เปิดตัว HUAWEI Mate40 Series เรือธง 5G กับชิปตัวแรง Kirin 9000 แบบ 5nm ใหม่ล่าสุด พร้อมกล้อง Leica ฟังก์ชันจัดเต็ม และชาร์จเร็ว 66W พร้อมชาร์จไร้สาย 50W
ล่าสุดก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ HUAWEI Mate40 Series สมาร์ทโฟนเรือธง 5G ระดับท็อปรุ่นล่าสุดของทาง Huawei ที่มาพร้อมการปรับโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด และอัปเกรดสเปกภายใน รวมถึงกล้องถ่ายภาพแบบจัดเต็มมากยิ่งขึ้น
HUAWEI Mate40 Series เปิดตัวมาทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ HUAWEI Mate40, Mate40 Pro, Mate40 Pro+ และ Mate40 RS (PORSCHE DESIGN) โดยทั้งสามรุ่นแรกมาในดีไซน์เดียวกัน ด้วยหน้าจอ Flex OLED แบบไร้ขอบลงโค้งทั้งสองด้าน (edge-to-edge) พร้อมฝังกล้องหน้าไว้บนหน้าจอ ซึ่งรุ่น Mate40 หน้าจอลงขอบโค้งทำมุม 68 องศา และมีกล้องหน้า 1 ตัว ขณะที่รุ่น Mate40 Pro กับ Mate40 Pro+ หน้าจอลงขอบโค้งทำมุม 88 องศา และมีกล้องหน้า 2 ตัว นอกจากนี้ทุกรุ่นยังรองรับค่า Refresh Rate สูงสุดที่ระดับ 90Hz พร้อมค่า Touch Sampling Rate ระดับ 240Hz ที่ช่วยให้การใช้งานต่างๆ ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น และตอบสนองต่อการสัมผัสได้ดีกว่าเดิม
การดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลังยังคงคอนเซ็ปต์สมมาตร (symmetry) พร้อมกล้องหลังโฉมใหม่ในชื่อ Space Ring Camera ที่มีความพรีเมียม และเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร โดยมีตัวเลือกทั้งหมด 5 สีสำหรับ Mate40 และ Mate40 Pro ได้แก่ Mystic Silver, White, Black, Green และ Yellow ส่วน Mate40 Pro+ จะมี 2 สี ได้แก่ Ceramic White และ Ceramic Black นอกจากนี้ยังรองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นมาตร IP68 บน Mate40 Pro กับ Mate40 Pro+ ส่วน Mate40 รุ่นปกติจะเป็นมาตรฐาน IP53
HUAWEI Mate40
HUAWEI Mate40 Pro
HUAWEI Mate40 Pro+
อีกหนึ่งจุดเด่นของ HUAWEI Mate40 Series ได้แก่ กล้องถ่ายภาพจากความร่วมมือกับทาง Leica เช่นเดิม ที่มีการอัปเกรดขึ้นในหลายส่วนเช่นเดียวกัน โดยแต่ละรุ่นมีรายละเอียดสเปกกล้องดังนี้
HUAWEI Mate40
- กล้องตัวแรก Ultra Vision Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 เทคโนโลยี RYYB พร้อม Octa PD Autofocus ทางยาวโฟกัส 23 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.9
- กล้องตัวที่สอง Ultra-Wide Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 17 มม. มีรูรับแสงขนาด F/2.2
- กล้องตัวที่สาม Telephoto Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 85 มม. มีรูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS พร้อมการซูมแบบ 3x Optical Zoom, 5x Hybrid Zoom และซูมสูงสุด 30x Digital Zoom
- Laser Sensor
HUAWEI Mate40 Pro
- กล้องตัวแรก Ultra Vision Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 เทคโนโลยี RYYB พร้อม Octa PD Autofocus ทางยาวโฟกัส 23 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.9
- กล้องตัวที่สอง Ultra-Wide Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 18 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.8
- Laser Sensor
- กล้องตัวที่สาม Telephoto Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 125 มม. มีรูรับแสงขนาด F/3.4 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS พร้อมการซูมแบบ 10x Hybrid Zoom และซูมสูงสุด 50x Digital Zoom
HUAWEI Mate40 Pro+
- กล้องตัวแรก Ultra Vision Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 เทคโนโลยี RYYB พร้อม Octa PD Autofocus ทางยาวโฟกัส 23 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.9 และรองรับระบบกันสั่นแบบ OIS
- กล้องตัวที่สอง SuperZoom Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 240 มม. มีรูรับแสงขนาด F/4.4 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS พร้อมการซูมแบบ 10x Optical Zoom
- กล้องตัวที่สาม Telephoto Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 70 มม. มีรูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS พร้อมซูมแบบ 3x Optical Zoom
- กล้องตัวที่สี่ Ultra-Wide Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ตัวเลนส์แบบ Free-from ทางยาวโฟกัส 14 มม. มีรูรับแสงขนาด F/2.4
- 3D Depth Sensing Camera
สำหรับ HUAWEI Mate40 Pro+ เป็นรุ่นแรกของโลกที่ใช้งานกล้อง Ultra-Wide ที่มีเลนส์แบบ Free-from สำหรับช่วยลดการบิดเบี้ยวของมุมภาพ สำหรับการถ่ายภาพมุมกว้าง และการถ่ายภาพ Portrait
และด้วยเซ็นเซอร์กล้องหลักขนาดใหญ่ขึ้นจึงสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่าเดิม รวมถึงรองรับฟีเจอร์การซูมภาพไกลสุดที่ 100 เท่า อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dual Ultra-Wide ในการบันทึกวิดีโอแบบมุมกว้างกว่า 100 องศา ได้พร้อมกันจากทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ Dual Cine Camera สำหรับการถ่ายวิดีโอสัดส่วน 3:2 แบบเดียวกับการถ่ายภาพยนตร์ พร้อมกับเทคโนโลยี XD Fusion HDR Engine สำหรับการบันทึกวิดีโอ 4K แบบ HDR, เทคโนโลยี AI Tracking Mode ที่ช่วยในการจับโฟกัสวัตถุ หรือตัวแบบที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และฟีเจอร์กันสั่นสำหรับวิดีโออย่าง Super Steady Shot โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริม รวมถึงอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dual Ultra Slow Motion สำหรับการบันทึกวิดีโอแบบ Slow-Motion ระดับ 240fps พร้อมกันทั้งกล้องหน้า และกล้องหลังนั่นเอง
ทางด้านกล้องหน้าของ HUAWEI Mate40 Series ฝังอยู่บนจอแบบ Ultra Vision Selfie Camera โดยรุ่น Mate40 มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ส่วน Mate40 Pro และ Mate40 Pro+ เป็นกล้องคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม 3D Depth Sensing Camera รองรับ IR Depth/Gesture Camera สำหรับใช้งานร่วมกับการสแกนใบหน้าในที่แสงน้อย และฟังก์ชัน Smart Gesture Control กับ Air Swipe ในการสั่งการด้วยท่าทางต่างๆ
นอกจากนี้ HUAWEI Mate40 Series ยังรองรับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Dynamic Graphic AOD หรือหน้า Always On รูปแบบใหม่ ที่มีลูกเล่นหลากหลายขึ้นนั่นเอง รวมถึงฟังก์ชัน Eyes On Display (EOD) สำหรับตรวจจับการมองหน้าจอ และหากตัวเครื่องตรวจจับได้ว่าเรามองที่หน้าจอ หน้าจอ AOD ก็จะติดขึ้นโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานสองหน้าจอที่ชาญฉลาดมากขึ้น (Smart Multi-Window) ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 11 และใช้บริการ HUAWEI Mobile Services
HUAWEI Mate40 Pro กับ Mate40 Pro+ มาพร้อมกับชิปเซ็ตทรงพลังที่สุดของค่ายอย่าง Kirin 9000 กับความเร็วสูงสุด 3.13GHz ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 5nm โดยมีความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์เพิ่มมากขึ้น ทำให้ชิปเซ็ตประมวลผลได้รวดเร็วขึ้นตามไปด้วยที่ประมาณ 15.3 พันล้านทรานซิสเตอร์ ที่มากกว่าชิปเซ็ต Apple A14 Bionic ถึงประมาณ 30% ซึ่งทาง Huawei ระบุว่าตัว CPU เร็วกว่าคู่แข่งอย่าง Qualcomm Snapdragon 865+ ประมาณ 10% และทางด้าน GPU Mali-G78 รุ่นใหม่ที่มีทั้งหมด 24-core มีประสิทธิภาพดีกว่าทาง Snapdragon 865+ ถึง 52% พร้อมทั้งประหยัดพลังงานมากกว่าอีกด้วย สำหรับ HUAWEI Mate40 มากับชิปรุ่นรองอย่าง Kirin 9000E ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 5nm เช่นเดียวกัน โดยมาพร้อม GPU Mali-G78 ทั้งหมด 22-core
สำหรับแบตเตอรี่ HUAWEI Mate40 ให้มาที่ 4200 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W HUAWEI SuperCharge ส่วน Mate40 Pro กับ Mate40 Pro+ มากับแบตเตอรี่ความจุ 4400 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 66W HUAWEI SuperCharge พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไร้สายความเร็วสูงสุด 50W Wireless HUAWEI SuperCharge
อีกหนึ่งรุ่นในระดับไฮเอนด์ขั้นสุดที่เปิดตัวมาในวันนี้ด้วยก็คือ HUAWEI Mate40 RS (PORSCHE DESIGN) ที่มาพร้อมการดีไซน์แบบดุดัน กับฝาหลังเซรามิก โดยมีแรงบันดาลใจมาจากสปอร์ตคาร์ ซึ่งในรุ่นนี้มีสเปกโดยรวมคล้ายกับ Mate40 Pro+ แต่จะมี RAM 12GB + ROM จุใจ 512GB รวมถึงกล้องที่จัดเต็มกว่าเล็กน้อย ดังนี้
- กล้องตัวแรก Ultra Vision Super Sensing ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 เทคโนโลยี RYYB พร้อม Octa PD Autofocus ทางยาวโฟกัส 23 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.9 และรองรับระบบกันสั่นแบบ OIS
- กล้องตัวที่สอง Cine Camera ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 18 มม. มีรูรับแสงขนาด F/1.8
- กล้องตัวที่สาม Telephoto Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 70 มม. มีรูรับแสงขนาด F/2.4 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS พร้อมซูมแบบ 3x Optical Zoom
- กล้องตัวที่สี่ SuperZoom Camera ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทางยาวโฟกัส 240 มม. มีรูรับแสงขนาด F/4.4 รองรับระบบกันสั่นแบบ OIS พร้อมการซูมแบบ 10x Optical Zoom
- 3D Depth Sensing Camera รองรับ Autofocus
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HUAWEI Mate40 RS (PORSCHE DESIGN) ก็คือเซ็นเซอร์อินฟาเรด ที่รองรับการวัดอุณหภูมิตั้งแต่ -20 ถึง 100 องศาเซลเซียส
ราคา และกำหนดวางขาย HUAWEI Mate40 Series
HUAWEI Mate40 (8GB+128GB) : 899 ยูโร หรือประมาณ 33,200 บาท
HUAWEI Mate40 Pro (8GB+256GB) : 1,199 ยูโร หรือประมาณ 44,300 บาท
HUAWEI Mate40 Pro+ (12GB+256GB) : 1,399 ยูโร หรือประมาณ 51,700 บาท
HUAWEI Mate40 RS (PORSCHE DESIGN) 12GB+512GB : 2,295 ยูโร หรือประมาณ 84,800 บาท
สำหรับกำหนดการวางจำหน่าย HUAWEI Mate40 Series ในแต่ละรุ่นยังไม่มีการประกาศออกมา ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป และในตอนนี้เว็บไซต์ HUAWEI ประเทศไทย ก็มีหน้าของ HUAWEI Mate40 Pro ปรากฎขึ้นแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ก็ต้องคอยติดตามการประกาศจากทาง HUAWEI อีกครั้งหนึ่งค่ะ
ที่มา : HUAWEI
วันที่ : 23/10/2563
