ท่านผู้ใช้รถยนต์ทุกท่านคงจะเคยเจอกับประสบการณ์ในทำนองนี้กันมาแล้วนะครับ
ที่วันดีคืนดีเกิดอยากจะทราบว่ารถยนต์คันโปรดของเราถึงเวลาที่ต้องเอาไปเข้าศูนย์
หรือต้องเปลี่ยนอะไหล่แล้วหรือยัง, เติมน้ำมันครั้งล่าสุดไปเมื่อไหร่
และเติมไปกี่ลิตร, มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันมากน้อยขนาดไหน, จอดเอาไว้ตรงจุดไหนในลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่เป็นร้อยๆ
พันๆ คัน, ไม่ทราบว่าจะเดินทางไปยังสถานที่ ที่ต้องการให้ถูกต้องได้อย่างไร
หรือหากเกิดรถเสียกลางทาง จะติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง?

ทางออกของปัญหาต่างๆ ข้างต้น หากเป็นวิธีการเดิมๆ ที่มักจะทำกันโดยทั่วไป
ก็อาจจะต้องเสียเวลา เสียค่าโทรศัพท์ เพื่อโทรเช็คกับศูนย์, เสียเวลาเดินหารถยนต์ของเราที่จอดเอาไว้
หรืออาจจะต้องรอให้เหลือรถของเราเป็นคันสุดท้าย, แวะถามทางกับชาวบ้านในละแวกนั้น
และหากรถเสียก็อาจจะต้องโทรถามเพื่อน ซึ่งบางทีอาจจะไม่ว่างมารับสายด่วนของเราก็เป็นได้
ยิ่งถ้าเป็นเวลากลางคืนก็ยิ่งน่าหวั่นใจไม่น้อยเลยนะครับ!

แต่ก็นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ขับรถอย่างเราๆ ที่บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง
ฮอนด้า (Honda) ได้เล็งเห็นจุดนี้มานานแล้ว จึงได้ซุ่มวิจัย
และพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อนำมาใช้ในงานนี้โดยเฉพาะ ออกมาพร้อมกันถึง 3 แอปพลิเคชัน ได้แก่ HondaLink, HondaLink Navigation และ Honda Roadside Assistance โดยเป้าหมายของทาง
ฮอนด้า ที่พัฒนาแอปพลิเคชัน HondaLink นี้ขึ้นมา ก็เพื่อให้ผู้ขับรถ
กับรถยนต์ เชื่อมโยงใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าตัวของผู้ขับจะต้องไปใกล้ชิดติดกับรถยนต์ขนาดนั้นนะครับ
เพราะแค่ติดตั้งแอปพลิเคชันทั้ง 3 ตัวนี้ลงบน สมาร์ทโฟน
ของผู้ขับ ก็เสมือนได้เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์แล้วครับ

โดยจุดเด่นของแอปพลิเคชัน HondaLink
ก็คือการเข้าถึงทุกข้อมูลสำคัญของรถยนต์
แล้วนำมาตรวจสอบได้ตลอดเวลาบนสมาร์ทโฟน ส่วนจุดเด่นของแอปพลิเคชั่น HondaLink
Navigation ก็คือการใช้งานเป็นแผนที่ และระบบนำทาง เพื่อการเดินทางไปยังทุกที่แบบไม่มีหลง
และสุดท้ายจุดเด่นของแอปพลิเคชั่น Honda Roadside Assistance ก็คือบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยยังมีอีกมากมาย ทุกท่านสามารถเข้าไปติตดามต่อกันได้ในคลิปวีดีโอรีวิวที่ทีมงานของเราออกไปทดสอบ
และนำมาให้ชมกันในวันนี้นั่นเองครับ

สำหรับแอปพลิเคชัน HondaLink และ Honda Roadside
Assistance สามารถดาวน์โหลด
และติดตั้งใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS และ
Android แต่สำหรับแอปพลิเคชัน HondaLink
Navigation จะสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS
เท่านั้น ส่วนในฝั่งของสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ
Windows Phone จะยังไม่รองรับทั้ง 3 แอพพลิเคชั่นในขณะนี้
ซึ่งในอนาคตก็ต้องมาลุ้นกันต่อว่าทาง ฮอนด้า จะมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อมาอุดช่องว่างเหล่านี้อีกหรือไม่

และในวันนี้ทีมงานเว็บไซต์ไทยโมบายเซ็นเตอร์ของเราก็มีโอกาสได้รับแอปพลิเคชันทั้ง
3 ตัวนี้มาติดตั้ง และทดสอบบนเครื่อง iPhone
5S พร้อมกับรถยนต์ Honda City โฉมใหม่หมดจดอย่าง
All New Honda City 2014 ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีออปชั่นจัดเต็ม
ในราคาที่จับต้องได้ และที่สำคัญก็คือ Honda City 2014 คันที่เราได้รับมาทดสอบนี้
เป็นคันที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว และช่องเชื่อมต่อต่างๆ ที่รองรับกับการใช้งานแอปพลิเคชั่น HondaLink
ทั้ง 3 แอพพลิเคชันนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวครับ (รถยนต์อีกรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อใช้งานกับแอพพลิเคชั่น HondaLink
ได้อย่างสมบูรณ์แบบคือ Honda Civic รุ่นปรับโฉมใหม่ของปี
2014) 
มาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่าผู้ใช้งานรถยนต์ฮอนด้าทุกท่านคงจะเกิดความสนใจในตัวของแอปพลิเคชัน
HondaLink,
HondaLink Navigation และ Honda Roadside Assistance กันแล้วใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า แวะไปติดตามเรื่องราวการเดินทางของทีมงาน
พร้อมทดสอบการใช้งานแอปพลิเคชัน HondaLink กันได้เลยครับ
ทดสอบ และแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชัน HondaLink คลิปวีดีโอรีวิว
ทดสอบ และแนะนำการใช้งานแอปพลิเคชัน HondaLink
Thaimobilecenter.com
วันที่ : 18/08/57
|