ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม เคล็ดลับมือถือ >> เคล็บลับการเพิ่มความแรงของสัญญาณมือถือ สัญญาณอ่อน สัญญาณหาย จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!


เคล็บลับการเพิ่มความแรงของสัญญาณมือถือ สัญญาณอ่อน สัญญาณหาย จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป!



 

ทุกวันนี้ เมื่อสมาร์ทโฟนเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเราทุกคน ทำให้การสื่อสาร และการติดต่อผู้อื่นเป็นไปด้วยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่หลายๆ คนคงเคยประสบปัญหาโทรศัพท์มือถือไม่มีสัญญาณ หรือสัญญาณไม่ดี จนทำให้การคุยโทรศัพท์เต็มไปด้วยความยากลำบาก และอาจสื่อสารกันไม่รู้เรื่องจนนำไปสู่ความเข้าใจที่ผิดพลาดได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องส่วนตัว, ธุรกิจ หรือเรื่องที่สำคัญมากๆ

วันนี้ทีมงาน Thaimobilecenter จึงได้ทำการรวบรวมวิธีตรวจสอบ และเคล็ดลับการเพิ่มความแรงของสัญญาณมือถือมาให้ผู้อ่านทุกท่านได้นำไปปรับใช้ เพื่อให้การสื่อสารของเราเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด จะมีวิธีการใดบ้างนั้นไปติดตามชมพร้อมกันได้เลยครับ

 

1. ค่าสัญญาณระดับไหนจึงจะถือว่าดี?
 


หน่วยแสดงค่าสัญญาณคือ dBm ย่อมาจาก decibel milliwatts โดยระดับสัญญาณมาตรฐานที่สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นนั้นอยู่ที่ประมาณ -70 dBm หากมากกว่าก็ยิ่งดี แต่ถ้าหากต่ำกว่าแสดงว่าพื้นที่บริเวณนั้นสัญญาณอ่อน และถ้าต่ำกว่า -100 dBm แสดงว่าพื้นที่บริเวณนั้นไม่มีสัญญาณ (Dead Zone)

ความแตกต่างของระดับสัญญาณแม้เพียงนิดเดียวก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากสัญญาณโทรศัพท์ของคุณอยู่ที่ -105 dBm และคุณสามารถหาพื้นที่ที่ระดับสัญญาณเพิ่มขึ้นมาเป็น -95 dBm ได้ นั่นหมายความว่าสัญญาณของคุณจะดีขึ้นกว่าเดิมถึง 10 เท่า! หรือถ้าหากสัญญาณเดิมอยู่ที่ -105 dBm และสามารถเพิ่มขึ้นเป็น -75 dBm ได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าสัญญาณจะแรงขึ้นเพียงแค่ 30 เท่า แต่สัญญาณโทรศัพท์ของคุณจะแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 1000 เท่า! เลยทีเดียว

 

2. ตรวจสอบความแรงของสัญญาณโทรศัพท์
 


คุณสามารถตรวจสอบระดับความแรงของสัญญาณโทรศัพท์แบบที่เป็นตัวเลขได้ง่ายๆ โดยถ้าหากคุณใช้ iPhone ให้กดหมายเลข *3001#12345#* แล้วกดโทรออก จะปรากฏหน้าจอ Field Test ขึ้นมา และตรงมุมซ้ายบนที่เคยเป็นแถบแสดงระดับสัญญาณโทรศัพท์ จะกลายเป็นตัวเลขบอกระดับสัญญาณแทน
 


ถ้าหากคุณใช้สมาร์ทโฟนระบบ Android สามารถตรวจสอบระดับสัญญาณได้โดยการกดเข้าไปที่ Settings > About Phone > Status และดูค่าสัญญาณที่ Signal Strength

 

3. OpenSignal แอปพลิเคชันที่ช่วยตรวจสอบแหล่งที่มาของสัญญาณ


คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ใน Play Store (หรือคลิกที่นี่) เมื่อดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้วให้กดเข้าแอปพลิเคชัน และกดไปที่รูปเสาสัญญาณด้านซ้าย จากนั้นจะเข้าสู่หน้าจอแผนที่ที่แสดงเสาสัญญาณในบริเวณนั้นๆ โดยจะปรากฏเส้นเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนของคุณกับเสาสัญญาณเข้าด้วยกัน เพื่อแสดงว่าสมาร์ทโฟนของคุณกำลังรับสัญญาณจากเสาต้นนี้

 

4. เพิ่มความแรงด้วยการ Reboot สัญญาณใหม่

ถ้าหากว่าสมาร์ทโฟนของคุณเกิดไม่มีสัญญาณ ทั้งๆ ที่บริเวณนั้นก็ไม่มีอะไรมากีดขวางสัญญาณแม้แต่น้อย ให้คุณลองรีบูทสัญญาณโทรศัพท์ใหม่ด้วยการเปลี่ยนโหมดเป็น Airplane Mode ประมาณ 3 วินาที และกลับมาใช้โหมดปกติ หรือวิธีที่ง่ายกว่านั้นแต่อาจจะเสียเวลากว่านิดหน่อยก็คือ การรีสตาร์ทโทรศัพท์

 

5. แบตเตอรี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สัญญาณแย่
 


ตรวจสอบระดับพลังงานแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนของคุณด้วย เพราะว่าหากแบตเตอรี่ใกล้หมดจะส่งผลถึงการเชื่อมต่อสัญญาณที่ไม่เสถียร และทำให้การคุยโทรศัพท์ของคุณติดๆ ดับๆ ได้ ทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือ ชาร์จแบตเตอรี่ให้มีพลังงานมากขึ้นก่อนที่จะใช้งานต่อไป

 

6. การเปิดหน้าต่างช่วยคุณได้อย่างคาดไม่ถึง
 

การใช้โทรศัพท์ในยานพาหนะเช่น รถยนต์ ก็อาจประสบปัญหานี้ได้เช่นกัน เพราะรถยนต์ก็เปรียบเสมือนกล่องเหล็กใบใหญ่ๆ ที่อาจปิดกั้นสัญญาณโทรศัพท์ เพราะฉะนั้นหากต้องใช้โทรศัพท์จริงๆ ลองลดกระจกลงสักนิด สัญญาณจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแต่ในยานพาหนะเท่านั้น ถ้าอยู่ในอาคารบางแห่ง โทรศัพท์อาจจะไม่มีสัญญาณก็เป็นได้ เพราะเหตุว่าโครงสร้างของอาคารนั้นๆ อาจมีวัสดุที่ปิดกั้นสัญญาณโทรศัพท์ เช่น อะลูมิเนียม หรือโลหะต่างๆ ดังนั้นทางแก้ที่ง่ายที่สุดก็คือการเปิดหน้าต่างให้มีช่องทางที่สัญญาณโทรศัพท์สามารถผ่านเข้ามาได้

 

7. สัญญาณ Wi-Fi ก็แรงไม่แพ้สัญญาณโทรศัพท์
 


ถ้าคุณทำทุกวิธีแล้วยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์แม้แต่น้อย หากแถวนั้นมีจุดบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi Hotspot)  ให้คุณลองเปลี่ยนมาโทรศัพท์ด้วยสัญญาณ Wi-Fi ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น LINE Call, Facebook หรือ Skype รับรองว่าดีกว่าใช้สัญญาณโทรศัพท์แน่นอน

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ข้างต้น ถึงแม้ว่าในปัจจุบันผู้คนในสังคมจะสื่อสารผ่านช่องทางการพิมพ์ หรือคุยแชทกันมากกว่าที่จะโทรศัพท์หากันเหมือนสมัยก่อน แต่ไม่ว่าอย่างไรสัญญาณอินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือก็ยังคงมาจากสัญญาณโทรศัพท์อยู่ดี ทางทีมงาน Thaimobilecenter จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้อ่านคงจะได้รู้ถึงแนวทางใหม่ๆ ในการตรวจสอบ และแก้ปัญหาเวลาที่โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณกันนะครับ แล้วพบกันใหม่กับเคล็ดลับเด็ดๆ ในบทความหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ

 

นำเสนอทิป&ทริคโดย : Thaimobilecenter.com



วันที่ : 7/9/58



  แสดงความคิดเห็นที่นี่
ชื่อผู้โพสต์  (สมาชิกlogin ที่นี่) / สมัครสมาชิก
*
รายละเอียด
*

 
           Tags | More Smiles
ใส่ปี พ.ศ. ปัจจุบัน   ใส่เฉพาะปี พ.ศ. 4 ตัวเท่านั้น  
 


josuke  (Guest)
 
 ความคิดเห็นที่ 3 Quote
ยังไงก็ปิงแดง

 โพสต์เมื่อ 08/08/2019  เวลา 09:05      โหวตให้   โหวตลบ  

DKUB  (Guest)
 
 ความคิดเห็นที่ 2 Quote
พื้นที่ที่อยู่ไม่มีอะไรเลยต้องทำยังไงคับ

 โพสต์เมื่อ 31/12/2018  เวลา 21:48      โหวตให้   โหวตลบ  

(Guest)
 
 ความคิดเห็นที่ 1 Quote
มันมีแบบเป็นเว็บไหม คือผมใช้แอร์การ์ดอะแต่สัญญาณไม่มี

 โพสต์เมื่อ 04/09/2016  เวลา 18:58      โหวตให้   โหวตลบ  













    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com