่อัปเกรดเพราะเหตุผลอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่า Apple จะทราบเหตุผลเหล่านี้อยู่บ้างแล้ว เพราะจากข้อมูลล่าสุด คาดว่า iPhone รุ่นปี 2018 จะมีความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ iPhone มากขึ้น เช่น iPhone 9 ที่จะมีดีไซน์และฟีเจอร์เหมือนกับ iPhone X ทุกอย่าง แต่จะขยายหน้าจอเป็น 6.1 นิ้ว ไม่มีกล้องคู่ด้านหลัง และไม่มีระบบ 3D Touch รอยบากด้านหน้าและกล้องหน้า TrueDepth ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม และน่าจะมีราคาถูกที่สุดใน iPhone ทุกรุ่นที่เปิดตัวในปี 2018 (ยกเว้น iPhone SE 2 หากมีการเปิดตัวออกมาจริง)
ยิ่งไปกว่านั้น Apple ยังมีแนวโน้มจะเปิดตัว iPhone จอใหญ่ยักษ์ในชื่อ iPhone Xs Plus ซึ่งจากข้อมูลของ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก KGI Securities คาดว่า iPhone รุ่นดังกล่าวจะมีหน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ชอบจอใหญ่ๆ แน่นอน
ที่มา : Phone Arena, Apple 3.0
วันที่ : 6/3/2561