10 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจบน iPhone 12 มีของใหม่อะไรบ้าง ?
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPhone 12 ไอโฟนรุ่นใหม่ประจำปี 2020 ที่ในปีนี้เปิดตัวกันถึง 4 รุ่นด้วยกัน ซึ่งได้แก่ iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max โดยนอกจากจะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่แล้ว ยังมาพร้อมกับสเปกและคุณสมบัติใหม่ ๆ มากมาย มาดูกันดีกว่าว่า 10 ฟีเจอร์ใหม่บน iPhone 12 มีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. มีให้เลือก 4 รุ่น 3 ขนาดหน้าจอ
สำหรับ iPhone 12 ที่เปิดตัวในปีนี้นั้น มีให้เลือกกันมากถึง 4 รุ่นด้วยกัน ซึ่งได้แก่ iPhone 12 mini หน้าจอ 5.4 นิ้ว, iPhone 12 หน้าจอ 6.1 นิ้ว, iPhone 12 Pro หน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 12 Pro Max หน้าจอ 6.7 นิ้ว ซึ่ง iPhone 12 mini ถือว่าเป็นไอโฟนที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาไอโฟนที่เปิดตัวในปีนี้ (ขนาดเล็กกว่า iPhone SE) ในขณะที่ iPhone 12 Pro Max เป็นไอโฟนที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบน iPhone
2. หน้าจอแบบ OLED ทั้ง 4 รุ่น
โดย iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นนั้น เป็นหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ทั้งหมด แตกต่างจาก iPhone 11 รุ่นปีที่แล้วที่เป็นหน้าจอแบบ LCD อีกทั้งยังเป็นจอภาพแบบ Super Retina XDR และกระจกแบบ Ceramic Shield ที่ทนต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 4 เท่า
3. ดีไซน์ขอบเหลี่ยม และจอบาก
ถึงแม้ iPhone 12 จะยังคงใช้ดีไซน์จอบากแบบ iPhone 11 แต่ความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นก็คือ iPhone 12 นั้น ได้รับการออกแบบใหม่ให้เป็นดีไซน์แบบขอบเหลี่ยม รูปทรงเดียวกับ iPad Pro ซึ่ง iPhone 12 mini กับ iPhone 12 จะเป็นขอบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ ส่วน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max จะเป็นขอบสแตนเลสสตีลเกรดเดียวกับที่ใช้ทำเครื่องมือศัลยกรรม
4. รองรับ 5G
iPhone 12 และ iPhone 12 Pro เป็นไอโฟนรุ่นแรกที่รองรับเครือข่าย 5G ซึ่งในไทยนั้น จะรองรับคลื่นความถี่ N28 และ N41 แบบ sub-6 GHz แต่ในสหรัฐฯ จะมีทั้งแบบ sub-6 GHz และ mmWave
5. ชิปประมวลผล Apple A14 Bionic
iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ใช้ชิปประมวลผล Apple A14 Bionic แบบ 6-Core ซึ่งเป็นชิปแบบ 5 นาโนเมตรตัวแรกในอุตสาหกรรม โดย CPU และ GPU เร็วกว่าชิปเซ็ตที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นสูงสุด 50% พร้อมด้วย Neural Engine แบบ 16-Core เร็วขึ้นสูงสุด 80%
6. กล้องปรับปรุงใหม่ ประสิทธิภาพดีขึ้น
iPhone 12 mini และ iPhone 12 มาพร้อมกับกล้องคู่ด้านหลัง ปรับปรุงใหม่ ซึ่งเลนส์ Wide และ Ultra Wide นั้น รองรับ Night Mode แล้ว ทำให้รับแสงได้มากขึ้นถึง 27% ส่วน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max เป็นกล้องด้านหลัง 3 ตัว ที่อัปเกรดด้วยการเพิ่ม LiDAR Scanner สำหรับใช้งานด้าน AR และช่วยทำให้การโฟกัสภาพไวขึ้น อีกทั้งยังรองรับการถ่ายภาพ Portrait ในโหมดกลางคืนอีกด้วย
นอกจากนี้ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ยังรองรับฟีเจอร์ Deep Fusion ซึ่งจะวิเคราะห์ภาพจากหลายค่าแสงเพื่อให้สามารถถ่ายทอดรายละเอียด
ออกมาได้มากที่สุดเมื่ออยู่ในสภาวะแสงปานกลางถึงน้อย รวมถึงรองรับ Smart HDR 3 ปรับองค์ประกอบในภาพให้สมดุล
7. iPhone 12 Pro รองรับ Apple ProRAW
กล้องระดับโปรบน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max รองรับการถ่ายภาพแบบ RAW ทำให้สามารถปรับแต่งภาพได้ง่ายขึ้น สามารถปรับแต่งภาพถ่ายและ White Balance ได้แบบมือโปร ซึ่งฟึเจอร์ดังกล่าวจะเปิดให้ใช้งานในเร็ว ๆ นี้
8. รองรับ Dolby Vision HDR
นอกจากจะสามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K ได้แล้ว ระบบเสียงยังเป็นแบบ HDR ระดับ 10 บิต และสามารถบันทึกในรูปแบบ Dolby Vision แบบเดียวกับที่ใช้ในสตูดิโอภาพยนตร์ได้อีกด้วย
9. สีสันตัวเครื่องใหม่
iPhone 12 mini และ iPhone 12 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ Black, White, (PRODUCT)RED, Green และสีใหม่ Blue ส่วน iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Silver, Gold และ 2 สีใหม่ Graphite กับ Pacific Blue
10. ราคาและวันวางจำหน่าย
- iPhone 12 mini
- 64 GB ราคา $699
- 128 GB ราคา $749
- 256 GB ราคา $849
- เปิดพรีออเดอร์ 6 พ.ย. 2020
- วางจำหน่าย 13 พ.ย. 2020
- iPhone 12
- 64 GB ราคา $799
- 128 GB ราคา $849
- 256 GB ราคา $949
- เปิดพรีออเดอร์ 16 ต.ค. 2020
- วางจำหน่าย 23 ต.ค. 2020
- iPhone 12 Pro
- 128 GB ราคา $999
- 256 GB ราคา $1,099
- 512 GB ราคา $1,299
- เปิดพรีออเดอร์ 16 ต.ค. 2020
- วางจำหน่าย 23 ต.ค. 2020
- iPhone 12 Pro Max
- 128 GB ราคา $1,099
- 256 GB ราคา $1,199
- 512 GB ราคา $1,399
- เปิดพรีออเดอร์ 6 พ.ย. 2020
- วางจำหน่าย 13 พ.ย. 2020
นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 14/10/2563