ผลสำรวจเผย มือถือ Android ราคารับซื้อต่อ ร่วงเร็วกว่า iPhone ราว 2 เท่า ด้าน HTC ขึ้นแท่นแบรนด์มือถือที่ราคาร่วงเยอะที่สุด

ล่าสุดนี้มีรายงานวิจัยเปิดเผยออกมาจากเว็บไซต์ BackMyCell ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยด้านอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับราคาขายของสมาร์ทโฟนหลังซื้อ ซึ่งก็พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า มือถือฝั่ง Android จะมีราคาซื้อต่อที่ลดลงเร็วกว่า iPhone เป็น 2 เท่าเลยทีเดียว

รายงานวิจัยฉบับนี้เป็นการสำรวจราคาซื้อต่อ (Trade-in) ภายในเว็บไซต์ BankMyCell เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 สิงหาคม 2020 โดยทางผู้วิจัยพบว่า ในช่วง 1 ปีแรก มูลค่าสมาร์ทโฟนที่รับซื้อต่อแบบ Trade-in (ผู้วิจัยสำรวจมือถือราคา 700 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) จากฝั่ง Android จะลดลงด้วยอัตรา -33.63% ขณะที่ iPhone จะมีมูลค่าลดลงราว -16.70% แต่เมื่อผ่านไปเป็นเวลา 2 ปี มูลค่าราคาซื้อต่อของมือถือ Android และ iPhone จะลดลงเพิ่มอีกเกือบเท่าตัวที่ตัวเลข -61.50% และ -35.47% ตามลำดับ และเมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 ราคารับซื้อต่อของมือถือ Android และ iPhone จะค่อนข้างใกล้กันที่ตัวเลข -81.11% และ -66.43% ตามลำดับ

ทาง BankMyCell ยกตัวอย่างเพิ่มเติมว่า หลังจากระยะเวลา 9 เดือน สมาร์ทโฟนรุ่น Samsung Galaxy S20 Ultra มีราคาซื้อต่อที่ลดลงจากราคาเปิดตัวถึง -64.71% ขณะที่ iPhone 11 Pro Max ที่เปิดตัวในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน จะมีราคาซื้อต่อที่ลดลงจากราคาเปิดตัวแค่ราว -32.22% เท่านั้น

และที่น่าสนใจก็คือ หากเป็นมือถือ Android สเปกคุ้มราคาประหยัด (Budget Phone) ที่มีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 350 ดอลลาร์สหรัฐ หรือต่ำกว่า จะมีราคาซื้อต่อที่ลดลงถึง -52.61% ในเวลา 1 ปีแีก และหากผ่านไป 4 ปี จะมีราคารับซื้อต่อที่ลดลงถึง -94.90% เลยทีเดียว

BankMyCell ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์มือถือที่มีอัตราการลดลงของราคาซื้อต่อ ประจำปี 2020 ซึ่งก็พบว่า Apple เป็นแบรนด์ที่มีราคาซื้อต่อลดลงน้อยที่สุดด้วยตัวเลข -22.35% ส่วน HTC เป็นแบรนด์ที่มีราคาซื้อต่อลดลงมากที่สุดด้วยตัวเลข 53.08% และที่น่าสนใจก็คือ LG เป็นสมาร์ทโฟน Android แบรนด์เดียวที่ราคาซื้อต่อลดลงในระดับน้อยพอๆ กับ Apple

อย่างไรก็ตาม BankMyCell ไม่ได้เปิดเผยให้ทราบแน่ชัดว่า มีการสำรวจในกลุ่มตลาดใดบ้าง (เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นตลาดในสหรัฐฯ) ทำให้ตัวเลขในตลาดสมาร์ทโฟนแต่ละประเทศอาจมีความคลาดเคลื่อนไปจากนี้ก็เป็นได้ สามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่ครับ

ที่มา : BankMyCell, Gizchina

วันที่ : 25/1/2564