หน้าแรกมือถือ > รวมข่าวมือถือ > หน้าบทความ ข่าวมือถือ
   
Date : 22/11/2560

3 สเต็ปเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่เล่น ROV ได้ลื่นไหล คว้าชัย และตำแหน่ง MVP ได้ ในงบไม่เกินหมื่น!

 


 

หากกล่าวถึงเกมออนไลน์บนสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ แน่นอนว่าคงจะเป็นเกมใดไปไม่ได้นอกจาก ROV เกมออนไลน์แนว MOBA (Multiplayer Online Battle Arena) ชื่อดังที่สร้างปรากฏการณ์ ROV ฟีเวอร์ ให้กับเกมเมอร์ชาวไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุที่ ROV ได้รับความนิยมสูงมากเป็นเพราะว่า ROV เป็นเกมบนมือถือที่สามารถเล่นได้แทบทุกที่ทุกเวลา, สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย (แต่ต้องอาศัยการฝึกฝน) และใช้เวลาในการเล่นแต่ละตาเพียง 10-15 นาที เท่านั้น ทำให้ ROV กลายเป็นเกมที่เหมาะสำหรับการเล่นในช่วงพักผ่อน หรือจะฟอร์มทีมกับเพื่อนเพื่อลงแข่งแบบจริงจังก็ได้เช่นเดียวกัน

สำหรับจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ระบบการเล่นของ ROV ที่ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ทำให้ผู้เล่นมือใหม่สามารถปรับตัว และเรียนรู้ระบบของเกมได้ไม่ยาก ประกอบกับฮีโร่ หรือตัวละครหลายรูปแบบที่มีให้ผู้เล่นเลือกสรรกันตามความถนัด ก็ทำให้ ROV กลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญก็คือ ประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนสำหรับการเล่นเกม ROV ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ใช้เลือกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ด้วยคำถามที่ว่า "รุ่นนี้เล่น ROV ลื่นมั้ย?" ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการเลือกซื้อมือถือในงบไม่เกิน 10,000 บาท ที่สามารถเล่น ROV ได้อย่างลื่นไหล พร้อมทั้งคว้าชัยในเกม และตำแหน่ง MVP (Most Valuable Player) ได้ไม่ยาก ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ติดตามชมไปพร้อมกันได้เลยครับ

 

สเปกพื้นฐานในการเล่น ROV

เนื่องจากสมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีให้เลือกสรรกันหลากหลายรุ่นเป็นอย่างมาก และแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติตัวเครื่องที่แตกต่างกันออกไป ตัวเกมจึงต้องมีการกำหนดคุณสมบัติขั้นพื้นฐานที่จะสามารถทำให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างราบรื่น โดยทางเพจ Garena ROV Thailand ได้ให้ข้อมูลคุณสมบัติตัวเครื่องขั้นต่ำ และคุณสมบัติที่แนะนำไว้ ดังนี้
 


Android OS

คุณสมบัติขั้นต่ำ

- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Quad-Core ความเร็วสูงสุดที่ 1.2GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat หรือสูงกว่า
- พื้นที่ว่างของตัวเครื่อง 2GB หรือมากกว่า

คุณสมบัติที่แนะนำ

- ชิปเซ็ตประมวลผลแบบ Quad-Core ความเร็วสูงสุดที่ 2.5GHz 
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat หรือสูงกว่า
- พื้นที่ว่างของตัวเครื่อง 2GB หรือมากกว่า

iOS

คุณสมบัติขั้นต่ำ

- iPhone 5 หรือใหม่กว่า
- ระบบปฏิบัติการ iOS 7.0 หรือสูงกว่า
- พื้นที่ว่างของตัวเครื่อง 2GB หรือมากกว่า

จะเห็นว่าในส่วนคุณสมบัติแนะนำของฝั่ง Android OS นั้น ตัวเกมกำหนดหน่วยความจำแรม (RAM) ไว้ที่ขนาด 2GB เท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันมือถือระดับกลางทุกรุ่นในงบไม่เกิน 10,000 บาท ต่างก็มี RAM เกิน 2GB แทบทั้งสิ้น ส่วน CPU อาจมีความเร็วอยู่ในระดับชิปเซ็ตเรือธง แต่ชิปเซ็ตระดับกลางหลายๆ รุ่น และหลายๆ ค่ายก็สามารถประมวลผลได้ดี และลื่นไหลเช่นเดียวกัน ดังนั้น เป็นอันว่ามือถือระดับกลางส่วนใหญ่สอบผ่านการเล่น ROV ได้แน่นอน

 

หน้าจอ FullScreen ขนาดใหญ่ช่วงชิงความได้เปรียบ

(ภาพบน-หน้าจออัตราส่วน 18:9, ภาพล่าง-หน้าจออัตราส่วน 16:9)


เทรนด์ความนิยมในการผลิตหน้าจอสมาร์ทโฟนให้อยู่ในอัตราส่วน 18:9 ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบรรดาแบรนด์ผู้ผลิตหลายค่ายต่างก็หันมาใช้งานหน้าจอดังกล่าวในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ กันแล้ว โดยหน้าจอแสดงผลในอัตราส่วน 18:9 จะช่วยให้ผู้ใช้รับชมคอนเทนท์ได้มากขึ้น เช่น การอ่านบทความในแนวตั้ง หรือรับชมวิดีโอได้เต็มตาเต็มอรรถรส เป็นต้น แต่นอกจากจุดเด่นดังกล่าวแล้ว หน้าจอ FullScreen 18:9 ยังมีส่วนช่วยในการเล่นเกม ROV เช่นเดียวกัน นั่นก็คือ สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอในอัตราส่วน 18:9 จะมีมุมมองในตัวเกมที่กว้างมากขึ้น โดยมุมมองดังกล่าวจะขยายออกทางด้านซ้าย และด้านขวา ซึ่งเอื้อให้ผู้เล่นมีมุมมองที่กว้างกว่าผู้อื่น และมีความได้เปรียบในทีมไฟต์ เช่น การซุ่มเพื่อดักรอฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นฮีโร่ไกลขึ้น หรือการไล่ตามที่เราจะเห็นฝั่งตรงข้ามได้ไกลขึ้น เป็นต้น ซึ่งหน้าจอแบบ FullScreen ในอัตราส่วน 18:9 ถือว่ามีส่วนช่วยในการเล่นได้มากทีเดียว

 

ลดปัญหากวนใจด้วยฟีเจอร์ Game Mode


ผู้ใช้หลายๆ ท่านที่เป็นเกมเมอร์ตัวจริง มักจะใช้สมาธิในการเล่นมากเป็นพิเศษ แต่บางครั้งขณะที่กำลังทีมไฟต์กับเพื่อนๆ แต่กลับมีแถบแจ้งเตือนเลื่อนลงมาปิดฮีโร่ฝั่งตรงข้ามจนมองไม่เห็น สุดท้ายกลายเป็นฝั่งเราที่โดนคิลกันเสียหมดก็คงจะหัวเสียไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ผู้ผลิตบางรายจึงพัฒนาฟังก์ชัน Game Mode ขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิกับเกม และไม่มีอะไรมารบกวนได้ โดยฟังก์ชันดังกล่าวมักจะเป็นการปิดแถบการแจ้งเตือนทุกอย่างขณะเล่นเกม, การปิดรับการโทรเข้า หรือสามารถรับสายพร้อมทั้งพูดคุยกันได้ตามปกติขณะที่เล่นเกมอยู่ ซึ่งก็เป็นจัดแบ่งที่ลงตัว เพราะผู้ใช้ยังได้เล่นเกมต่อ พร้อมคุยสายไปพร้อมๆ กัน ซึ่งฟังก์ชัน Game Mode นี้เรียกได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี
 

 

สำหรับฟีเจอร์ทั้ง 3 ประการข้างต้นก็เป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะช่วยให้การเล่น ROV มีความลื่นไหล และต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในสมาร์ทโฟนหลายสิบรุ่นที่มาพร้อมกับฟังก์ชันครบครันทั้ง 3 อย่าง ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท ก็คือ OPPO F5 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO ที่มี RAM มากถึง 4GB, หน้าจอ FullScreen ขนาด 6.0 นิ้ว ที่มีความคมชัดใหญ่เต็มตา และฟังก์ชัน Game Mode ที่ช่วยให้เล่นได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีอะไรมารบกวนแม้แต่น้อย โดย OPPO F5 เคาะราคาวางจำหน่ายที่ 9,990 บาท และพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั่วประเทศ

 

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com

 

(บทความ Advertorial)


วันที่ : 22/11/2560

Tags :
  

Cookie Consent

Our website uses cookies to provide your browsing experience and relavent informations.Before continuing to use our website, you agree & accept of our Cookie Policy & Privacy