สำหรับยุค 4G ในปัจจุบัน นอกเหนือจากการแข่งขันของบรรดาผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ที่จะมีให้เลือกหลายรุ่น หลายระดับราคาแล้ว ด้านโอเปอร์เรเตอร์รายหลักในไทย ต่างชูจุดเด่นของแพ็กเกจ และโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมาให้เลือกมากมายเช่นกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือ เน้นเรื่องการโทร, เน้นเรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ต และเน้นการใช้งานทั้ง 2 อย่างควบคู่กันไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้ใช้งานเป็นหลักว่า แพ็กเกจแบบใดจะตอบโจทย์มากที่สุด
โดยในวันนี้ ทีมงาน thaimobilecenter จะมาเปรียบเทียบ โปรโมชั่นซิมสำหรับคนโทรบ่อย ซึ่งโปรโมชั่นนี้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่โทรบ่อย โทรคุยสั้น ๆ โทรไม่เต็มนาที จะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าโปรโมชั่นแบบเหมาจ่าย โดยเลือกโปรโมชั่นดังกล่าวจาก 5 โอเปอร์เรเตอร์รายหลักในไทย ซึ่งได้แก่ AIS, dtac, TrueMove H, my by CAT และน้องใหม่ เพนกวิน โดยแต่ละโปรโมชั่น จะแตกต่างมากน้อยแค่ไหน มาดูกันเลยดีกว่า
dtac กับซิมโทรสนุก

มองหาซิมสำหรับคนโทรบ่อยจาก dtac ต้องเป็น ซิมโทรสนุกทุกเครือข่าย ที่มีค่าบริการแบบเหมาจ่าย เพียง 0.55 บาท/นาที จะโทรไปยังเครือข่ายไหน ก็ราคาเดียวกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.dtac.co.th/
AIS กับโปรวินาที

ทาง AIS ก็มีโปรโมชั่นสำหรับคนโทรบ่อย คุยสั้น ๆ ด้วยเช่นกันกับ โปรวินาที โดยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ 1.1 สตางค์/วินาที ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.ais.co.th/
TrueMove H กับโปรสบายทุกค่าย

โปรสำหรับคนชอบโทรจาก TrueMove H มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน แต่ถ้าเป็นโปรโทรทุกเครือข่ายในราคาเดียวกัน ต้องเป็น โปรสบายทุกค่าย มีค่าบริการอยู่ที่ 1.5 สตางค์/วินาที ตลอด 24 ชั่วโมง
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://truemoveh.truecorp.co.th/
my by CAT กับโปรวินาทีสุดคุ้ม

นอกจากโอเปอร์เรเตอร์ 3 รายใหญ่อย่าง dtac, AIS และ TrueMove H แล้ว ยังมี my by CAT ของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้เลือกด้วยเช่นกัน กับโปร my วินาทีสุดคุ้ม โทรทุกเครือข่าย 0.013 บาท/วินาที หรือ 1.3 สตางค์/วินาที
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.mybycat.com/
เพนกวิน กับโปรโทรวิละสตางค์

เพนกวิน ค่ายมือถือน้องใหม่แบบ MVNO (Mobile Virtual Network Operator) หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเครือข่ายเสมือน ซึ่งใช้เครือข่ายของ CAT หรือบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นั่นเอง แม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่โปรโมชั่นของ เพนกวิน ก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยการชูจุดเด่น กับการโทรวินาทีละ 1 สตางค์ คิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาที โทรเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับคนโทรบ่อยแต่โทรสั้น ๆ นอกจากนี้ ยังคิดค่าบริการอินเทอร์เน็ตไม่เกิน 20 บาท/วัน อีกด้วย
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://www.penguinsim.com/promotion
สำหรับการวิเคราะห์เปรียบเทียบเราจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกันนั่นคือ การเปรียบเทียบค่าโทร และ การเปรียบเทียบในส่วนของค่าบริการอินเทอร์เน็ต เราลองมาดูการเปรียบเทียบค่าโทรกันก่อนนะครับว่าจาก 5 โอเปอร์เรเตอร์ข้างต้น ค่ายใดจะมีความคุ้มค่ามากที่สุด
เปรียบเทียบแพ็กเกจสำหรับคนโทรบ่อย คิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาที

หมายเหตุ : เรียงลำดับตามเครือข่ายที่ประหยัดที่สุด จากซ้ายไปขวา
สำหรับแพ็กเกจแบบคิดค่าโทรเป็นวินาทีนั้น จะเห็นได้ว่า ซิมเพนกวิน มีอัตราค่าบริการถูกที่สุด โดยมีค่าบริการอยู่ที่ 1 สตางค์/วินาที ตามมาด้วย AIS, my by CAT และ TrueMove H ที่มีค่าบริการอยู่ที่ 1.1 สตางค์/วินาที, 1.3 สตางค์/วินาที และ 1.5 สตางค์/วินาที ตามลำดับ ส่วน dtac แพงสุด เนื่องจากเป็นเหมาจ่าย 0.55 บาท/นาที
สรุปข้อดีของแพ็กเกจสำหรับคนโทรบ่อย
- คิดค่าโทรตามจริงเป็นวินาที ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย (ยกเว้นดีแทค)
- เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่โทรคุยสั้น ๆ และโทรบ่อย โทรไม่เต็มนาที
- โทรทุกเครือข่ายคิดราคาเดียวกัน
- สามารถใช้เป็นเบอร์สำรองสำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
- กรณีที่เน้นการใช้โทรปริมาณมากจริง ๆ ควรเลือกแพคเกจเหมาจ่ายมากกว่า
- สำหรับเครือข่ายที่คิดเหมาจ่ายเป็นนาทีอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่โทรบ่อย ๆ
จริง ๆ แล้วค่าโทรประมาณ 1 สตางค์ต่อวินาทีก็ไม่ได้แตกต่างจากแพ็กเกจประเภทเหมาจ่ายขั้นต่ำมากนัก แต่ถ้าเป็นแพ็คเกจเหมาจ่ายที่ราคาสูงหน่อยเน้นโทรมากจะคุ้มค่ากว่า อย่างไรก็ดี ในส่วนของโปรเหมาจ่ายอาจจะต้องดูด้วยว่ามีการคิดเงินเป็นวินาทีหรือไม่ครับ
หลังจากที่เปรียบเทียบอัตราค่าโทรกันไปแล้ว เราลองมาเปรียบเทียบค่าบริการการใช้งานอินเทอร์เน็ตกันบ้างว่าค่ายใดจะคุ้มค่าที่สุด
เปรียบเทียบค่าบริการและความเร็วอินเทอร์เน็ต จากแพ็กเกจคิดค่าโทรเป็นวินาที

หมายเหตุ : เรียงลำดับตามเครือข่ายที่ประหยัดที่สุดที่สุด จากซ้ายไปขวา
สำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตค่ายที่มีค่าบริการถูกที่สุด นั่นก็คือ เพนกวิน และ AIS อยู่ที่ 0.25 บาท/MB แต่ AIS รองรับความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps ส่วนเพนกวิน รองรับความเร็วสูงสุดที่ 1 Mbps ซึ่งในจุดนี้ ถ้ามองในเรื่องความเร็ว เพนกวินอาจจะเป็นรอง แต่ก็มีจุดเด่นตรงที่จำกัดการคิดค่าบริการที่ 20 บาท/วัน รวม 80 MB ถ้าหากใช้งานเกิน 80 MB แล้ว สามารถใช้งานต่อได้ทั้งวันโดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม ส่วน dtac มีค่าบริการแพงที่สุด อยู่ที่ 1.99 บาท/MB แต่รองรับความเร็วสูงสุดถึง 42 Mbps
อย่างไรก็ดี ความเร็วในการใช้งานจริง จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ระยะห่างของจุดที่กำลังใช้งาน กับ จุดปล่อยสัญญาณ (สถานีฐาน), จำนวนของผู้ใช้งานในช่วงเวลานั้น, Web Browser ของผู้ให้บริการแต่ละราย (เช่น Website ของต่างประเทศอาจจะมีส่วนทำให้ช้าลง), การใช้บริการอยู่ในพื้นที่ ๆ มีสิงกีดขวาง (เช่น มีอาคารหนาแน่น) และคุณสมบัติของตัวเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้งานในตอนนั้นด้วยเช่นกัน
จุดที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม
- ความเร็วในการใช้งานจริง อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ
- การใช้งานอินเทอร์เน็ตของแพ็กเกจลักษณะนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับกับลูกค้าที่ใช้เน็ตเรื่อย ๆ และเปิดเน็ตทิ้งไว้ เพราะอาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงโดยไม่ได้ตั้งใจหรือเน็ตรั่วได้ (ยกเว้นซิมเพนกวินที่จำกัดการคิดค่าบริการที่ 20 บาท/วัน)
บทสรุปส่งท้าย
จากบทความเปรียบเทียบแพ็กเกจข้างต้น เพนกวิน ซิมน้องใหม่ถือเป็นซิมที่มีค่าบริการในส่วนของค่าโทรและค่าอินเทอร์เน็ตถูกสุดที่ 1 สตางค์ต่อวินาที รองลงมาจะเป็น AIS สำหรับ TrueMove และ my by CAT นั้นค่าบริการจะอยู่ในระดับกลาง ๆ ในขณะที่ dtac ค่าบริการจะสูงกว่าค่ายอื่นอยู่ เพนกวินค่อนข้างจะถูกในส่วนของค่าโทร และมีจุดเด่นคือ การจำกัดค่าอินเทอร์เน็ตที่วันละ 20 บาท ทำให้ไม่เกิดปัญหาเน็ตรั่วกับผู้ใช้ ถึงแม้จะมีจุดด้อยกว่าในเรื่องของความเร็ว อินเทอร์เน็ตที่อยู่ 1 Mbps แต่ก็ถือว่า ความเร็วที่เพียงพอต่อการใช้งาน สำหรับคนที่กังวลว่าเพนกวินไปต่างจังหวัดแล้วจะไม่มีสัญญาณโทรหรือเปล่า ? คงไม่ต้องกังวล เนื่องจากเพนกวินใช้เครือข่ายของ CAT ซึ่งวางเครือข่ายไว้ค่อนข้างที่จะครอบคลุมมากอยู่แล้ว แต่หากยังไม่แน่ใจสามารถตรวจสอบพื้นที่เสาสัญญาณได้ที่ www.penguinsim.com/network
ในเรื่องความเร็วการใช้งานถึงแม้ว่า AIS, TrueMove H และ dtac จะรองรับความเร็วสูงสุดที่ 42 Mbps แต่ในการใช้งานจริงทุกเครือข่ายเมื่อมีผู้ใช้งานมากขึ้นความเร็วก็มักจะลดลงเช่นกัน และก็อาจจะต้องแลกมากับค่าเน็ตที่อาจบานปลายหากใช้งาน Multimedia ปริมาณมาก
อย่างไรก็ดีสำหรับเครือข่าย My และ เพนกวิน ยังมีจุดที่ผู้ใช้จะต้องพิจารณาเพิ่มอีก นั่นก็คือ ใช้สัญญาณบนคลื่นความถี่ 850 MHz ฉะนั้น สมาร์ทโฟนที่จะรองรับ จะต้องรองรับเครือข่าย 3G WCDMA/HSPA คลื่นความถี่ 850 MHz ด้วยเช่นกัน ควรตรวจสอบก่อนว่า สมาร์ทโฟนที่ใช้อยู่รองรับคลื่นความถี่ดังกล่าวด้วยหรือไม่ สำหรับ my by CAT กับ TrueMove H จะเห็นได้ว่าทั้งค่าโทรและค่าเน็ตยังแตกต่างจากเจ้าอื่นพอสมควร ในขณะที่ dtac นั้นเนื่องจากคิดค่าบริการเป็นแบบเหมาจ่ายสำหรับการโทรที่ 0.55 บาท/นาที ใช้งานไม่ถึงนาที ก็ต้องจ่าย 0.55 บาท แต่จะคุ้มกว่าค่ายอื่น ๆ ถ้าหากใช้งานเกิน 1 นาทีขึ้นไป ส่วนอัตราค่าบริการการใช้งานอินเทอร์เน็ต อยู่ที่ 1.99 บาท/MB แพงที่สุดในบรรดา 4 ค่ายที่ยกมาเปรียบเทียบกัน
อย่างไรก็ดี โปรโมชันมือถือนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาในแต่ละค่ายก็อาจจะออกโปรมือถือเพื่อให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้งานของลูกค้าตนเอง สิ่งสำคัญคือเราอยากให้ผู้อ่านเลือกซิมที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก อย่างเช่นบทความนี้สำหรับคนที่เน้นการโทรบ่อยโทรเป็นเวลาสั้น ๆ การเลือกซิมที่คิดเป็นวินาทีและมีค่าโทรที่ถูกกว่าก็จะทำให้ผู้อ่านสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และปัจจุบันมือถือหลายรุ่นสามารถที่จะใช้งานได้มากกว่า 1 ซิม ดังนั้นหากเรารู้ตัวว่ามีพฤติกรรมการใช้งานแบบไหนก็ควรเลือกซิมให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น
หวังว่าบทความรีวิวเปรียบเทียบนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหา แพ็กเกจสำหรับคนโทรบ่อยนะครับ ส่วนคราวหน้าจะมีบทความเปรียบเทียบอะไรให้ชมกันนั้น อย่าลืมกด like แฟนเพจ thaimobilecenter เพื่อติดตามกันนะครับ :)
---------------------------------------
บทความเปรียบเทียบโดย : thaimobilecenter.com
วันที่ : 24/8/59
|