ในปัจจุบันสมาร์ทโฟนระดับกลางในท้องตลาดบ้านเราล้วนมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ อีกทั้งยังมีราคาวางจำหน่ายที่ย่อมเยากว่าแต่ก่อนมาก ซึ่งสมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้ก็มีวางจำหน่ายอยู่มากมายหลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนหน้าจอ 3D น้องใหม่ล่าสุดจากแดนมังกรอย่าง Nova SuperD D1 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา พร้อมชูจุดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล 3 มิติ แบบ Full Display Mode ที่สามารถแสดงผลภาพได้ทั้งแบบสองมิติ (2D) หรือแบบสามมิติ (3D) ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอ หรือภาพถ่าย ได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่จำเป็นต้องสวมแว่นตาสามมิติอีกต่อไป อีกทั้งยังรองรับการใช้งานกับแว่นตา SuperD VR ZERO ได้
และด้วยความสามารถของหน้าจอแสดงผลดังที่กล่าวมาทำให้ Nova SuperD D1 นั้นเป็นสมาร์ทโฟน "รุ่นแรกของโลก" ที่สามารถแสดงผลภาพแบบสองมิติ (2D) กับแบบสามมิติ (3D) พร้อมทั้งรองรับการใช้งานร่วมกับแว่นตา VR (Virtual Reality) ได้ในเครื่องเดียว
สำหรับ Nova SuperD D1 นั้นมีจุดเด่นอยู่เด่นอยู่กลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD 3D ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f/2.2, เซ็นเซอร์ Eye Camera สำหรับจับตำแหน่งดวงตา และระยะห่างของดวงตาดำสองข้าง เพื่อช่วยในการใช้งานการรับชมภาพยนตร์แบบสามมิติ (3D), เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับการใช้งานร่วมกับแว่นตา SuperD VR ZERO, กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED, รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมการ์ด, รองรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh
ทางด้านประสิทธิภาพการประมวลผลก็เรียกได้ว่าจัดมาให้ไม่แพ้สมาร์ทโฟนในระดับราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
ซึ่งหากมองจากความสามารถเฉพาะตัวที่มีอยู่บน Nova SuperD D1 ก็นับว่าคุ้มค่าไม่น้อยเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวเพียง 7,990 บาท อีกทั้งยังแถมฟรีแว่นตา SuperD VR ZERO ให้กลับไปใช้งานร่วมกันอีกด้วย และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปชมสัมผัสแรกกันสักหน่อยดีกว่าครับว่า Nova SuperD D1 รุ่นนี้ จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
สรุปคุณสมบัติเด่นของ Nova SuperD D1

- ตัวเครื่องมีขนาด 75.7x152x8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 172 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD 3D ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว
- รองรับฟังก์ชัน Full Display Mode ที่สามารถแสดงผลภาพได้ทั้งแบบสองมิติ (2D), แบบสามมิติ (3D) และใช้งานร่วมกับแว่น VR ได้ในเครื่องเดียว
- รองรับการใช้งานร่วมกับแว่นตา SuperD VR ZERO
- ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB พร้อมรองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f/2.2
- มีเซ็นเซอร์ Eye Camera สำหรับจับตำแหน่งดวงตา และระยะห่างของดวงตาดำสองข้าง เพื่อช่วยในการใช้งานการรับชมภาพยนตร์แบบสามมิติ (3D)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมการ์ด พร้อมรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่าย 4G LTE กับ 3G
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
- มีให้เลือก 2 สี คือ Champagne Gold กับ Galaxy Silver
- ราคาวางจำหน่าย 7,990 บาท พร้อมแถมฟรี แว่นตา SuperD VR ZERO
แกะกล่องพร้อมชมรูปลักษณ์ตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Nova SuperD D1 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD 3D ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 75.7x152x8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 172 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f/2.2, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, เซ็นเซอร์ Eye Camera สำหรับจับตำแหน่งดวงตา และระยะห่างของดวงตาดำสองข้าง เพื่อช่วยในการใช้งานการรับชมภาพยนตร์แบบสามมิติ (3D), ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับโอนถ่ายข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่ และไมโครโฟน

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมการ์ด แต่ในช่องที่สองจะต้องเลือกใช้งานระหว่างการใช้งานซิมการ์ดที่สอง หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f/2.2 พร้อมไฟแฟลช LED, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และลำโพงเสียงภายนอก ไม่เพียงเท่านั้น Nova SuperD D1 ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

นอกจากนี้ในชุดจำหน่ายมาตรฐานของ Nova SuperD D1 ยังมาพร้อมกับแว่นตา SuperD VR ZERO


โดยตัวแว่น SuperD VR ZERO นั้นสามารถปรับระยะห่างของตัวเลนส์ให้เหมาะสมกับสายตาของผู้ใช้ได้

ส่วนด้านหน้าจะมีช่องสำหรับใส่ Nova SuperD D1 ซึ่งตัวฝาปิดจะมีตัวล็อกเป็นแถบแม่เหล็ก จึงสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกลัวว่าฝาจะเปิดออกมาเอง

ไม่เพียงเท่านั้น ในด้านยังบุด้วยฟองน้ำ และยังมีสายรัดสำหรับสวมใส่มาให้ใช้งานอีกด้วย
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ ในเบื้องต้น
 
Nova SuperD D1 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow พร้อมทั้งรองรับการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้
 
โดยมีหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB และหน่วยความจำแรมขนาด 3 GB
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ GPS
 
นอกจากนี้ บน Nova SuperD D1 ยังมีแอปพลิเคชัน SuperD VR ที่รวบรวมคอนเทนท์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายแบบพาโนราม่า, วิดีโอ, เกม หรือรูปภาพ สำหรับใช้งานแบบสามมิติ (3D) หรือใช้งานร่วมกับแว่น SuperD VR ZERO ได้
 
และยังมีแอปพลิเคชัน กล้อง VR Super สำหรับถ่ายภาพพาโนราม่า ซึ่งผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบพาโนราม่าตามสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันนี้ได้ทันที
 
ในส่วนของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Nova SuperD D1 นอกจากจะสามารถปลดล็อกหน้าจอได้แล้ว ยังสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์การถ่ายภาพหน้าจอ หรือเรียกใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องการได้

หมายเหตุ ภาพถ่ายตัวอย่างนั้นไม่สามารถแสดงผลให้เป็นเป็นสามมิติได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องมองด้วยสายตาตนเองเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น บน Nova SuperD D1 ยังมีแอปพลิเคชัน 3DVR สำหรับชมภาพยนตร์แบบสามมิติ หรือภาพยนตร์ VR ได้

อีกทั้งยังสามารถเปิดดูไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น
 
และเมื่อนำ Nova SuperD D1 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 44132 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 6727 คะแนน
 
ในส่วนของแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพด้านหลังก็มาหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
 
สำหรับกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นจะมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียน, ใบหน้าเรียว หรือตาโตได้สูงสุดถึง 5 ระดับ และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับl HD (720p)
 
โดย Nova SuperD D1 มาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750 ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB พร้อมรองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 6.0 Marshmallow
ภาพถ่ายเบื้องต้นจาก กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ของ Nova SuperD D1

ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพจากโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับ 3
สรุปการใช้งานในเบื้องต้นของ Nova SuperD D1

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการพรีวิวสัมผัสแรกกับสมาร์ทโฟนสุดล้ำที่มาพร้อมหน้าจอแบบ Full Display Mode ที่สามารถแสดงผลภาพได้ทั้งแบบสองมิติ (2D) หรือแบบสามมิติ (3D) โดยไม่จำเป็นสวมแว่นตาอย่าง Nova SuperD D1 และจากการทดสอบในเบื้องต้น ก็พอที่จะสรุปได้ว่า Nova SuperD D1 ถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ในรูปแบบสามมิติ อีกทั้งยังรองรับการใช้งานร่วมกับแว่น SuperD VR ZERO สำหรับเปิดดูคอนเทนท์ต่างๆ ได้แบบเสมือนจริง เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความสนุกสนานเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานแบบ Virtual Reality ได้อีกด้วย และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ Nova SuperD D1 สามารถตอบสนองการใช้งานในด้านนี้ได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ
ในส่วนของกล้องถ่ายภาพก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดี โดยเฉพาะภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล นั้นมีความคมชัด สีสันสดใส อีกทั้งยังสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบอีกด้วย ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งาน ซึ่งผู้สามารถปรับค่าผิวเนียน, ใบหน้าเรียว และตาโต ได้มากถึง 5 ระดับตามความต้องการ บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกคนคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
และจากการพรีวิวสัมผัสแรกในข้างต้น จะเห็นได้ว่า Nova SuperD D1 นั้นมีฟีเจอร์ดีๆ ให้ใช้งานหลากหลาย พร้อมทั้งวางจำหน่ายในราคาเพียง 7,990 บาท เท่านั้น! ซึ่งหากเทียบกับราคาวางจำหน่ายก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อ แต่อย่างไรก็ดี ที่เห็นกันไปในข้างต้นนั้นเป็นเพียงการแนะนำ Nova SuperD D1 ในเบื้องต้น เท่านั้น โดย Nova SuperD D1 ยังมีฟีเจอร์ และฟังก์ชันที่น่าสนใจอีกหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งทางทีมงานจะกล่าวถึงโดยละเอียดอีกครั้งในรีวิวฉบับเต็ม
และหากท่านใดสนใจที่จะเป็นเจ้าของ Nova SuperD D1 ก็สามารถไปหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้า Big C ซึ่งมีกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ หรือร้านค้าปลีกทั่วไป ในราคาสุดคุ้มเพียง 7,990 บาท พร้อมแถมฟรีแว่นตา SuperD VR ZERO นอกจากนี้ Nova SuperD D1 จะมีให้เลือก 2 สีด้วยกัน คือ Champagne Gold กับ Galaxy Silver สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Nova Phone ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Nova SuperD D1 มาให้ทางทีมงานได้ทำการพรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อน พบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
วันที่ : 9/3/60
|