รีวิว Jabees BSport หูฟังกันน้ำไร้สายสไตล์สปอร์ต บนดีไซน์สุดโฉบเฉี่ยว! จัดเต็มด้วยคุณภาพเสียงเหนือระดับ และฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน น้ำหนักเบาสบายพกพาสะดวก ในราคาเพียง 1,490 บาท!

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ Gadget สุดเด็ดจากทีมงาน Thaimobilecenter กันอีกครั้งนะครับ ในโลกดิจิทัลยุคปัจจุบันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ต่างให้ความสำคัญกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆ อย่างที่กลายเป็นของสำคัญในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่สามารถสร้างความเพลิดเพลิน และความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ หูฟัง สังเกตได้ว่าเวลาเราเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เรามักจะพบกับผู้คนที่สวมใส่หูฟังอยู่ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายก็มักจะสวมหูฟังพร้อมเปิดเพลงคลอไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศให้กับตนเอง ซึ่งตัวหูฟังก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทอย่างง่าย คือ หูฟังมีสาย และหูฟังไร้สาย ซึ่งในวันนี้เราจะนำทุกท่านไปพบกับ Jabees BSport หูฟังแบบไร้สาย (Bluetooth) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์ และคุณภาพแบบจัดเต็ม ในราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย

หูฟัง Jabees BSport เป็นหูฟังไร้สาย (Bluetooth) แบบใหม่ล่าสุดที่เริ่มเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการคือ บริษัท Smith Group จำกัด ซึ่งหูฟัง Jabees รุ่น BSport นี้ เรียกได้ว่าถูกออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย พร้อมทั้งเปิดเพลงควบคู่กันไป เพราะคุณสมบัติเด่นของ Jabees BSport ที่นอกจากจะเป็นหูฟังแบบไร้สายที่เหมาะกับการฟังเพลงขณะที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ไปพร้อมกันแล้วนั้น ตัวหูฟังยังมีฟีเจอร์ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 ซึ่งสามารถป้องกันเหงื่อ และสายฝนที่โปรยปรายลงมาได้อย่างสบายๆ พร้อมเทคโนโลยีระบบ รับ-ส่ง ข้อมูลเสียงแบบ APTX Technology ซึ่งสามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลเสียงที่มีคุณภาพสูงกว่าหูฟังทั่วไปอีกด้วย และสำหรับการนำหูฟัง Jabees BSport ไปใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์สวยงามโฉบเฉี่ยว พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์คนฟังเพลงหรือไม่ เราขอเชิญทุกท่านร่วมค้นหาคำตอบในรีวิวหูฟัง Jabees BSport ไปพร้อมกันได้เลยครับ

คุณสมบัติเด่นเบื้องต้นของหูฟัง Jabees BSport

- ขนาดของหูฟัง 33.07X24.17X31.15 มิลลิเมตร น้ำหนัก 20 กรัม
- สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS
- ระบบการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1 Class II
- รองรับระยะห่างในการเชื่อมต่อสัญญาณประมาณ 20 เมตร (ในพื้นที่โล่ง)
- Bluetooth profiles: HFP/HSP/A2DP/AVRCP
- สามารถใช้งานในการโทรศัพท์ได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง
- สามารถใช้งานในการฟังเพลงได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง
- สามารถใช้งาน Stand by Mode ได้ยาวนานถึง 100 ชั่วโมง
- ถูกออกแบบมาให้ใช้งานอย่างสะดวกสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย พร้อมฟังเพลง และรับโทรศัพท์ได้ในขณะที่ทำกิจกรรม
- ฟีเจอร์ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4
- เทคโนโลยี รับ-ส่ง ข้อมูลเสียงแบบ APTX Technology สามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลเสียงที่มีคุณภาพสูงกว่าหูฟังโดยทั่วไป
- ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยไมโครโฟนแบบคู่ (Dual-Microphone)
- รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยระบบ NFC (Near Field Communication)
- ระบบสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) โดยรองรับการสั่งงานด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาจีน
- รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนสูงสุด 2 เครื่อง
- แสดงผลแบตเตอรี่ของหูฟัง Jabees BSport เมื่อเชื่อมต่อกับ iPhone
- มี 4 สีมาตรฐานให้เลือก คือ สีฟ้า, สีแดง, สีดำ และสีเขียวมะนาว
- ราคาวางจำหน่าย 1,490 บาท

รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์ของหูฟัง Jabees BSport

หูฟัง Jabees BSport มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน คือ สีฟ้า, สีแดง, สีดำ และสีเขียวมะนาว ซึ่งทางทีมงานเลือกใช้หูฟัง Jabees BSport สีฟ้าสดใสมาใช้ในการรีวิวครั้งนี้
 

เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับพระเอกของเรา หูฟัง Jabees BSport ที่มีขนาดกะทัดรัด ไม่เล็ก และไม่ใหญ่จนเกินไป พร้อมกับอุปกรณ์ภายใน ได้แก่ สาย microUSB, จุกยางหูฟัง 2 ขนาด คือ S และ L (ตัวที่มาพร้อมหูฟังเป็นขนาด M), ก้านคล้องใบหู 1 คู่ ขนาดเล็ก (ตัวที่คล้องกับหูฟังเป็นขนาด M), ถุงผ้าสกรีนโลโก้ Jabees สำหรับเก็บหูฟังอย่างเป็นระเบียบ และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
 

สำรวจด้านนอกของตัวหูฟังข้างขวาประกอบไปด้วย สัญลักษณ์การเชื่อมต่อแบบ NFC, โลโก้ Jabees ที่มองเห็นได้เด่นชัด ส่วนบริเวณด้านล่างของโลโก้จะเป็นไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะฟังเพลง และขณะพูดคุยโทรศัพท์ ส่วนด้านขวาของโลโก้จะมีไฟแสดงสัญญาณแบบ LED
 

ด้านหน้าของหูฟังด้านขวาประกอบด้วย ไมโครโฟนหลักของหูฟังสำหรับใช้งานในการพูดคุยโทรศัพท์ ขณะที่หูฟังด้านซ้ายจะเป็นสีเรียบๆ ธรรมดา
 

หูฟัง Jabees BSport ถูกออกแบบมาให้มีปุ่มกดไม่เยอะมากนัก โดยแผงควบคุมการทำงานทั้งหมดจะอยู่บริเวณด้านล่างของตัวหูฟังทั้งสองข้าง แบ่งออกเป็น หูฟังด้านขวาประกอบด้วย ปุ่ม เปิด-ปิด หูฟัง ที่มีลักษณะเด่นคือ เป็นปุ่ม เปิด-ปิด ที่ชัดเจน ไม่ใช่เป็นการกดปุ่มค้างเหมือนกับหูฟังไร้สายรุ่นอื่นๆ และช่องเชื่อมต่อสาย microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ ขณะที่ด้านล่างของหูฟังด้านซ้ายจะประกอบด้วย ปุ่ม ย้อนกลับ-ถัดไป สำหรับใช้ในการเล่นเพลง พร้อมทั้งใช้เป็นปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง ในอันเดียวกัน และปุ่ม รับสาย-วางสาย โทรศัพท์ ซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆ ก็สามารถรับโทรศัพท์ได้ทันที พร้อมทั้งใช้งานเป็นปุ่ม Voice Command ได้ด้วยเช่นกัน
 

ก้านคล้องใบหูผลิตจากวัสดุที่เป็นยาง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเจ็บขณะใช้งาน และสามารถปรับระดับเพื่อเพิ่มความกระชับได้
 

บริเวณสายของหูฟังจะมีที่ปรับความกระชับของหูฟังกับใบหูให้ด้วย

เปิดใช้งานหูฟัง Jabees BSport พร้อมการทดสอบในรูปแบบต่างๆ

เมื่อเลื่อนปุ่ม เปิดใช้งาน จะปรากฏไฟสัญญาณสีน้ำเงิน และสีแดงกระพริบขึ้น เพื่อแสดงสถานะพร้อมใช้งาน
 

จากนั้นเปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟนของผู้ใช้ และเลือกอุปกรณ์ที่ชื่อว่า BSport รอจนขึ้นสถานะว่า Connected ก็สามารถใช้งานหูฟังได้ทันที
 

หากเชื่อมต่อหูฟัง Jabees BSport กับ iPhone จะปรากฏแถบสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังข้างๆ ไอคอน Bluetooth ด้วย
 

เมื่อเชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
 

ฟีเจอร์เด่นอย่างหนึ่งของหูฟัง Jabees BSport ก็คือ ฟีเจอร์ป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 ที่สามารถป้องกันเหงื่อในเวลาออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งสามารถป้องกันสายฝนที่โปรยปรายลงมาได้ด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าหูฟังไร้สาย Jabees BSport ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นหลัก ดังนั้น ทีมงานจึงไม่รอช้า รีบไปทดสอบประสิทธิภาพของหูฟังขณะออกกำลังกายในทันที รวมไปถึงทดลองใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยเช่นกันว่าหูฟัง Jabees BSport สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ทุกกลุ่มหรือไม่

สรุปผลการใช้งานเบื้องของหูฟัง Jabees BSport

หลังจากทดสอบการใช้งานหูฟังขณะออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และปั่นจักรยาน ได้ข้อสรุปว่าหูฟัง Jabees BSport นั้นถือว่าตอบโจทย์สำหรับการใช้งานร่วมกับการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เพราะตลอดเวลาที่ผู้ทดสอบทำการวิ่ง และปั่นจักรยานนั้น หูฟังไม่มีการหลุด หรือกระเด็นออกจากตัวผู้ใช้แม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งฟังก์ชัน การตัดเสียงรบกวนภายนอก (Noise Cancelling) ของตัวหูฟังยังทำงานได้เป็นอย่างดี สามารถตัดเสียงรอบข้างได้สนิท ไม่มีเล็ดรอดเข้ามาภายในเลยแม้แต่น้อย ซึ่งฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนของหูฟัง Bluetooth บางรุ่นอาจมีจุดอ่อนในเรื่องของสัญญาณเสียงขณะพูดคุยโทรศัพท์ที่มีเสียงอื่นจากภายนอกแทรกเข้ามา แต่หูฟัง Jabees BSport จัดการปัญหานี้ได้ดีเยี่ยม เพราะคู่สนทนาอีกฝั่งหนึ่งได้ยินเสียงของตัวผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน และไม่มีเสียงแทรกเข้ามา นอกจากนี้ ขณะที่ทีมงานกำลังทดสอบหูฟังพร้อมการออกกำลังกายอยู่นั้น ปรากฏว่ามีฝนตกลงมาเบาๆ ซึ่งตัวหูฟังก็ไม่ได้รับผลกระทบ หรือแสดงอาการขัดข้องจากสายฝนนี้แต่อย่างใด ถือว่าผ่านการทดสอบในเรื่องของฟีเจอร์ป้องกันน้ำไปอย่างง่ายดาย

สำหรับในเรื่องคุณภาพของเสียง ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญของหูฟังทุกรุ่น ต้องขอบอกว่า หูฟัง Jabees BSport แสดงรายละเอียดของเสียงได้ดีกว่าที่คาดไว้ แนวเสียงของหูฟังรุ่นนี้ค่อนข้างเน้นไปทางเสียงเบสเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นเพราะตัวหูฟังเน้นด้านออกกำลังกาย จึงต้องการให้แสดงผลเสียงที่สร้างจังหวะกระตุ้นผู้ใช้ให้รู้สึกกระฉับกระเฉง เช่น เพลงร็อก หรือแนวเพลง EDM เป็นต้น ส่วนเสียงกลาง และเสียงแหลมไม่โดดจนเกินไป อยู่ในระดับกลางๆ แต่ถือว่ามีรายละเอียดเสียงที่ดีกว่าหูฟัง Bluetooth โดยทั่วไป อีกทั้งตัวหูฟังยังให้มิติของเสียงที่ค่อนข้างกว้าง สร้างบรรยากาศการฟังเพลงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ หูฟัง Jabees BSport ยังใช้งานเทคโนโลยี รับ-ส่ง ข้อมูลเสียงแบบ APTX Technology ที่สามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลเสียงที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานร่วมกับไฟล์เพลงแบบ Lossless เพื่อฟังรายละเอียดของเสียงที่ครบถ้วน

แม้ว่าหูฟัง Jabees BSport จะถูกออกแบบมาให้มีจุดเด่นเพื่อใช้งานร่วมกับการออกกำลังกายเป็นหลัก แต่สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันก็ถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยขนาดที่กะทัดรัด พกพาสะดวก และใช้งานง่าย รวมไปถึงคุณภาพที่จัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก ส่งผลให้หูฟัง Jabees BSport ถือเป็นหูฟังออกกำลังกายอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ และไม่ควรมองข้าม โดยหูฟัง Jabees BSport วางจำหน่ายในราคา 1,490 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สาย (Bluetooth) ที่มีคุณภาพ และราคาไม่สูงนักมาใช้งาน

หากท่านใดสนใจจับจองเป็นเจ้าของหูฟัง Jabees BSport สามารถติดต่อสอบถาม และสั่งซื้อได้จาก 3 ช่องทาง ดังนี้

- www.jabeesbsport.com

- https://www.facebook.com/jabeesbsport

- LINE ID : @bsportthailand

สำหรับวันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันได้ใหม่ในบทความรีวิวครั้งต่อไป สวัสดีครับ

นำเสนอบทความโดย : Thaimobilecenter.com