รีวิว JBL E35 หูฟัง On-Ear รุ่นเริ่มต้นใหม่ล่าสุด กับคุณภาพเสียงแบบ JBL Signature Sound พร้อมวัสดุผ้าที่สวมใส่สบายหู ในราคาเพียง 2,990 บาท

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ Gadget สุดเด็ดจากทีมงาน Thaimobilecenter กันอีกครั้งนะครับ ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่า Gadget ในตลาดบ้านเรามีให้เลือกใช้งานหลากหลาย โดยเฉพาะ Gadget สำหรับฟังเพลงจำพวกหูฟังนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่ง Gadget ยอดฮิตที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ ซึ่งล่าสุดทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีหูฟังรุ่นเริ่มต้นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ JBL จึงอยากจะมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันนั่นคือหูฟัง JBL E35 โดยหูฟัง JBL E35 วางจำหน่ายในราคาเพียง 2,990 บาท เท่านั้น!

สำหรับหูฟัง JBL E35 นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ดีไซน์แบบ On-Ear พร้อมวัสดุผ้า ซึ่งช่วยให้การสวมใส่มีความสบาย เข้ารูปกับใบหู, แกนหูฟังสามารถพับเก็บได้ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา, คุณภาพเสียงแบบ JBL Signature Sound, มีปุ่มการสั่งงาน พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนา และมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ดำ, ขาว, น้ำเงิน, แดง และเขียว

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปติดตามชมพร้อมกันเลยดีกว่าว่าหูฟัง JBL E35 รุ่นนี้ จะมีดีไซน์เป็นอย่างไร มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่น และให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจขนาดไหน

สำรวจคุณสมบัติเด่นของหูฟัง JBL E35

- คุณภาพเสียงแบบ JBL Signature Sound ที่ช่วยขับเสียงออกมาจากไดรเวอร์ขนาด 40 มิลลิเมตร
- ตรงที่คาดศรีษะนั้นจะถูกหุ้มด้วยผ้า จึงทำให้เวลาสวมใส่จะไม่รู้สึกว่ากดที่ด้านบนของศีรษะ
- ดีไซน์แบบ On-Ear พร้อมวัสดุผ้า ซึ่งช่วยให้การสวมใส่มีความสบาย เข้ารูปกับใบหู และไม่รู้สึกถูกกดทับ
- แกนหูฟังสามารถพับเก็บได้ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา เพื่อง่ายต่อการพกพา 
- มีปุ่มการสั่งงาน ซึ่งทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เช่น หยุด/เล่น เพลง หรือรับสายเรียกเข้า พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนาขณะที่มีสายเรียกเข้า
- สายเชื่อมต่อถูกห่อหุ้มด้วยผ้า จึงช่วยไม่ให้สายพันกัน
- มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ดำ, ขาว, น้ำเงิน, แดง และเขียว
- ราคา 2,990 บาท

การออกแบบดีไซน์ พร้อมทดสอบการใช้งาน

โดยหูฟัง JBL E35 นั้นสีดีไซน์สวยหรู อีกทั้งงานประกอบยังมีความแน่นหนา

ซึ่งหูฟัง JBL E35 ยังมาพร้อมกับสายเชื่อมต่อแบบมาตรที่มีหัวเชื่อมต่อ 2 แบบ คือ แบบ 2.5 มิลลิเมตร ส่วนปลายอีกด้านจะเป็นหัวต่อแบบ 3.5 มิลลิเมตร

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สายสัญญาณถูกห่อหุ้มด้วยผ้า จึงหมดปัญหาเรื่องสายพันกัน

มีปุ่มการสั่งงาน ซึ่งทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เช่น หยุด/เล่น เพลง หรือรับสายเรียกเข้า พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนาขณะที่มีสายเรียกเข้า

นอกจากนี้ ตัวหูฟังยังสามารถพับเก็บเข้าด้านในได้ ซึ่งมีประโยชน์ตรงที่ช่วยให้สามารถเก็บ หรือพกพาได้สะดวกสบายมากขึ้น และส่วนตรงที่คาดศรีษะนั้นจะถูกหุ้มด้วยผ้าทั้งด้านนอก แล้วด้านใน จึงทำให้เวลาสวมใส่จะไม่รู้สึกว่ากดที่ด้านบนของศีรษะ

JBL E35 ได้ถูกออกแบบให้เข้ากับใบหูของผู้สวมใส่ (Improved Ergonomic) โดยในส่วนที่ครอบใบหูจะเป็นหนัง พร้อมบุด้วยฟองน้ำด้านใน เพื่อการสวมใส่ที่สบาย และไม่กดทับใบหู อีกทั้งยังมีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าให้สวมใส่ที่หูข้างซ้าย หรือข้างขวา

อีกทั้งยังสามารถปรับระดับของแกนคาดหัวได้มากถึง 5 ระดับ ไม่ว่าคุณจะมีศีรษะขนาดใด ก็สามารถสวมใส่ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ด้านในของตัวลำโพงฝั่งขวาจะมีช่องเชื่อมต่อกับสายแบบ AUX ขนาด 2.5 มิลลิเมตร

สำหรับ JBL E35 นั้นมีน้ำหนักเบา จึงทำให้สวมใส่ได้สบาย ไม่รู้สึกหนักศรีษะ และไม่เกิดอาการเมื่อยล้า ขณะที่ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว

และจากการทดสอบด้วยการฟังเพลงก็พบว่าหูฟัง JBL E35 สามารถให้พลังที่ดังฟังชัด อีกทั้งยังมีรายละเอียดเสียงต่างๆ ครบถ้วน สมจริง ไม่ว่าจะเป็น เสียงสูง หรือเสียงต่ำ แต่ในส่วนของเสียงเบสจะอยู่ในระดับกลางๆ ไม่แน่นมากนัก แต่ก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยรวมแล้วก็เหมาะกับการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การชมภาพยนตร์, ฟังเพลง หรือเล่นเกม

สรุปผลการทดสอบ

นับว่าเป็นหูฟังอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่ดูสวยงามลงตัว อีกทั้งตรงที่คาดศรีษะนั้นจะถูกหุ้มด้วยผ้าทำให้เวลาสวมใส่จะไม่รู้สึกว่ากดที่ด้านบนของศีรษะ ไม่เพียงเท่านั้น ทางด้านหูฟังยังมีดีไซน์แบบ On-Ear พร้อมวัสดุผ้าซึ่งช่วยให้การสวมใส่มีความสบาย เข้ารูปกับใบหู และไม่รู้สึกถูกกดทับ อีกทั้งตัวหูฟังยังมีน้ำหนักเบา แกนหูฟังก็สามารถพับเก็บได้ จึงสามารถพกพาไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้ สายเชื่อมต่อก็ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าเช่นเดียวกัน จึงหมดห่วงเรื่องสายพันกันไปได้ทันที

อีกหนึ่งความน่าสนใจบนหูฟัง JBL E35 คือ มีปุ่มฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การหยุด/เล่น เพลง หรือรับสายเรียกเข้า นอกจากนี้ ยังมีไมโครโฟน ซึ่งผู้ใช้สามารถสนทนาได้ทันทีผ่านหูฟัง JBL E35

สำหรับทางด้านคุณภาพเสียง หูฟัง JBL E35 ก็สามารถให้พลังเสียงที่ดังฟังชัด พร้อมทั้งให้รายละเอียดเสียงต่างๆ ได้ครบถ้วน สมจริง ในส่วนของเสียงเบสจะอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งจะเหมาะกับการฟังเพลงแนว Jazz หรือ Classic เสียมากกว่า แต่โดยรวมก็ถือว่าอยู่ในระดับที่พอใจ

และหากท่านใดที่สนใจก็สามารถสั่งซื้อหูฟัง JBL E35 ได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือสามารถสั่งซื้อได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ mahajaklife.com ในราคาเพียง 2,990 บาท เท่านั้น! ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ดำ, ขาว, น้ำเงิน, แดง และเขียว สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง JBL ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งหูฟัง JBL E35 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com