7 ฟีเจอร์ iPhone ที่ให้ใช้เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น
ถึงแม้ว่า iPhone จะมีหน้าตาและสเปกเหมือนกันในทุกประเทศที่วางขาย แต่จริง ๆ แล้ว iPhone ที่ขายในแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะอาจมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติบางอย่างให้เป็นไปตามกฎหมายประเทศนั้น ๆ หรือในบางประเทศก็มีฟีเจอร์และบริการอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนชาวบ้านมาให้ใช้งานกัน อย่างในสหรัฐอเมริกาแผ่นดินแม่ของ Apple ก็มีฟีเจอร์สุดพิเศษที่สงวนไว้ให้ชาวอเมริกันโดยเฉพาะ โดยที่ชาวโลกทำได้แค่มองตาปริบ ๆ และนี่คือ 7 ฟีเจอร์พิเศษของ iPhone ที่มีให้ใช้ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นครับ
1. Apple Card
Apple Card เป็นบริการบัตรเครดิตของ Apple เปิดให้ใช้บริการกันครั้งแรกในปี 2019 โดยจับมือกับสถาบันการเงิน Goldman Sachs ผู้ที่สมัครใช้บริการจะได้รับทั้งบัตรจริง และบัตรแบบดิจิทัลภายในแอป Wallet บน iPhone
สำหรับการใช้งาน ผู้ใช้ iPhone สามารถแตะเพื่อจ่ายเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านระบบ NFC ส่วนบัตรจริงมีไว้สำรองกรณีที่จ่ายเงินด้วยระบบ NFC ไม่ได้ ตัวบัตรไม่หักค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม (จ่ายแค่ดอกเบี้ยอย่างเดียว) และมีเครดิตเงินคืน (Daily Cash) 3%
จนถึงตอนนี้ Apple Card ยังมีให้บริการในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น อาจเป็นเพราะบริการลักษณะนี้จำเป็นต้องร่วมมือกับสถาบันการเงิน และต้องพิจารณากฎหมาย ข้อบังคับหลาย ๆ อย่างในแต่ละประเทศ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ดี Apple ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Apple Card ในประเทศแคนาดาแล้ว แสดงให้เห็นว่า Apple เองก็อยากผลักดันบริการนี้ไปสู่ประเทศอื่น ๆ เหมือนกันครับ
2. Apple Card Savings
Apple Card Savings เป็นบริการเสริมของ Apple Card อีกที โดยผู้ใช้สามารถเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อรับดอกเบี้ยและเงินคืนจาก Apple Card ได้ หากมีบัญชีธนาคารอื่นอยู่แล้วก็สามารถเชื่อมกับ Apple Card Savings ได้เช่นกัน ที่สำคัญยังให้อัตราผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 4.15% ไม่มีค่าธรรมเนียม แถมไม่มีขั้นต่ำอีกต่างหาก แต่ด้วยความที่ Apple Card มีบริการแค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น Apple Card Savings จึงใช้ได้แค่ในอเมริกาไปด้วยไปโดยปริยาย
3. Apple Cash
Apple Cash เป็นบริการบัตรเงินสดดิจิทัล ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ในสหรัฐอเมริกาสามารถส่งเงินให้กันได้ง่าย ๆ ผ่านแอป Wallet หรือ Messages โดยจะส่งเงินที่มีอยู่ในบัตร Apple Cash หรือจากบัญชีธนาคารอื่นที่ผูกไว้ก็ได้ เรียกได้ว่าส่งเงินให้กันได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว แถมยังส่งลิงค์ขอเงินตามจำนวนที่กำหนดได้ด้วย ทวงหนี้ง่ายขึ้นเป็นกองเลยครับ
Apple ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Apple Cash ในประเทศแคนาดาแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่มีวี่แววจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ แต่อย่างใด
4. Apple Pay Later
Apple Pay Later เป็นบริการ “ช็อปก่อน จ่ายทีหลัง” คล้าย ๆ กับ Pay Later ในแอปช็อปปิ้งสีส้มที่เปิดบริการในบ้านเรา โดยผู้ใช้สามารถเลือกผ่อนสินค้าได้สูงสุด 6 งวด (คิดเป็นสัปดาห์) ดอกเบี้ย 0% ไม่มีค่าธรรมเนียม โดยมีเงื่อนไขคือสินค้าจะต้องมีราคาระหว่าง $75 - $1,000 (2,500 - 35,000 บาท) และต้องสั่งซื้อผ่าน iPhone หรือ iPad กับเว็บไซต์ที่รองรับ Apple Pay เท่านั้นครับ
5. Wallet IDs
บริการนี้เป็นบริการใหม่ที่เพิ่งเริ่มไปหมาด ๆ เมื่อปี 2022 โดย Wallet IDs จะทำให้อเมริกันชนสามารถเพิ่มข้อมูลใบขับขี่ และบัตรประจำตัวประชาชนลงในแอป Wallet บน iPhone หรือ Apple Watch ได้ และนำไปใช้แทนบัตรจริงได้ทุกประการ หมดปัญหาลืมบัตร และช่วยให้การติดต่อราชการสะดวกยิ่งขึ้น ปัจจุบัน Wallet IDs สามารถใช้ได้แล้วในรัฐแอริโซนา, โคโลราโด, แมรีแลนด์ และจอร์เจีย ส่วนรัฐอื่น ๆ จะค่อย ๆ ตามมาในภายหลัง
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ Wallet IDs จะมีให้ใช้นอกสหรัฐอเมริกา เพราะเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของประชาชน และสุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงของรัฐ อีกทั้งหลายประเทศก็น่าจะมีบริการแบบเดียวกันเป็นของตัวเองอยู่แล้วครับ
6. Roadside Assistance via Satellite
ตั้งแต่ iOS 17 เป็นต้นมา iPhone 14 และ iPhone 15 จะมีฟีเจอร์ Roadside Assistance via Satellite หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “บริการรถสไลด์ 24 ชม.” อเมริกันชนท่านใดที่รถเสียกลางทาง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะอยู่กลางป่ากลางเขาห่างไกลความเจริญ ไม่มีสัญญาณมือถือก็ไม่มีปัญหา เพราะใช้ระบบสื่อสารดาวเทียม โดยทีมช่วยเหลือจะเป็นทีมช่างจากบริษัท American Automobile Association (AAA) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ
7. Clean Energy Charging
Clean Energy Charging เป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 16.1 เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ iPhone จะประเมินอัตราการปล่อยคาร์บอนในแหล่งจ่ายพลังงานใกล้เคียง และจะชาร์จแบตเตอรี่เมื่อมีการปล่อยคาร์บอนต่ำเท่านั้น เป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และลด carbon footprint ไปด้วยในตัว ปัจจุบันฟีเจอร์นี้มีให้ใช่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และยังไม่ทราบว่าจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ด้วยหรือไม่
ที่มา : MacRumors
วันที่ : 14/12/2566
