เทียบสเปก HUAWEI P40 Series กับ HUAWEI P30 Series เรือธงรุ่นใหม่อัปเกรดจากรุ่นก่อนแค่ไหน เหมาะจะอัปเกรดหรือไม่ ไปดูกัน!
ในที่สุดก็เปิดตัวเสียทีครับสำหรับเรือธงกล้องเทพ HUAWEI P40 Series หลังจากที่ดีเลย์ไปพักหนึ่งด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ มาคราวนี้ก็คุ้มค่าแก่การรอคอยครับเพราะอัปเกรดคุณสมบัติทุกด้านแบบไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขอบโค้ง Overflow Display, ชิป Kirin 990 5G, กล้องหน้าที่มีเซ็นเซอร์ 3D และอื่นๆ โดยเฉพาะกล้องหลังที่จัดมาให้สูงสุดถึง 5 ตัว ซูมไกล 100 เท่า และลูกเล่นมากมาย แต่คำถามที่หลายคนสงสัยอยู่คือ HUAWEI P40 Series รุ่นใหม่นี้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง HUAWEI P30 และ P30 Pro อย่างไร และน่าอัปเกรดมาเป็นรุ่นใหม่หรือไม่ ซึ่งเราก็ได้นำ HUAWEI P40 Series ทั้ง 3 รุ่นมาเปรียบเทียบสเปกกับ HUAWEI P30 และ P30 Pro มาให้ทุกท่านได้เห็นความแตกต่างกันชัดๆ แล้ว เราไปดูให้ห้ายสงสัยกันเลยครับ
(กดที่ภาพเพื่อขยาย)
HUAWEI P40 รุ่นมาตรฐานมีการอัปเกรดจาก HUAWEI P30 ไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็น RAM, แบตเตอรี่ หรือชุดกล้องหน้า-หลัง โดยยังคงไม่รองรับระบบชาร์จไร้สาย และมีระบบชาร์จไวผ่านสายกำลังไฟ 22.5W เช่นเดิม ความละเอียดของกล้องหน้ายังคงเป็น 32 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังของ P40 มีการอัปเกรดกล้องหลังเป็นกล้อง Ultra Vision 50 ล้านพิกเซลซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ส่วนกล้องเสริมยังคงเป็นเลนส์ Ultra Wide 16 ล้านพิกเซล และเลนส์ Telephoto ที่ซูมแบบ Optical ได้ 3x เท่าเดิม แต่ทั้งนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าคุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องของ HUAWEI P40 แตกต่างจาก HUAWEI P30 แค่ไหน อย่างไร จำเป็นต้องพิจารณาซอฟท์แวร์ของ P40 ด้วยว่าพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนมากน้อยแค่ไหน และต้องทดสอบด้วยการถ่ายรูปจริงครับ
ถึงแม้โมเดลมาตรฐานจะมีสเปกต่างกันไม่มาก แต่ในรุ่น Pro นั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย HUAWEI P40 Pro ได้ขยายขนาดหน้าจอแสดงผลขึ้นจาก P30 Pro เป็น 6.58 นิ้ว พร้อมทั้งนำดีไซน์ขอบโค้งแบบ Overflow Display มาใช้ ที่สำคัญยังเพิ่มอัตรารีเฟรชเป็น 90Hz เรียกได้ว่าผู้ใช้น่าจะสัมผัสถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเมื่อใช้จริง ส่วนชุดกล้องหลังนั้นนอกจากจะใช้กล้อง Ultra Vision 50 ล้านพิกเซลแล้ว ยังมีกล้อง Ultra Wide Cine 40 ล้านพิกเซลที่ช่วยในการถ่ายภาพมุมกว้างและการถ่ายวิดีโอ ซึ่งเป็นเซ็ตอัพที่คล้ายกับ HUAWEI Mate30 Pro อีกทั้งยังเพิ่มกล้องอินฟาเรดให้กับกล้องหน้า เพื่อให้สามารถสแกนหน้าแบบ 3 มิติ และสแกนในที่มืดได้ด้วย
สำหรับ HUAWEI P40 Pro Plus ซึ่งเป็นรุ่นท็อปพิเศษในคราวนี้ มีสเปกที่เหมือนกับ P40 Pro ทุกประการ แตกต่างที่มีบอดี้เป็นเซรามิก และมีกล้องหลัง 5 ตัว โดยเพิ่มเลนส์ Telephoto เข้ามา ซึ่งน่าจะช่วยให้ซูมได้ไกลขึ้น ส่วนคุณภาพของรูปถ่ายโดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับ P40 Pro แต่ทั้งนี้ต้องรอดูของจริงกันอีกทีครับ
ทั้งนี้ ความแตกต่างสำคัญระหว่าง HUAWEI P30 series และ P40 series ที่ต้องพูดถึง คือการรองรับ Google Services โดย HUAWEI P30 และ P30 Pro นั้นสามารถใช้งานแอปพลิเคชันของ Google ได้ทุกตัวรวมถึง PlayStore ในขณะที่ HUAWEI P40 ทั้ง 3 รุ่นจะใช้บริการ Huawei Mobile Service และใช้สโตร์ AppGallery ของ Huawei แทน ความรู้สึกในการใช้งานจึงต่างกันแน่นอน และอาจจะมีแอปพลิเคชันบนสโตร์ให้เลือกไม่มาก อย่างไรก็แล้วแต่ เราสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่มีบน AppGallery ได้ด้วยไฟล์ APK หรือผ่านสโตร์อื่น และ Huawei เองก็พยายามเพิ่มแอปพลิเคชันเข้าไปใน AppGallery อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าจะเลือกอย่างไรครับ
และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ 5G ก่อนใคร HUAWEI P40 Series ทุกรุ่นรองรับ 5G ได้หมดครับ
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบจากข้อมูลที่ปรากฏบนสเปกชีตเท่านั้น จึงไม่อาจนำไปตัดสินได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใดดีกว่ารุ่นใด จำเป็นต้องทดสอบคุณสมบัติหลายๆ ด้านจากการใช้งานจริง ซึ่งหากมีโอกาสเราจะมาทดสอบให้ชมกันอย่างละเอียดแน่นอนครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 26/3/2563
