รีวิว (Review) Moto X4

สมาร์ทโฟน Pure Android กล้องคู่ 12+8 ล้านพิกเซล บนบนบอดี้ Metal-Glass กันน้ำสุดพรีเมียมเงางาม กับฟีเจอร์จัดเต็มทุกการใช้งาน ทั้งจอ LTPS IPS Full HD ขนาด 5.2 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 630, RAM 4GB, ROM 64GB, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, ไมโครโฟน 3 ตัว, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และแบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 3000 mAh ในราคา 14,990 บาท

Review Date (8-พฤศจิกายน-2560)

สำหรับ Moto X4 นั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 2560  ภายในงาน IFA ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี ซึ่ง Moto X4 ก็ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่มีความสวยงามลงตัว, มาพร้อมกล้องภ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) และคุณสมบัติตัวเครื่องที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้ครบทุกรูปแบบ และ Moto X4 ก็ได้อยู่กับทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางทีมงานของเราก็ไม่พลาดที่จะนำมารีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกัน

สำหรับ Moto X4 นั้นมีจุดขายที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Metal-Glass กับ Diamond-Cut Edges พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 3D และมีชั้นฟิล์มอยู่ด้านใน ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความเงางาม สวยหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ, รองรับฟีเจอร์ป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่นได้ ตามมาตรฐาน IP68 โดยสามารถกันน้ำได้ลึกที่ระดับ 1.5 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที, หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass, ไมโครโฟนถึง 3 ตัว, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มหน่วยการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้, รองรับสายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง TurboPower Charging

นอกจากนี้ ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นเป็นแบบคู่ (Dual-Camera) มีความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-CCT (Color Correlated Temperature) โดยกล้องตัวแรกจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูดสุง f/2.0 ส่วนกล้องตัวที่สองจะเป็นแบบ Ultra Wide-Angle  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ที่มีมุมมองกว้าง 120 องศา พร้อมรูรับแสงกว้างสุงสุด f/2.2 และระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection AutoFocus) ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน, รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0, ไฟแฟลช Selfie Flash

ส่วนคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 630 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 508, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB, รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 2 TB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat (Pure Android) ที่พร้อมอัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo ได้ในอนาคต

และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Moto X4 นั้นมีความน่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์, กล้องถ่ายภาพ หรือคุณสมบัติตัวเครื่อง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และเปิดราคาวางจำหน่ายเพียง 14,990 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร, การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, กล้องดิจิทัลจะถ่ายภาพได้สวยคมชัดเพียงใด, มีฟีเจอร์อะไรให้ใช้งานกันบ้าง และจะคุ้มค่ากับราคาค่าตัวหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านไปรับชมรีวิว Moto X4 พร้อมกันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Moto X4 มาในแพ็กเกจสีฟ้าที่ดูเรียบหรู

ซึ่งภายในกล่องก็มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด, คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกันสินค้า

สายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C, หูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และ Adapter ที่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงได้

โดย Moto X4 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ LTPS IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 148.35x73.4x7.99 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 163 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน, รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0, ไฟแฟลช Selfie Flash พร้อมรองรับโหมด Adaptive Low Light สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อย, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, สัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ, ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา พร้อมทำหน้าที่เป็นลำโพงเสียงภายนอก, ระบบ Accelerometer Sensor สำหรับช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีไมโครโฟน, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะโทรศัพท์, บันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ และถาดสำหรับใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด แต่ในช่องที่ 2 จำเป็นต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ดที่ 2 หรือเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD (เพิ่มได้สูงสุดถึง 2 TB) นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยี 3CA (3 Carrier Aggregation) ที่สามารถรวมคลื่นความถี่ได้ทั้งหมด 3 คลื่น และช่วยเพิ่มความเร็วของอินเทอร์เน็ตทั้ง 3G และ 4G ให้มากยิ่งขึ้น

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องเชื่อมต่อกับสาย USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีไฟแฟลช LED แบบคู่ หรือ Dual-CCT (Color Correlated Temperature) พร้อมรองรับฟังก์ชัน Depth Detection กับ Depth Effects สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และไมโครโฟนตัวที่ 3 สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะโทรศัพท์, บันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ

โดยกล้องตัวแรกจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูดสุง f/2.0 ส่วนกล้องตัวที่สองจะเป็นแบบ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ที่มีมุมมองกว้าง 120 องศา พร้อมรูรับแสงกว้างสุงสุด f/2.2 และระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection AutoFocus)

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Meltal-Glass กับ Diamond-Cut Edges พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 3D และมีชั้นฟิล์มอยู่ด้านใน ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความเงางาม สวยหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ อีกทั้งรองรับฟีเจอร์ป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่นได้ ตามมาตรฐาน IP68 โดยสามารถกันน้ำได้ลึกที่ระดับ 1.5 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที และภายในตัวเครื่องยังได้บรรจุแบตเตอรี่เอาไว้ถึง 3000 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ TurboPower

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Moto X4 นั้นขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 7.1.1 Nougat (Pure Android) พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้

นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และยังมีฟังก์ชัน Tap and Pay ให้ใช้งาน

มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนต่างๆ มาให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, GPS หรือบลูทูธ

สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน

ส่วนทางด้านบริการต่างๆ จากทาง Google ก็มีให้ใช้งานบน Moto X4 ด้วยเช่นกัน

สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างครบถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น Moto X4 ยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ Dual Band ซึ่งช่วยให้ Moto X4 รองรับสัญญาณคลื่นความถี่ระดับ 5 GHz เพิ่มมาอีกหนึ่งคลื่น โดยคลื่นความถี่แบบ 5 GHz จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีการปล่อยสัญญาณที่แรง และกว้างกว่าคลื่น 2.4 GHz

นอกจากนี้ Moto X4 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่น่าสนใจอย่าง Moto Actions, Moto Key, Moto Voice และ Moto Display โดยฟังก์ชัน Moto Actions คือ การสั่งงานด้วยท่าทาง โดยผู้ใช้งานสามารถสั่งงานด้วยท่าทางต่างๆ ได้ เช่น กวาดนิ้วเพื่อย่อขนาดหน้าจอ, เขย่าเครื่องสองครั้งเพื่อเปิดไฟฉาย, บิดเครื่องสองครั้งเพื่อเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ, พลิกคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียง หรือปิดการแจ้งเตือนต่างๆ หรือการยกเครื่องเพื่อปิดเสียง

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Moto Key ซึ่งถือเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามา โดยมีความสามารถให้ผู้ใช้มีความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การเข้าถึงแอปพลิเคชัน, การเข้าใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ หรือปลดล็อกหน้าของโน๊ตบุ๊ค หรือคอมพิวพเตอร์ PC ของคุณด้วยการสแกนลายนิ้วมือ สำหรับฟังก์ชัน Moto Voice คือ การสั่งงานด้วยเสียงโดยไม่ต้องสัมผัสตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การค้นหาสิ่งที่ต้องการผ่าน Google Search หรือการสั่งงานเปิด Facebook ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

และสุดท้าย Moto Display ฟังก์ชันสำหรับแสดงข้อมูล หรือการแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้าจอ Lock Screen ซึ่งฟังก์ชันนี้จะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยมากๆ เรียกได้ว่า ประหยัดพลังงานหายห่วง นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งเวลาเพื่อสั่งงานให้เปิดใช้งานลดแสงสีฟ้าของหน้าจอตามเวลาที่กำหนดได้เช่นกัน

พร้อมทั้งสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Moto X4 จะใช้งานเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) ที่ติดตั้งอยู่ด้านล่างปุ่มโฮม ซึ่งผู้ใช้สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลุกการทำงานของเครื่องขณะที่เครื่องอยู่ในโหมดสลีปได้ทันที

มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และสามารถปรับอีควอไลเซอร์ ซึ่งสามารถปรับให้เหมาะกับการใช้งานได้ทั้งแบบลำโพงเสียงภายนอก และแบบหูฟัง

และมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุให้ใช้งาน พร้อมทั้งสามารถบันทึกเสียงรายการ หรือฟังเพลงที่ชื่นชอบเอาไว้ฟังในภายหลังได้อีกด้วย

สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น

สำหรับ Moto X4 ก็มาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องดังต่อไปนี้ ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 630 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 508, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat

และเมื่อนำ Moto X4 มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 70327 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 849 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single และ 4060 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 10883 คะแนน

ด้วยคุณสมบัติตัวเครื่องที่จัดอยู่ในระดับกลาง จึงทำให้ Moto X4 นั้นสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น และไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ

อีกทั้งยังรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันมากถึง 10 จุด

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพของ Moto X4 นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ได้แก่ ฟังก์ชัน HDR, ไฟแฟลช LED หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ

นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพแบบมีเอฟเฟกต์ และโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ, โหมดถ่ายภาพขาว-ดำ และโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า

ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้ยังสามารถสลับไปใช้เลนส์ Wide เพื่อให้ได้มุมภาพที่กว้างขึ้นได้ เพียงแค่เลือกไอคอนภาพวิวด้านซ้ายของจอ

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าเพื่อใช่เพิ่มเติมได้อีกหลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพที่สามารถเลือกได้สูงสุดที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ 4K UHD (3840x2160 พิกเซล)

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน การจดจำวัตถุได้อีกด้วย

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มี Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง อีกทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย เช่น ฟังก์ชัน HDR ไฟแฟลช LED และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพหน้าสวย, โหมดถ่ายภาพโปร หรือโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า

สำหรับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้ 2 แบบ ได้แก่ การปรับค่าเพื่อถ่ายภาพแบบอัตโนมัติ กับแบบเลือกระดับผิวเนียนตามความต้องการ

สำหรับโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลากหลาย เช่น ไวท์บาลานซ์ หรือ ISO

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายอย่างด้วยกัน  เช่น การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ ซึ่งสามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 16 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกความละเอียด 4 ล้านพิกเซล เพื่อถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อยได้ และสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p) นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p)

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน การจดจำวัตถุได้อีกด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล ของ Moto X4

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน HDR

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน HDR

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพขาว-ดำ Selective Black & White

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพขาว-ดำ Selective Black & White

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอระดับ 4

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอระดับ 7

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอระดับ 4

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอระดับ 7

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ Wide เพื่อให้ได้มุมภาพที่กว้างขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16  ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Moto X4

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าแบบอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับระดับกลาง

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับสูงสุด

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืนด้วยความละเอียด 4 ล้านพิกเซล (Adaptive Low Light Mode)

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 4 ล้านพิกเซล (Adaptive Low Light Mode) พร้อมเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพหน้าสวยระดับกลาง

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 4 ล้านพิกเซล (Adaptive Low Light Mode) พร้อมเปิดใช้งานโหมดถ่ายภาพหน้าสวยระดับสูงสุด

สรุปผลการทดสอบของ Moto X4

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ใหม่ล่าสุด พร้อมดีไซน์พรีเมียมสุดลงตัว และคุณสมบัติครบเครื่องทุกการใช้งานอย่าง Moto X4 และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก็ต้องขอบอกเลยว่า Moto X4 นั้นมีจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องของการถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ที่มีความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-CCT (Color Correlated Temperature) นั้นตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งจะเห็นได้จากภาพถ่ายตัวอย่างด้านบนที่ผ่านมาที่มีความคมชัด สีสันสดใสสมจริง อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพขาว-ดำ Selective Black & White หรือโหมดถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพแบบใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ได้อีกด้วย

ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน, รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0, ไฟแฟลช Selfie Flash ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้น่าประทับใจไม่แพ้กัน อีกทั้งยังทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังสามารถเลือกความละเอียดเป็น 4 ล้านพิกเซล (Adaptive Low Light Mode) เพื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ก็ยังมีความคมชัด และสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ดีใยระดับที่น่าพอใจ

และนอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพแล้ว ทางด้านออกแบบดีไซน์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยตัวเครื่องของ Moto X4 นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Meltal-Glass กับ Diamond-Cut Edges พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 3D และมีชั้นฟิล์มอยู่ด้านใน ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความเงางาม สวยหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ยังมีความสามารถในการป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68 โดยสามารถกันน้ำได้ลึกที่ระดับ 1.5 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาทีอีกด้วย

สำหรับคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัวเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ LTPS IPS LCD ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass, ไมโครโฟนถึง 3 ตัว, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มหน่วยการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้, รองรับสายเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง TurboPower charging

ในส่วนของคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็ตอบโจทย์ต่อใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 630 ซึ่งมีความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 508, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB รองรับหน่วยความจำเสริมแบบ microSD และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat ด้วยความที่ Moto X4 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนแบบ Pure Android ซึ่งด้วยการที่เป็นสมาร์ทโฟนในโครงการ Android One จึงมั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะได้รับการอัปเดตเป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดไปอีกอย่างน้อย 2 ปี ดังนั้น Android 8.0 Oreo กับ Android P ที่กำลังจะมาในอนาคตก็จะได้รับอัปเดตด้วยอย่างแน่นอน

ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่า Moto X4 ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานต่างๆ ได้อย่างไหลลื่นจนน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ หรือการชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ก็ใช้งานได้อย่างไหลลื่น และที่พิเศษไปกว่านั้น คือ ในขณะเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็ไม่พบอาการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องอีกด้วย

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Moto X4 น่าจะเหมาะกับผู้ชื่นในการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ซึ่งกำลังมองหาสมาร์ทโฟนกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual-Camera) ที่ถ่ายภาพได้คมชัด พร้อมดีไซน์พรีเมียม สวยหรูดูน่าใช้งาน, รองรับการอัปเดตเวอร์ชัน Android อย่างน้อย 2 ปี และสเปกเครื่องที่สามารถตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในราคาไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่ง Moto X4 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

สำหรับ Moto X4 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤศจิกายน เป็นต้นไป หากท่านใดสนใจก็เตรียมสั่งซื้อได้ที่ Motorola Thailand Official Store ผ่านทางเว็บไซต์ Lazada.com หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ได้แก่ Trueshop, Jaymart, TG Fone, Big C และ Banana IT ในราคาเพียง 14,990 บาท พร้อมแถมฟรี Exclusive case จาก POEM นอกจากนี้ Moto X4 ยังมีโปรโมชั่นร่วมกับทางเครือข่ายทรูมูฟ เอช สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Moto X4 พร้อมสมัครแพ็กเกจ 4G+FUN Unlimited ราคา 599 บาท ขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 2,000 บาท ก็สามารถซื้อ Moto X4 ได้ในราคาพิเศษเพียง 9,990 บาท เท่านั้น!

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Motorola ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Moto X4 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Moto X4

- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Meltal-Glass กับ Diamond-Cut Edges พร้อมครอบทับด้วยกระจกแบบ 3D และมีชั้นฟิล์มอยู่ด้านใน ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความเงางาม สวยหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ
- รองรับฟีเจอร์ป้องกันน้ำ หรือป้องกันฝุ่นได้ ตามมาตรฐาน IP68 โดยสามารถกันน้ำได้ลึกที่ระดับ 1.5 เมตร ในระยะเวลาไม่เกิน 30 นาที
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน
- จอแสดงผลแบบ LTPS IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Adreno 508
- พร้อมครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ฟังก์ชันสำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 630 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat (Pure Android) (อัปเดตเป็น Android 8.0 Oreo ได้ในอนาคต)
  - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 64 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สุงสุดถึง 2 TB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นเป็นแบบคู่ (Dual-Camera) มีความละเอียด 12+8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-CCT (Color Correlated Temperature) โดยกล้องตัวแรกจะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1.4 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างสูดสุง f/2.0 ส่วนกล้องตัวที่สองจะเป็นแบบ Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน ที่มีมุมมองกว้าง 120 องศา พร้อมรูรับแสงกว้างสุงสุด f/2.2 และระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection AutoFocus) และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีเม็ดพิกเซลขนาด 1 ไมครอน, รูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/2.0, ไฟแฟลช Selfie Flash  และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- รองรับเทคโนโลยี 3CA (3 Carrier Aggregation) ที่สามารถรวมคลื่นความถี่ได้ทั้งหมด 3 คลื่น และช่วยเพิ่มความเร็วของอินเทอร์เน็ตทั้ง 3G และ 4G ให้มากยิ่งขึ้น
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ NFC และยังมีฟังก์ชัน Tap and Pay
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบ Dual Band ซึ่งช่วยให้ Moto X4 รองรับสัญญาณคลื่นความถี่ระดับ 5 GHz
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง TurboPower charging
- ไมโครโฟน 3 ตัว
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคา 14,990 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Moto X4

- ชิปเซ็ตที่ใช้ (Snapdragon 630) มีประสิทธิภาพในการประมวลผลไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับราคาเดียวกัน
- เนื่องจากตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไม่มีฝาหลัง จึงไม่สามารถถอด หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตนเองได้
- ด้วยดีไซน์แบบ Metal-Glass จึงทำให้เกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ง่าย

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::