ผู้ใช้สหรัฐฯ ยื่นฟ้องศาลอ้าง Siri และ Google Assistant แอบดักฟังอยู่ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้เปิดใช้งานก็ตาม

ด้วยเทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันมีผู้ช่วยอัจฉริยะติดตั้งมาให้ตั้งแต่แกะกล่องไม่ว่าจะเป็น Google Assistant ของฝั่งสมาร์ทโฟน Android หรือ Siri ของฝั่ง iOS ซึ่งช่วยให้เราสามารถสั่งการสมาร์ทโฟนได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่มลัด หรือส่งเสียงเรียก ผู้ช่วยอัจฉริยะก็จะพร้อมรับคำสั่งทันที 

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ศาลได้ทำการตัดสินให้ Apple ต้องสู้คดีในศาลรัฐบาลกลางในแคลิฟอร์เนีย หลังผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งได้ยื่นฟ้องว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Siri มีการบันทึกเสียงสนทนาของผู้ใช้งานโดยมิชอบ โดยนอกเหนือจาก Apple แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีการยื่นฟ้องร้อง Google และ Amazon เกี่ยวกับผู้ช่วยอัจฉริยะที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลโดยมิชอบเช่นเดียวกัน

ผู้ช่วยอัจฉริยะถือว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดย eMarketer ระเมินว่า เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้ในสหรัฐฯ มากกว่า 128 ล้านคนที่ใช้ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้น ก็ส่งผลต่อความกังวลของผู้ใช้ที่เกรงว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะจะแอบฟังข้อมูลอยู่ตลอดเวลาหรือไม่

เมื่อปี 2019 สื่อ Washinton Post ได้พบว่า Amazon มีการเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ผู้ช่วยอัจฉริยะ Alexa ทำการบันทึกหลังได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเองไม่ว่าผู้ใช้จะตั้งใจเรียก หรือไม่ตั้งใจเรียกก็ตาม นอกจากนี้ในปีเดียวกันยังมีข่าวออกมาว่า Apple เคยมีการจ้างพนักงานฟังเสียงสนทนาที่ผู้ใช้คุยกับ Siri เพื่อปรับปรุงคุณภาพ ก่อนที่โครงการจะถูกยกเลิกไปในภายหลัง 

เบื้องต้นทาง Amazon ได้ออกมาปฏิสเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะของพวกไม่มีการดักฟังเสียงของผู้ใช้ในกรณีอื่นนอกเหนือจากการฟังคำสั่งเสียงที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ ระบบจะทำการเก็บเสียงเฉพาะเสียงสัญญาณ wake word (เสียงที่ผู้ใช้เรียกเพื่อปลุกผู้ช่วยอัจฉริยะให้ทำงาน) และจะมีเสียงบางส่วนเท่านั้นที่ถูกนำไปวิเคราะห์ 

ขณะที่ Apple ชี้แจ้งว่า จะดำเนินการยื่นเอกสารชี้แจงให้กับศาล พร้อมกับกำชับว่า ความเป็นส่วนตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน ซึ่งทางบริษัทก็ได้ออกแบบ Siri ให้สามารถปิด-เปิดการใช้งานได้ตลอดเวลา รวมทั้ง Apple ยังได้พัฒนา Siri มาอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ถูกเรียกใช้งานโดยไม่ได้ตั้งใจ 

ส่วน Google จะดำเนินการสู้คดีในชั้นศาลต่อไป พร้อมกับชี้แจงว่า ทางบริษัทไม่มีการจัดเก็บไฟล์เสียงที่บันทึกไว้ได้ แถมยังเปิดการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้สามารถจัดการได้เองโดยง่าย

โดยในส่วนของการยื่นฟ้องร้องครั้งนี้ โจทก์อ้างว่า แม้พวกเขาจะไม่ได้เรียกใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะ แต่พวกเขาก็เห็นอุปกรณ์ถูกเปิดใช้งานเอง รวมทั้งอุปกรณ์ของพวกเขายังมีการบันทึกเสียงสนทนาโดยที่พวกเขาไม่ยินยอม และที่สำคัญข้อมูลเหล่านี้ยังถูกนำไปยิงโฆษณาให้แก่พวกเขา รวมทั้งยังมีการส่งข้อมูลไปให้บริษัทรายอื่น ๆ อีกด้วย

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า การฟ้องร้องในครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป และจะส่งผลกระทบต่อผู้ช่วยอัจฉริยะมากน้อยเพียงใดครับ

ที่มา : Washington Post

วันที่ : 3/9/2564