เทียบสเปก iPhone SE 2020 (iPhone 9) และ iPhone 11 กับราคาเริ่มต่างกัน 1 หมื่นบาท รุ่นไหนคุ้มกว่า มาดูกัน

เรียกได้ว่าเปิดตัวมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงนะคะ สำหรับ iPhone SE (iPhone 9) ไอโฟนรุ่นประหยัดน้องใหม่ที่มีราคาทางการในประเทศไทยเริ่มเพียง 14,900 บาท ซึ่งถือเป็นไอโฟนรุ่นที่มีราคาเริ่มถูกที่สุดเท่าที่มีมาเลยก็เป็นได้ พร้อมถ่ายถอดคุณสมบัติระดับท็อปมาจากรุ่นพี่อย่างเต็มเปี่ยม บนการดีไซน์ตัวเครื่องแบบเดียวกับ iPhone 8 ตรงกับที่คาดการณ์กัน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า iPhone SE 2020 มีราคาเริ่มที่ 14,900 บาท ซึ่งต่างจาก iPhone 11 เรือธงรุ่นล่าสุดที่มีราคาเริ่ม 24,900 บาท ถึง 1 หมื่นบาท ในวันนี้ทางทีมงานจึงนำ iPhone SE 2020 (iPhone 9) และ iPhone 11 มาเปรียบเทียบสเปกให้ได้ชมกัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่สนใจ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้จะแตกต่างกันมากเพียงไหน และรุ่นใดจะคุ้มค่าน่าซื้อมากกว่ากัน ไปชมพร้อมกันเลยค่ะ

สำหรับจุดที่ iPhone SE 2020 (iPhone 9) และ iPhone 11 ต่างกันอย่างชัดเจนก็คือดีไซน์ตัวเครื่อง โดย SE 2020 ยังคงดีไซน์แบบเก่าที่ถอดมาจาก iPhone 8 ในทุกประการ จึงมีหน้าจอขนาดเล็กกะทัดรัดกว่าที่ 4.7 นิ้ว และมี TouchID ให้ได้ใช้งานกัน ซึ่งต่างจาก iPhone 11 ที่ปรับไปใช้ดีไซน์ใหม่ ตัด TouchID ออก ใช้หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นที่ 6.1 นิ้ว และแทนที่ด้วย FaceID ด้วยกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ที่บริเวณรอยบากบนหน้าจอ สำหรับสแกบใบหน้าแบบ 3 มิติ

ต่อมาคือกล้องถ่ายภาพ ซึ่ง iPhone 11 ได้พัฒนาไปใช้กล้องคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีเลนส์ Wide และเลนส์ Ultra-Wide สำหรับเก็บภาพมุมกว้างสุดถึง 120 องศา พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night) โดยเฉพาะ  ส่วน iPhone SE 2020 มีกล้องเดี่ยว คมชัด 12 ล้านพิกเซล แต่ก็สามารถถ่ายภาพแบบ Portrait และบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K UHD ได้

สำหรับกล้องหน้า iPhone SE 2020 เป็นแบบ FaceTimeHD ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล ส่วน iPhone 11 อัปเกรดไปใช้กล้อง TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K UHD พร้อมกับฟังก์ชันใหม่อย่าง Slofie

ด้านสเปกภายใน เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต่างกัน ด้วยชิปเซ็ตตัวท็อปใหม่ล่าสุดอย่าง Apple A13 Bionic ที่ทาง Apple ระบุว่าเป็นชิปเซ็ตที่เร็วที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ พร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Quad-Core บนระบบปฏิบัติการ iOS 13 เวอร์ชันล่าสุดแบบแกะกล่อง และมีรุ่นความจุให้เลือกใช้งาน 3 ตัวเลือกเช่นเดียวกัน ได้แก่ 64GB / 128GB / 256GB รวมถึงรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W Fast Charging แต่ต้องซื้ออะแดปเตอร์ชาร์จเร็วแยกต่างหาก เนื่องจากไม่ได้แถมมาในแพ็กเกจนั่นเอง

iPhone SE 2020 มีราคาเริ่มที่ 14,900 บาท ส่วน iPhone 11 มีราคาเริ่มที่ 24,900 บาท โดยมีราคาที่ต่างกันถึง 1 หมื่นบาทเลยทีเดียว ทั้งนี้ท่านผู้ใช้ต้องพิจารณาว่ารุ่นใดมีดีไซน์สวยโดนใจ พร้อมฟีเจอร์ครบ ตอบโจทย์การใช้งานในไลฟ์สไตล์ท่านได้ดีที่สุด ซึ่งทางทีมงานแนะนำให้ทดลองไปจับถือใช้งานในเบื้องต้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปนั่นเองค่ะ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

วันที่ : 16/4/2563