Apple ฉะ Spotify ไม่รู้จักพอ หลังแพ้คดีโดนปรับ 1,800 ล้านยูโร ด้าน Spotify โต้ สมควรแล้ว
เดือนมีนาคมนี้ดูท่าจะร้อนเป็นพิเศษ เพราะไม่ใช่แค่อากาศอย่างเดียว แต่วงการเทคก็เดือดไม่แพ้กัน เมื่อจู่ ๆ Apple ได้ลงแถลงการณ์หน้าเว็บ ฉะแอปสตรีมมิ่งเพลงชื่อดังอย่าง Spotify ว่า “ไม่รู้จักพอ” แถมยังมีการแปลเป็นภาษาอื่น ๆ รวมถึงภาษาไทยด้วย ซึ่งคู่กรณีอย่าง Spotify ก็ได้ออกมาตอบโต้ทันควัน โดยกล่าวว่า Apple เองนั่นแหละที่เล่นไม่ซื่อตั้งแต่แรก งานนี้ทั้งชาวเน็ตและชาวไอทีต่างลุกขึ้นมามุงกันอย่างพร้อมเพรียง เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร และเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เกิดอะไรขึ้น?
เรื่องทั้งหมดต้องย้อนไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อ Spotify และแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งเพลงอีก 33 แห่งได้ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ว่า Apple ฝ่าฝืน พรบ.ตลาดดิจิทัล (Digital Markets Act) โดยปิดกั้นไม่ให้แพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งเสนอทางเลือกการชำระเงินอื่น ๆ ให้แก่ผู้ใช้ และบังคับให้ชำระเงินผ่าน AppStore ของตัวเองเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการกีดกันทางการค้า และขัดต่อหลักการค้าเสรี ซึ่งล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปตัดสินว่า Apple มีความผิดจริง และถูกปรับเป็นเงินจำนวน 1,800 ล้านยูโร หรือราว 70,000 ล้านบาท เรียกได้ว่าเจ็บหนักเลยทีเดียว
Apple ฉะ Spotify “ไม่รู้จักพอ”
หลังผลการพิจารณาคดีออกมา Apple ก็ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องดังกล่าวทันที โดยกล่าวว่า Spotify อาศัยแพล็ตฟอร์ม AppStore ในการสร้างชื่อเสียงและทำกำไร แต่กลับไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนให้ Apple อย่างที่ควรจะเป็น ทั้งที่ Apple ลงทุนไปมากมายเพื่อสร้างมูลค่าให้กับ spotify ไม่ว่าจะเป็นการทำให้แอปเล่นทำงานร่วมกับ Siri, CarPlay, Apple Watch, AirPlay ได้อย่างราบรื่น แม้กระทั่งการส่งวิศวกรไปช่วยทีม Spotify ถึงสตอกโฮล์ม แต่ Spotify ก็ยังไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนให้ Apple เลยแม้แต่แดงเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น Spotify ยังพยายามฝ่าฝืนกฎของ App Store เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเองให้มากขึ้นอีก ด้วยการแทรกราคาสมัครสมาชิกไว้ในแอป แทนที่จะใช้ระบบชำระเงินภายในแอปของ App Store นับว่าเป็นการใช้ประโยชน์จาก Apple ฟรี ๆ อยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่ต้องจ่ายเงินให้ Apple เลยสักบาท พร้อมปิดท้ายอย่างเจ็บแสบว่า “Spotify ไม่รู้จักพอ”
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม : Apple Newsroom
Spotify โต้ Apple ก็ไม่แฟร์เหมือนกัน
ล่าสุดในวันนี้ Spotify ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ตอบโต้เช่นกัน โดยกล่าวว่า คำตัดสินของสภายุโรปเป็นเครื่องยืนยันว่า Apple มีนโยบายการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายจริง พร้อมกล่าวหาว่า Apple พยายามออกกฎระเบียบที่เป็นการ “ปิดปาก” ไม่ให้ Spotify และแพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่น ๆ นำเสนอช่องทางการจ่ายเงินที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ เช่น ทางเลือกการสมัครสมาชิก (subscription), โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่ผู้ใช้ควรจะได้ แต่กลับบังคับให้ชำระเงินผ่านช่องทางของ Apple ที่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเท่านั้น ในทางกลับกัน Apple Music ที่เป็นของ Apple เองกลับไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดนี้
คำตัดสินของสภายุโรปแสดงให้เห็นว่าทางสภาให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างเสรี ผู้บริโภคต้องมีสิทธิ์รู้ว่าตนมีทางเลือกใดบ้าง และมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะซื้ออะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ใช่ให้ Apple มาเป็นผู้กำหนด
ถึงแม้คดีจะจบไปแล้ว แต่ดูเหมือน Spotify จะยังไม่ยอมจบง่าย ๆ โดยปิดท้ายแถลงการณ์ไว้ว่า จะยังคงเดินหน้าสร้างตลาดที่แฟร์กับทุกคนต่อไป เพื่อหยุดยั้งการเอาเปรียบของ Apple ในตลาดทั่วทุกมุมโลก
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม : Spotify Newsroom
ถึงตรงนี้ยังไม่มีใครบอกได้ว่า Apple และ Spotify จะเอายังไงกันต่อ เพราะแอป Spotify ก็ยังคงอยู่บน AppStore ตามปกติ สุดท้ายแล้ว Apple จะยอมแก้กฎของตัวเอง หรือ Spotify จะอัปเปหิตัวเองออกจาก AppStore ไปอาศัยสโตร์ทางเลือก ตามกฏหมายใหม่ที่เพิ่งบังคับใช้ไปในสหภาพยุโรปแทน งานนี้ต้องติดตามกันต่อไปครับ
วันที่ : 6/3/2567
