เจาะ 5 จุดเด่น Samsung Galaxy Fit3 สมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ ใส่ความฟิต ให้ชีวิตเฮลตี้
หลังจากที่ห่างหายกันไปเกือบ 4 ปี Samsung ก็กลับมาเขย่าตลาดสมาร์ตแบนด์อีกครั้งด้วย Galaxy Fit3 รุ่นใหม่ ซึ่งคราวนี้มีการอัปเกรดใหม่หมดตั้งแต่ดีไซน์ภายนอก ไปจนถึงฟังก์ชันภายใน โดยมากับฟังก์ชันเด่น ๆ อย่างการติดตามข้อมูลทางสุขภาพ, ติดตามการออกกำลังกายกว่า 100 แบบ และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ถอดแบบมาจาก Galaxy Watch ในราคาค่าตัวเพียงแค่ 1,990 บาทเท่านั้น
สำหรับใครที่หาสมาร์ตแบนด์ดี ๆ อยู่ นี่คือ 5 จุดเด่นที่ทำให้ Galaxy Fit3 เป็นตัวเลือกสมาร์ตแบนด์ที่น่าสนใจที่สุด ณ เวลานี้ครับ
1. มีระบบตรวจจับการล้ม (Fall Detection)
ครั้งแรกกับสายสมาร์ตแบนด์ที่มีฟีเจอร์ตรวจจับการล้ม หรือ Fall Detection ที่จะโทรขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเมื่อมีการล้มแรง ๆ พร้อมส่งโลเคชั่น และแจ้งเตือนไปยังเบอร์ของบุคคลใกล้ชิดที่เราบันทึกไว้ทันที ช่วยให้การช่วยเหลือมาถึงอย่างรวดเร็ว แม้เราจะล้มจนหมดสติก็ตาม เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยชีวิตเราได้เลย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ
ปกติแล้วฟีเจอร์นี้จะมีเฉพาะในนาฬิกาสมาร์ตวอทช์ราคาหลายพันบาท แต่ Galaxy Fit3 จัดให้ในราคาไม่ถึงสองพันบาท สำหรับฟีเจอร์แบบนี้ ในราคาแบบนี้ มีแค่ Galaxy Fit3 เท่านั้นครับ
2. มีระบบโทรฉุกเฉิน แค่กดปุ่ม 5 ครั้ง
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เกินหน้าเกินตาความเป็นสมาร์ทแบนด์ของ Galaxy Fit3 คือระบบการโทรฉุกเฉิน SOS เมื่อเกิดเหตุร้าย แค่กดปุ่มติดกัน 5 ครั้ง Galaxy Fit3 จะสั่งสมาร์ตโฟนที่เชื่อมต่ออยู่ให้โทร 191 หรือเบอร์ติดต่อฉุกเฉินอื่นที่ตั้งค่าเอาไว้ พร้อมทั้งถ่ายรูปจากกล้องหน้า กล้องหลัง และบันทึกเสียงส่งไปยังเบอร์ติดต่อฉุกเฉินที่เราบันทึกไว้ ช่วยให้เราได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ซึ่งปกติฟีเจอร์แบบนี้จะมีอยู่ในสมาร์ตวอทช์เท่านั้นครับ
3. ราคาเข้าถึงง่าย
Galaxy Fit3 เปิดตัวมาในราคาเพียงแค่ 1,990 บาทเท่านั้น เป็นราคาที่ไม่ว่าใครก็ซื้อมาใช้ได้อย่างไม่ยากเย็น แถมในราคานี้ยังได้ทั้งฟังก์ชันการติดตามการออกกำลังกาย, ติดตามการนอน, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตรวจจับการล้ม และอื่น ๆ นับว่าคุ้มมากกับเงินที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ ที่สำคัญคือใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android ได้ทุกยี่ห้อผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable และ Samsung Health ต่อให้ไม่ได้ใช้มือถือ Samsung ก็ยังใช้ได้ครับ (ยกเว้นฟีเจอร์ Camera Remote)
4. ใช้สั่งกล้องมือถือได้
นอกจากฟีเจอร์ด้านการติดตามสุขภาพ และฟังก์ชันฉุกเฉินแล้ว Galaxy Fit3 ยังสามารถใช้ควบคุมกล้องสมาร์ตโฟนจากระยะไกลได้ ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่ง หรือวิดีโอ ช่วยให้การถ่ายรูปในหลายสถานการณ์สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องลำบากวานคนอื่นช่วยถ่ายอีกต่อไป
5. มีเซนเซอร์วัดแสง ปรับความสว่างได้อัตโนมัติ
นอกเหนือจากการอัปเกรดทั่วไป Galaxy Fit3 ยังได้เพิ่มระบบตรวจวัดแสง หรือ Light Sensor เข้ามา ทำให้ปรับระดับความสว่างของหน้าจอได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานดีขึ้นไปอีกระดับ จะใช้งานกลางแจ้งก็ชัด จะดูตอนนอนก็ไม่แสบตา และยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ด้วย
Galaxy Fit3 มีให้เลือก 3 สี คือ Gray, Silver, และ Pink Gold วางจำหน่ายแล้ววันนี้ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้าน Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ ในราคา 1,990 บาทครับ
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 7/3/2567
