รีวิว (Review) Lenovo A7000 Plus
สมาร์ทโฟน 4G สุดคุ้มรุ่นอัปเกรด กับสเปคที่ดีขึ้น กว่าเดิม กับจอที่คมชัดขึ้น, หน่วยความจำที่เยอะขึ้น, ซีพียูที่เร็วขึ้น และกล้องที่ละเอียดขึ้น ในราคาที่คุ้มค่าโดนใจเช่นเคย
Review
Date (19-ตุลาคม-2558)

ก่อนหน้านี้ถ้าพูดถึงสมาร์ทโฟนราคาประหยัดสุดคุ้ม รุ่นหนึ่งที่หลายท่านคงต้องนึกถึงก็คือ Lenovo A7000 อย่างแน่นอน เพราะ Lenovo A7000 มาพร้อมกับคุณสมบัติของตัวเครื่องที่ครบเครื่องเกินราคา กับค่าตัวเพียงแค่ 5,290 บาท เท่านั้น และแน่นอนว่า Lenovo A7000 ได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ ทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่สวยงาม สเปคเครื่องตอบสนองการใช้งานได้ดี และกล้องถ่ายรูปที่ชัด แต่อย่างไรก็ดี Lenovo A7000 รุ่นเดิม ยังมีส่วนที่ขาดหายไปอยู่บ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของหน่วยความจำภายในที่น้อยไปสักหน่อย คือ มีความจุเพียง 8 GB เท่านั้น และด้วยการใช้งานตามความเป็นจริงแล้วหน่วยความจำขนาด 8 GB นั้น ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้อย่างเพียงพอ ต้องอาศัยการเพิ่มหน่วยความภายนอกแทนนั่นเอง
และแล้วเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาทาง Lenovo ก็ได้ทำการเปิดตัว Lenovo A7000 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นต่อยอดที่ได้รับการพัฒนา และปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีขึ้น ตั้งแต่การพัฒนาหน้าจอให้มีความละเอียดมากขึ้น, กล้องมีความละเอียดสูงขึ้น และหน่วยความจำภายในก็มากขึ้นเป็นขนาด 16 GB เรียกได้ว่า มีความจุเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว แต่แบตเตอรี่ยังคงมีความจุเท่าเดิมคือ 2900 mAh
โดยสรุปแล้ว Lenovo A7000 Plus จะมาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่นครบเครื่องดังนี้คือ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 พิกเซล) (รุ่น A7000 มีความละเอียดเพียงแค่ระดับ HD 720p) พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลแบบ 64-bit True8Core MediaTek MT6752 (ซีพียู Octa-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.7 GHz) หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T760 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB (A7000 มีหน่วยความจำภายในเพียง 8 GB), กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กับรูรับแสงที่กว้างถึงระดับ F/2.0 (A7000 ใช้กล้องความละเอียดเพียงแค่ 8 ล้านพิกเซล) พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED, กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ที่ยังคงมีความสดใหม่
นอกจากนี้ Lenovo A7000 Plus ยังตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้ดีผ่านระบบเสียง Dolby Atmos ที่ติดตัวมา รวมถึงยังรองรับการใช้งานพร้อมกันสองซิมการ์ด และสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้อีกด้วย
แต่ด้วยคุณสมบัติต่างๆ ของ Lenovo A7000 Plus ที่อัปเกรดขึ้นมาจาก A7000 รุ่นเดิม ก็ทำให้ A7000 Plus มีราคาค่าตัวที่เพิ่มขึ้นอีก 1,000 บาท กลายเป็น 6,290 บาท (A7000 รุ่นเดิมมีราคา 5,290 บาท) ด้วยเช่นกัน ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร คุ้มค่าสมราคาหรือไม่ สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีขนาดไหน และมีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจกันบ้าง ขอเชิญทุกท่านไปชมรีวิว Lenovo A7000 Plus พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Lenovo 7000 Plus จะมาในแพ็กเกจรูปทรงสีเหลี่ยมผืนผ้าสีขาวที่ดูสะอาดตา ซึ่งจุดแตกต่างจากกล่อง A7000 รุ่นเดิม ก็มีเพียงแค่คำว่า Plus ที่เพิ่มเข้ามาเท่านั้น

สำหรับเครื่อง Lenovo A7000 Plus ที่จะนำมารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกันในวันนี้จะมีตัวเครื่องเป็นสีดำ

ซึ่งด้านหลังกล่องแพ็กเกจจะมีการระบุคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นเอาไว้ เช่น จอแสดงผลความละเอียดระดับ Full HD, ซีพียู Octa-Core, ระบบเสียง Dolby Atmos, หน่วยความจำภายใน 16 GB, กล้องดิจิทัล 13 ล้านพิกเซล และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์ผ่านระบบ 4G LTE ได้ เป็นต้น

สำหรับ Lenovo A7000 Plus จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว

ด้านหน้าส่วนบนจะมีลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, กล้องดิจิทัลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, เซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และสัญญาณไฟแจ้งเตือนสถานะต่างๆ เช่น สัญญาณไฟขณะทำการชาร์จแบตเตอรี่ หรือมีข้อความใหม่ เป็นต้น

ด้านหน้าส่วนล่างจะมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส (Touch Panel) ได้แก่ ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรขนาด 3.5 มิลลิเมตร กับช่องเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีไมโครโฟนสำหรับการสนทนา หรือบันทึกเสียง

ด้านขวาของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มการสั่งงาน หรือพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ

ด้านหลังของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/2.0) พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED, ลำโพงเสียงภายนอก พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะทำการสนทนา หรือบันทึกเสียง

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาก็จะพบกับช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2 และช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ microSIM ทั้งในช่องซิมการ์ดที่ 1 และช่องซิมการ์ดที่ 2

ส่วนแบตเตอรี่จะมีขนาดความจุ 2900 mAh เท่ากับ Lenovo A7000 รุ่นเดิม
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
สำหรับ Lenovo A7000 Plus จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop)
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น ไฟฉาย หรือระบบเสียง Dolby เป็นต้น
 
และยังสามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์
 
การเพิ่มจำนวนหน้าจอโฮมสกรีน และการเพิ่มวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานนำมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
 
สำหรับแอปพลิเคชันดีๆ อย่าง SHAREit และ SYNCit ที่เอาไว้แชร์ไฟล์ กับสำรองข้อมูล ก็มีให้ใช้งานบน Lenovo A7000 Plus ด้วยเช่นกัน
 
ในส่วนของอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ แบบแยกอัลบั้ม กับแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
 
Lenovo A7000 Plus ยังมีแอปพลิเคชันคู่มือการใช้งาน สำหรับแนะนำการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ อีกด้วย
 
เบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตบน Lenovo 7000 Plus ก็ตอบสนองการใช้งานได้ดี สามารถแสดงรายละเอียดได้ครบถ้วน
 
ส่วนฟังก์ชันโทรศัพท์จะมีการแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ชัดเจน สามารถเลือกใช้งานได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีตัวเลขขนาดใหญ่ จึงสามารถกดหมายเลขที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ

Lenovo A7000 Plus มีหน่วยความจำภายในขนาด 16 GB ซึ่งมากกว่า A7000 รุ่นเดิมอยู่เท่าตัว (รุ่นเดิมมีหน่วยความจำ 8 GB)
 
นอกจากนี้ Lenovo A7000 Plus ยังมีฟังก์ชันสำหรับการสั่งงานด้วยท่าทางให้ใช้งานอีกด้วย เช่น การกดปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียงสองครั้งเพื่อถ่ายภาพแม้ตัวเครื่องจะอยู่ในโหมดสลีป, แตะที่หน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกตัวเครื่องให้ตื่นจากโหมดสลีป และรวมถึงฟังก์ชัน Floating Shortcut สำหรับเปิดใช้งานหน้าต่างฟังก์ชันเมนูลัดต่างๆ ก็มีให้ใช้งาน Lenovo A7000 Plus ด้วยเช่นกัน
 
เนื่องด้วย Lenovo A7000 Plus มาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos ทาง Lenovo จึงได้ใส่แอปพลิเคชัน Dolby Atmos สำหรับเลือกระบบเสียงที่ต้องการได้ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด และยังสามารถกำหนดค่าต่างๆ ด้วยตนเองได้อีกด้วย
 
นอกจากนี้ บน Lenovo A7000 Plus ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงให้ใช้งานด้วยเช่นกัน
 
ส่วนแอปพลิเคชันสำหรับฟังวิทยุ FM ก็มีให้ใช้งานบน Lenovo A7000 Plus อีกทั้งยังสามารถบันทึกเสียงวิทยุเก็บไว้ฟังในภายหลังได้อีกด้วย

Lenovo A7000 Plus ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นแต่อย่างใด และยิ่งได้จอแสดงผลที่ละเอียดขึ้นเป็นระดับ Full HD ด้วยแล้ว ก็ยิ่งช่วยให้การรับชมภาพยนตร์ หรือคลิปวิดีโอความละเอียดสูงได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น

อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Popup Play ให้ใช้งานอีกด้วย
 
สำหรับคุณสมบัติตัวเครื่องของ Lenovo A7000 Plus ก็จัดอยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทุกรูปแบบ ทั้งการเล่นเกม ชมภาพยนตร์ และฟังเพลง โดยจะมากับหน่วยประมวลผลแบบ 64-bit True8Core MediaTek MT6752 (ซีพียู Octa-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.7 GHz) หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T760 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop)


ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องอาจจะยังไม่ถึงขั้นไฮเอนด์ แต่ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี และจากการทดสอบด้วยการเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) กับเล่นเกมแบบสามมิติที่มีกราฟิกสูง Lenovo A7000 Plus ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจ แม้ว่าจะมีอาการหน่วงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการเล่นเกมแต่อย่างใด
 
และเมื่อนำ Lenovo A7000 Plus มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 45696 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GPUbench จะได้คะแนนอยู่ที่ 20971 คะแนน

Lenovo A7000 Plus สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติม ก็สามารถดาวน์โหลดได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ
 
ซึ่ง Interface กล้องถ่ายภาพบน Lenovo A7000 Plus ก็มีการแบ่งแยกฟังก์ชันต่างๆ ไว้ชัดเจน สามารถกดเลือกใช้งานได้ทันที โดยตั้งค่าการใช้งานกล้องถ่ายภาพได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การ เปิด-ปิด โหมด HDR
 
สามารถเลือกใช้งาน การสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และการสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียงได้ อีกทั้งยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งาน 3 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ปกติ, พาโนราม่า และเอฟเฟกต์เพื่อถ่ายภาพ
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานแบบอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกอัตราส่วนของภาพถ่ายที่มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน คือ 16:9, 4:3 และ 1:1, มีไวท์บาลานซ์ให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น หลอดไส้, กลางวัน และ ฟลูออเรสเซนต์ เป็นต้น
 
มีฟีเจอร์สำหรับถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น กลางคืน, บุคคล และทิวทัศน์ เป็นต้น, สามารถปรับค่า ISO ได้สูงสุดที่ 1600
 
สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานเส้นตารางได้, สามารถปรับรายละเอียดของภาพถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น ความเปรียบต่าง, ความอิ่มตัวของสี และค่าชดเชยแสง
 
สามารถเลือกความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้ 3 แบบ คือ 1080p, 720p, และ 480p, สามารถตั้งค่าการโฟกัสได้ 2 แบบ คือ อัตโนมัติ และชัดทั้งภาพ
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่ม เพิ่ม-ลด ระดับของเสียง ได้แก่ การปรับระดับเสียง, ซูม และชัตเตอร์ถ่ายภาพ, สามารถ เปิด-ปิด การระบุตำแหน่งของภาพถ่ายได้
 
สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน การดูภาพหลังจากถ่ายภาพได้, สามารถตั้งค่าการป้องกันหน้าจอกระพริบได้ 3 แบบ คือ อัตโนมัติ, 50Hz และ 60Hz
 
สามารถ เปิด-ปิด การใช้งานการวัดแนวเส้นตรงได้, สามารถเลือกตำแหน่งการบันทึกภาพถ่ายได้ 2 แบบ คือ หน่วยความจำภายในเครื่อง กับการ์ดหน่วยความจำภายนอก

และยังสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้
 
ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าจะมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกับกล้องดิจิทัลด้านหลัง แต่จะมีโหมดการถ่ายภาพเพียงแค่ 2 โหมด เท่านั้น คือ โหมดการถ่ายภาพปกติ กับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) โดยโหมดถ่ายภาพหน้าสวยจะสามารถปรับค่าผิวเนียนได้ถึง 7 ระดับ
 
อีกทั้ง ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกอัตราส่วนของภาพถ่าย ที่สามารถเลือกใช้งานได้ 3 แบบ ได้แก่ 1:1, 4:3 และ 16:9, สามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพได้สูงสุด 10 วินาที และสามารถถ่ายวิดิโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 1080p
 
สามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ และสามารถ เปิด-ปิด การสั่งงานถ่ายภาพด้วยเสียง
 
สามารถ เปิด-ปิดการสั่งถ่ายภาพด้วยการกระพริบตา และสามารถ เปิด-ปิด การสั่งถ่ายภาพด้วยการชูสองนิ้ว หรือโบกมือไปทางซ้าย หรือขวา
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ Lenovo A7000 Plus

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด หน้าสวย (Beauty) ของ Lenovo A7000 Plus
 
ภาพถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beautify) ปรับค่าระดับที่ 3
 
ภาพถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beautify) ปรับค่าระดับที่ 5
 
ภาพถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beautify) ปรับค่าระดับที่ 7
สรุปผลการทดสอบของ Lenovo A7000 Plus

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนสุดคุ้มรุ่นต่อยอดอย่าง Lenovo A7000 Plus ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติตัวเครื่องที่ทาง เลอโนโว ได้ทำการอัปเกรดใหม่ให้ดีขึ้นหลายส่วนด้วยกัน เช่น หน้าจอแสดงผลที่มีความละเอียดระดับ Full HD (1080p), หน่วยความจำภายในที่เพิ่มขึ้นเป็น 16 GB, กล้องดิจิตอลด้านหลังที่มีความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล (รูรับแสง F/2.0) และหน่วยประมวลผลระดับ Octa-Core ที่มีความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 GHz เป็นต้น
ซึ่งจากการที่ทาง เลอโนโว ได้ทำการพัฒนา A7000 รุ่นเดิม ให้กลายมาเป็น Lenovo A7000 Plus รุ่นใหม่นี้ ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา เห็นถึงความใส่ใจในการพัฒนาสมาร์ทโฟนให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ส่วนในเรื่องของดีไซน์ ก็ออกแบบมาได้สวยงามไม่แพ้รุ่นเดิมอย่าง Lenovo A7000 อีกทั้งยังมีความโค้งมนตรงมุมทั้ง 4 ด้าน บวกกับฝาหลังที่เป็นพื้นผิวแบบด้าน จึงช่วยให้ถือ Lenovo A7000 Plus ได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะลื่นหลุดออกจากมือแต่อย่างใด
สำหรับจุดขายหลักๆ ของ Lenovo A7000 Plus นอกจากจะมีการอัปเกรดจาก A7000 รุ่นเดิมในหลายๆ จุดแล้ว คุณสมบัติตัวเครื่องส่วนอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่องพอตัว ซึ่งโดยรวมแล้วคุณสมบัติเด่นของ A7000 Plus รุ่นนี้ ก็จะมีตั้งแต่หน้าจอแสดงผลแบบ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1080p (รุ่น A7000 มีความละเอียดเพียงแค่ระดับ HD 720p) พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลแบบ 64-bit True8Core MediaTek MT6752 (ซีพียู Octa-Core ARM Cortex-A53 ความเร็ว 1.7 GHz), หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T760 MP2, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 2 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 5.0 (Lollipop) ซึ่งจากการทดสอบการใช้งานทุกรูปแบบ ทั้งเล่นเกม, ชมภาพยนตร์ และฟังเพลง ก็สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดี บอกได้เลยว่า เล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติกันได้อย่างสนุกเพลิดเพลินเต็มที่ โดยไม่ต้องห่วงว่าเครื่องจะมีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็นเลยก็ว่าได้ อีกทั้ง Lenovo A7000 Plus ยังมีระบบเสียง Dolby Atmos ที่จะทำให้คุณเหมือนมีเครื่องเสียงดีๆ ติดตัวตลอดเวลาอีกด้วย
อีกหนึ่งจุดขายสำคัญของ Lenovo A7000 Plus คือ กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมขนาดของรูรับแสงที่กว้างถึงระดับ F/2.0 พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual-LED ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการถ่ายภาพได้ดีกว่ารุ่นเดิมไปอีกขั้น ภาพถ่ายที่ได้มีสีสันสดใส และคมชัดมากๆ แม้จะถ่ายภาพในสถาพแสงน้อยก็ตาม ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีโหมดการถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ให้ใช้งาน โดยสามารถปรับค่าได้ถึง 7 ระดับอีกด้วย บอกได้เลยว่า ต้องถูกอกถูกใจคนรักการถ่ายภาพเซลฟี่อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ Lenovo A7000 Plus ยังรองรับการใช้งานได้พร้อมกันถึงสองซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ครบทุกคลื่นความถี่อีกด้วย และด้วยแบตเตอรี่ขนาด 2900 mAh จึงมั่นใจได้เลยว่าจะใช้งาน Lenovo A7000 Plus ได้นานตลอดทั้งวัน
สำหรับ Lenovo A7000 Plus นั้นวางจำหน่ายแบบ Flash Sale ที่เว็บไซต์ออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada.co.th และมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 6,290 บาท ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นราคาที่สูงกว่า A7000 รุ่นเดิมอยู่ 1,000 บาท (A7000 รุ่นเดิมราคา 5,290 บาท) แต่หากพิจารณาจากคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามา ก็นับว่ายังคงมีความคุ้มค่าไม่แพ้รุ่นเดิม โดยรวมแล้ว Lenovo A7000 Plus น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนสเปคครบเครื่อง จอใหญ่คมชัด ซีพียูแรงๆ หน่วยความจำเยอะๆ กล้องถ่ายรูปดีๆ และต้องมีราคาไม่เกิน 7,000 บาท ซึ่ง Lenovo A7000 Plus ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Lenovo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Lenovo A7000 Plus มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
จุดเด่นของ Lenovo A7000 Plus
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1920x1080 Pixels (Full HD 1080p : กว้าง 5.5 นิ้ว) พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T760 MP2
- ประมวลผลการทำงานด้วย Octa-Core 64-bit ARM Cortex-A53 Processor (ชิปเซ็ต MediaTek MT6752) ความเร็วในการประมวลผล 1.7 GHz
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 16 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 32 GB
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 5.0 (Lollipop)
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมขนาดของรูรับแสง (Aperture) กว้างสูงสุดที่ F/2.0, ไฟแฟลชในตัว (Dual-LED Flash) และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p (1920x1080 Pixels : 30 fps)
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty)
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ WiFi, 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS
- รองรับการใช้งาน 4G LTE กับ 3G ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดพร้อมกันภายในเครื่องเดียว (Dual SIM : Dual Standby)
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) พร้อมฟังก์ชัน A-GPS
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion Polymer 2900 mAh
- ระบบเสียง Dolby Atmos
- วิทยุ FM Stereo ในตัว
- ราคา 6,290 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Lenovo A7000 Plus
- เครื่องมีการสะสมความร้อนแบบรู้สึกได้ หากตัวเครื่องมีการประมวลผลหนักๆ เช่นระหว่างการ เล่นเกม เป็นต้น
- รองรับการใช้งาน 4G LTE และ 3G เฉพาะซิมการ์ดที่ 1 เท่านั้น
- ลำโพงเสียงภายนอกให้พลังเสียงที่ค่อนข้างเบา
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ Lenovo A7000 Plus ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Lenovo A7000 Plus Specification

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|