รีวิว (Review) Samsung Galaxy A7 (2016)
สมาร์ทโฟน A-Series รุ่นอัปเกรด กับฟีเจอร์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม ด้วยหน้าจอ Full HD Super AMOLED 5.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Exynos 7580, แรม 3 GB, กล้อง 13 ล้านพิกเซล (F/1.9) พร้อมระบบกันสั่น OIS, แบตเตอรี่ 3300 mAh และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนดีไซน์สุดพรีเมียมใหม่หมดจดแบบ Metal-Glass Unibody
Review
Date (25-มกราคม-2559)

สำหรับ Samsung Galaxy A7 (2016) สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดของ Samsung Galaxy A7 (2015) รุ่นแรกที่จัดจำหน่ายเมื่อช่วง ต้นปี 2015 ที่ผ่านมา ซึ่ง Samsung Galaxy A7 ได้กระแสตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากตัวเครื่องมีดีไซน์สวย และบางเพียง 6.3 มิลลิเมตร อีกทั้งยังใช้นวัตกรรมการผลิตตัวเครื่องแบบ All-Metal Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทาน ดูมีความพรีเมียมเป็นพิเศษ และแน่นอนว่าในด้านของคุณสมบัติ หรือฟีเจอร์ใช้านก็ไม่เป็นสองรองใคร เรียกได้ว่า แรงครบเครื่องที่สุดที่ในตระกูล A-Series ณ ขณะนั้นอีกด้วย
และเมื่อช่วงปลายปี 2015 ที่ผ่านมาทาง Samsung ก็ได้ทำการเปิดตัว Samsung Galaxy A7 รุ่นใหม่ ประจำปี 2016 ที่มีชื่อว่า Samsung Galaxy A7 (2016) อย่างเป็นทางการ ซึ่ง Samsung Galaxy A7 (2016) ตัวใหม่นี้ได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แทบทุกด้าน โดยดีไซน์ตัวเครื่องจะเป็นแบบ Metal-Glass Unibody ที่ใช้การผสมผสานโลหะ เข้ากับกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 4 สุดแกร่งได้อย่างลงตัว ทำให้ตัวเครื่องดูพรีเมียมหรูหราสวยงามเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2016) ยังได้รับการอัปเกรดคุณสมบัติให้ดีขึ้น และปรับปรุงฟีเจอร์ในหลายๆ จุดจากเดิม ให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
แน่นอนว่าฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้นก็ถือเป็นจุดขายสำคัญของ Samsung Galaxy A7 (2016) ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับบริการ Samsung Pay อย่างเต็มรูปแบบ (บริการชำระเงินบนมือถือผ่าน NFC), กล้องดิจิทัลที่มาพร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS, กล้องด้านหน้า กับด้านหลังมีขนาดรูรับแสงที่กว้างถึงระดับ F/1.9 และเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Battery Charging) บอกได้เลยว่า ฟีเจอร์แต่ละอย่างที่เพิ่มเข้ามาถือว่าเด็ดๆ แทบทั้งสิ้น

่ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นยังคงใหญ่เต็มตา, สีสันสดใส และมีความคมชัดเช่นเดิม โดยเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit Exynos 7580 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB ที่ใหญ่กว่าเดิม, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop) ที่สดใหม่กว่าเดิม
และสำหรับคุณสมบัติในด้านอื่นๆ นั้นก็คือว่าครบเครื่องเลยทีเดียว ทั้งการรองรับการใช้งานร่วมกับระบบเครือข่ายความเร็วสูงแบบ 4G LTE, รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้แบบ NFC และรองรับการใช้งานสองซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว
ส่วนดีไซน์ กับรูปร่างหน้าตาของ Samsung Galaxy A7 (2016) ตัวจริงจะเป็นอย่างไร ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และคุ้มค่า คุ้มราคาหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Samsung Galaxy A7 (2016) พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy A7 (2016) จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D Corning Gorilla Glass 4 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วนได้ดีเป็นพิเศษ โดยตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A7 (2016) จะมีขนาดอยู่ที่ 151.5x74.1x7.3 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 169 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนจะประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ F/1.9, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, เซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และเซ็นเซอร์ Ambient Light ที่ช่วยตรวจวัดระดับแสงในสภาพแวดล้อม และปรับความสว่างของหน้าจอให้โดยอัตโนมัติ

ด้านหน้าส่วนล่างจะมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch panel) ได้แก่ ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮม หรือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มย้อนกลับ


ด้านบนของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการบันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่สอง (nanoSIM)

ด้านล่างของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือส่งผ่านข้อมูล, ลำโพงเสียงภายนอก และไมโครโฟน


ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่หนึ่ง (nanoSIM) กับช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD โดยสามารถรองรับได้สูงสุดที่ขนาด 128 GB ซึ่งทั้งสองช่องนี้แยกตัวออกจากกันอย่างอิสระ จึงช่วยให้การใช้งานมีความคล่องตัว

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

สำหรับตัวเครื่องด้านหลังของ Samsung Galaxy A7 (2016) จะเป็นดีไซน์แบบ Metal-Glass ซึ่งเป็นการผลิตตัวเครื่องจากวัสดุที่เป็นโลหะ และกระจก แบบเดียวกับด้านหน้านั่นเองครับ โดยด้านหลังของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS และมีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ F/1.9 ส่วนแบตเตอรี่จะมีขนาด 3300 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบบ Fast Charging แต่ด้วยดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงทำให้ไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
สำหรับ Samsung Galaxy A7 (2016) จะขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 (Jelly Bean)
 
ซึ่งจะมีหน่วยความจำภายในทั้งหมดขนาด 16 GB และยังสามารถใช้บริการฝากไฟล์ผ่านแอปพลิเคชัน OneDrive ได้ฟรีอีก 100 GB ได้นาน 2 ปี
 
โดยสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ และยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ ด้วย เช่นกัน
 
ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถตั้งค่าหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ใช้งานบ่อยมาไว้ที่หน้าจอโฮสกรีน
 
สามารถเปลี่ยนธีมได้ และยังสามารถเปลี่ยนสัดส่วนของหน้าจอโฮมสกรีนได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ คุณยังสามารถดาวน์โหลดธีมอื่นๆ มาใช้งานได้ผ่าน Theme Store
 
ฟังก์ชันโทรศัพท์ก็สามารถใช้งานได้ง่ายเหมือนเช่นเคย ซึ่งปุ่มตัวเลขจะมีขนาดพอดีกับนิ้วมือ สามารถกดหมายเลขได้อย่างแม่นยำ อีกทั้ง ยังสามารถดูบันทึกการโทรทั้งหมด กับรายชื่อโทรศัพท์ได้อีกด้วย
 
Samsung Galaxy A7 (2016) ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน Smart Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การเคลียร์หน่วยความจำแรม หรือตรวจสอบพื้นที่หน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่ เรียกได้ว่า สะดวกสบายมากๆ และรวมถึงโหมดการประหยัดพลังงานขั้นสูง (Ultra Power Saving) ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2016)
 
นอกจากนี้ แอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพอย่าง S Health ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2016) ด้วยเช่นกัน ซึ่งแอปพลิเคชัน S Health จะเป็นเหมือนเทรนเนอร์ในการออกกำลังกายของคุณได้เป็นอย่างดีแน่นอน
 
มาต่อกันที่แอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายกันบ้าง โดยแอปพลิเคชันภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ ด้วยกัน ได้แก่ แสดงภาพถ่ายแบบแยกอัลบั้ม กับแสดงภาพถ่ายแบบรวมทั้งหมด
 
ในส่วนของการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ก็ถือว่าตอบสนองต่อการใช้งานดีมากๆ แถมแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน และไม่มีอาการหน่วงอีกด้วย
 
นอกจากนี้ คุณยังสามารถจดบันทึกสิ่งต่างๆ ได้ ผ่านแอปพลิเคชัน สมุดบันทึก ไม่ว่าจะเป็น นัดหมายสำคัญ หรือหัวข้อรายงาน เป็นต้น
 
ไม่เพียงเท่านั้น ทาง Samsung ยังได้ติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับเปิดอ่านไฟล์เอกสาร หรือสร้างไฟล์เอกสารของไมโครซอฟต์มาให้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้ง Word, Excel และ PowerPoint เลยทีเดียว
 
สำหรับบริการต่างๆ จากทาง Google เช่น Google Maps หรือ Gmail ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2016) ด้วยเช่นกัน

และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ Samsung Galaxy A7 (2016) มีฟังก์ชัน Multitasking สำหรับเปิดใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก
 
Samsung Galaxy A7 (2016) ยังมีฟังก์ชัน Tab and Pay ให้ใช้งาน ซึ่งเป็นบริการชำระเงินบนมือถือผ่าน NFC นั่นเอง
 
ในส่วนของตัวคีย์บอร์ดบน Samsung Galaxy A7 (2016) จะสามารถเพิ่มภาษาที่ต้องการใช้งานได้มากกว่า 2 ภาษาด้วยกัน และตัวคีย์บอร์ดยังมีลักษณะการวางตัวอักษรแบบเดียวกับคีย์บอร์ดที่ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ บวกกับหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว จึงช่วยให้ง่ายต่อการพิมพ์ข้อความเป็นอย่างมาก
 
อีกหนึ่งความน่าสนใจที่ทาง Samsung ได้เพิ่มเข้ามาบน Samsung Galaxy A7 (2016) คือ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ปุ่มโฮม) ซึ่งจะช่วยป้องกันข้อมูลภายในเครื่องได้ และแน่นอนว่า สามารถเพิ่มลายนิ้วมือของผู้ใช้ได้มากกว่า 1 ลอยนิ้วมืออีกด้วย
 
Samsung Galaxy A7 (2016) ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง โดยคุณสามารถปรับค่ารูปแบบเสียงอีควอไลเซอร์ได้หลายแบบ เช่น Pop หรือ Rock
 
ด้านแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy A7 (2016) ด้วยเช่นกัน แถมยังสามารถบันทึกเสียงวิทยุเอาไว้ฟังในภายหลังได้อีกด้วย

ส่วนทางด้านการเปิดดูไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) Samsung Galaxy A7 (2016) ก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน และด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียด 1920x1080 พิกเซล จึงช่วยให้แสดงผลวิดีโอได้ คมชัด และสมจริง เป็นอย่างมาก

และยังมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งานอีกด้วย
 
Samsung Galaxy A7 (2016) จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit (ชิปเซ็ต Exynos 7580) ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)

ด้วยคุณสมบัติของตัวเครื่องที่ได้รับการอัปเกรดใหม่ จึงทำให้ Samsung Galaxy A7 (2016) สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วงให้รู้สึกรำคาญอีกด้วย
 
และเมื่อนำ Samsung Galaxy A7 (2016) มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Banchmark จะได้คะแนนอยู่ที่ 40804 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Banchmark จะได้คะแนนอยู่ที่ 2263 คะแนน

โดย Samsung Galaxy A7 (2016) จะรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
 
และยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Galaxy Apps และ Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
ในด้านของฟีเจอร์กล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพก็จะใช้งานได้ง่ายเหมือนเช่นเคย เนื่องจากมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งาน แถมยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายอีกด้วย
 
ซึ่งคุณยังสามารถปรับค่าได้ตามความต้องการอีกด้วย ได้แก่ สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 13 ล้านพิกเซล, สามารถปรับค่าการใช้งานไฟแฟลช LED ได้ เช่น เปิดใช้งาน, ปิดการใช้งาน หรือเปิดใช้งานแบบอัตโนมัติ
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 10 วินาที และยังมีเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพในรูปแบบอื่นๆ อีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอ ที่สามารถปรับค่าได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p), สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันต่างๆ ได้ เช่น ตารางเก้าช่อง, การระบุสถานที่บนภาพถ่าพ, การตรวจสอบภาพหลังจากถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อย, กดปุ่มโฮมสองครั้งเพื่อเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพ และการสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง
 
สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง ได้ 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ และซูม อีกทั้งยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้อีกด้วย
 
ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็จะมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันสำหรับใช้งานไว้เช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง ซึ่งจะมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Smart Beauty), โหมดถ่ายภาพแบบกลุ่ม (Wide Selfie) และโหมดถ่ายภาพกลางคืน เป็นต้น
 
และยังสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 5 ล้านพิกเซล, สามารถปรับค่าการใช้งานโหมด Smart Beauty ได้ 3 อย่าง ได้แก่ ผิวเนียน, ใบหน้าเรียว และตาโต โดยค่าต่างๆ สามารถปรับระดับได้สูดสุดที่ระดับ 8
 
สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 10 วินาที และยังมีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานแบบอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอ ซึ่งสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ระดับ Full HD (1080p), สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ได้ เช่น Palm Selfie, ตารางเก้าช่อง, การระบุสถานที่บนภาพถ่าย หรือการสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง เป็นต้น
 
สามารถเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง ได้ 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ถ่ายภาพ, บันทึกวิดีโอ และซูม อีกทั้งยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A7 (2016)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ผ่านโหมด Smart Beauty ของ Samsung Galaxy A7 (2016)
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 0
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 4
 
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty ปรับค่าระดับ 8
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A7 (2016)

นับตั้งแต่ที่ได้สัมผัสตัวเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งาน Samsung Galaxy A7 (2016) ความรู้สึกแรก ต้องขอบอกเลยว่า ประทับใจดีไซน์แบบ Metal-Glass ที่เป็นการผสมผสานโลหะ เข้ากับกระจก บน Samsung Galaxy A7 (2016) เป็นอย่างมาก เพราะว่าทำให้ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy A7 (2016) ดูพรีเมี่ยม สวย และดูพรีเมี่ยมเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีความโค้งมน และบางเพียง 7.3 มิลลิเมตร บวกกับน้ำหนัก 172 กรัม เรียกได้ว่า กำลังเหมาะมือ สามารถถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว แม้ว่าจะเป็นมือเล็กๆ ของผู้หญิงก็ตาม
สำหรับหน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core 64-bit (ชิปเซ็ต Exynos 7580) ก็ช่วยให้ Samsung Galaxy A7 (2016) สามารถประมวลผลการใช้งานต่างๆ ได้รวดเร็วทันใจ แล้วถ้าทำงานร่วมกับคุณสมบัติตัวเครื่องที่อัปเกรดเข้ามาใหม่อย่าง หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB, หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB และระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop) ยิ่งตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างลื่นไหล และไม่มีอาการเครื่องค้างให้พบเจอเลยก็ว่าได้
ส่วนทางด้านฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่บน Samsung Galaxy A7 (2016) อย่าง Samsung Pay ที่สามารถชำระเงินบนมือถือผ่าน NFC ได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ให้ยุ่งยากอีกต่อไป ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วก็จะช่วยในเรื่องของการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลภายในเครื่องได้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากๆ ในกรณีที่มีคนหยิบมือถือของคุณไปเล่น หรือมือถือถูกขโมยไปนั่นเอง บอกได้เลยว่า ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะช่วยให้การชีวิตของคุณดูเป็นเรื่องง่ายๆ ไปในทันที
อีกหนึ่งจุดขายสำคัญของ Samsung Galaxy A7 (2016) คือ กล้องดิจิทัลที่ทางซัมซุงได้ใส่ระบบกันสั่น OIS ให้กับกล้องดิจิทัลด้านหลังที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กับขนาดรูรับแสง F/1.9 จึงทำให้ Samsung Galaxy A7 (2016) สามารถถ่ายภาพได้ทุกสภาพแสง ส่วนภาพที่ได้ก็มีรายละเอียดคมชัด สมจริง แม้จะเป็นการถ่ายภาพตอนกลางคืนก็ตาม และที่ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่ คือ กล้องดิจิทัลกล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง F/1.9 พร้อมโหมดถ่ายภาพ Smart Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวนวลได้ถึง 8 ระดับ ซึ่งคุณสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน หรือกลางคืน รับรองเลยว่าภาพถ่ายที่ได้จะต้องทำให้เพื่อนๆ ของคุณต้องอิจฉา และต้องมาลุมล้อมขอถ่ายภาพจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของคุณอย่างแน่นอน
หากกล่าวโดยสรุปแล้ว Samsung Galaxy A7 (2016) จะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่รวบรวมจุดเด่นดีๆ เอาไว้ในเครื่องเดียว ทั้งในเรื่องของดีไซน์, คุณสมบัติของตัวเครื่องที่สามารถตอบโจทย์ทุกการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ, ฟีเจอร์เจ๋งๆ ให้เลือกใช้งานหลากหลาย, กล้องถ่ายภาพสวยทั้งกลางวัน กลางคืน แถมยังมีราคาเพียง 15,900 บาท เท่านั้น ซึ่งคุ้มค่าๆ เมื่อเทียบราคากับสิ่งที่อยู่บน Samsung Galaxy A7 (2016) นอกจากนี้ Samsung Galaxy A7 (2016) ยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทั้ง 4G LTE กับ 3G ได้ ส่วนแบตเตอรี่จะมีขนาด 3300 mAh และมาพร้อมกับระบบการชาร์จแบบ Fast Charging จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะใช้งานหนักหน่วงขนาดไหนก็ตาม

และเพื่อให้ผู้ซื้อได้สัมผัสกับความคุ้มค่ามากกว่าใคร ทาง Samsung ได้เซอร์ไพรส์ลูกค้าในประเทศไทย ด้วยการแถมฟรี!! การ์ดหน่วยความจำประสิทธิภาพสูงอย่าง Samsung EVO+ microSDHC ขนาด 32GB มาให้ในชุดจำหน่ายมาตรฐาน โดยการ์ดหน่วยความจำนี้มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 80 MB/s (Class 10 UHS-1) ซึ่งรองรับกับการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากรวมกับหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 16GB แล้ว ก็เท่ากับว่าผู้ซื้อ Galaxy A5 (2016) และ Galaxy A7 (2016) จะมีหน่วยความจำให้เก็บบันทึกข้อมูลรวมถึง 48GB เลยทีเดียว ซึ่งนับเป็นสิทธิพิเศษที่มีให้เฉพาะลูกค้าซัมซุงในประเทศไทยเท่านั้น

สำหรับท่านใดที่สนใจ Samsung Galaxy A7 (2016) ก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Samsung Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ โดยในช่วงแรกจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, ขาว และทอง ส่วนสีชมพู คาดว่าจะมีวางจำหน่ายตามมาในภายหลัง และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะมาทันมหกรรมมือถือครั้งใหญ่ประจำต้นปีอย่าง Thailand Mobile Expo 2016 ระหว่างวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งคงต้องติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวกันอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy A7 (2016) มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกับ พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A7 (2016)
- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Metal-Glass Unibody ซึ่งเป็นการผสมผสานโลหะ เข้ากับกระจก 2.5D Gorilla Glass 4 ได้อย่างลงตัว
- กระจกแบบ Corning Gorilla Glass 4 ที่ด้านหน้า และด้านหลังของตัวเครื่อง ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม และเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแรงกระแทก หรือรอยขีดข่วนได้ดี
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ปุ่มโฮม (ระบบสัมผัส) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 Pixels กว้าง 5.5 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core 64-bit Exynos 7580 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1.1 (Lollipop)
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, ไฟแฟลชแบบ LED, ขนาดรูรับแสง F/1.9 และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง F/1.9 และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- แบตเตอรี่ Li-Ion 3300 mAh พร้อมระบบการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง (Fast Battery Charging)
- โหมด Ultra Power Saving สำหรับการประหยัดพลังงาน (ล็อกการใช้งานบางฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น และเปลี่ยนสีของหน้าจอเป็น ขาว-ดำ)
- แอปพลิเคชัน Samsung Smart Manager สำหรับการจัดการกับแบตเตอรี่, หน่วยความจำภายใน, หน่วยความจำแรม และระบบความปลอดภัย
- รองรับการใช้งานบริการ Samsung Pay
- รองรับการเปลี่ยนธีม (Themes) พร้อมทั้งสามารถดาวน์โหลดธีมมาใช้งานเพิ่มเติมได้มากมาย
- วิทยุ FM Stereo ในตัว พร้อมฟังก์ชันบันทึกเสียงจากรายการวิทยุ
- ราคา 15,900 บาท พร้อมแถมฟรีการ์ดหน่วยความจำ Samsung EVO+ microSDHC (Class 10 UHS-1) ขนาด 32GB
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A7 (2016)
- ด้วยดีไซน์แบบ Metal-Glass ที่เป็นการผสมผสานโลหะ เข้ากับกระจก ทำให้ตัวเครื่องเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย
- ไม่สามารถถอดฝาหลัง เพื่อถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง
- หน่วยความจำภายในมีขนาดเพียงแค่ 16 GB ซึ่งถือว่าไม่มากเท่าที่ควร หากเทียบกับราคาจำหน่ายระดับนี้
- ตัวเครื่องมีความหนา และหนักมากกว่า Galaxy A7 รุ่นเดิม
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง และข้อมูลอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy A7 (2016)
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) และข้อมูลข่าวสารล่าสุดของ Samsung Galaxy A7 (2016) ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติของ Samsung Galaxy A7 (2016)
สรุปข้อมูล และข่าวอัปเดตล่าสุดของ Samsung Galaxy A7 (2016)
title="Sony Xperia ZL Specification">

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|