ตอนนี้คุณอยู่ที่ >> หน้าแรก >> หน้ารวม mobile review >> รีวิว (Review) Asus ZenFone Max Plus สมาร์ทโฟนกล้องคู่มุมกว้าง พร้อมจอ Full View และแบตเตอรี่ใหญ่จุใจ 4130 mAh บนบอดี้โลหะ ในราคาคุ้มๆ



 
TMC Point

  8.17

การออกแบบดีไซน์

  8.0

ใช้งานง่ายและสะดวก

  8.0

คุณสมบัติเครื่อง

  8.0

ฟังก์ชันการใช้งาน

8.5

เสถียรภาพและประสิทธิภาพ

  8.0

ความคุ้มค่าต่อราคา

  8.5

 
   

รีวิว (Review) Asus ZenFone Max Plus

สมาร์ทโฟนกล้องคู่มุมกว้าง 16+8 ล้านพิกเซล พร้อมจอ Full View ไร้ขอบใหญ่เต็มตา 5.7 นิ้ว, แบตเตอรี่ชาร์จเร็วใหญ่จุใจ 4130 mAh, ชิปเซ็ต MediaTek MT6750T, RAM 4GB, ROM 32GB, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้โลหะผอมเพรียว ในราคาคุ้มๆ เพียง 6,990 บาท

 

Review Date (29-มกราคม-2561)

หลังจากที่ทุกท่านได้ติดตามชม พรีวิว (Preview) Asus ZenFone Max Plus เรียกน้ำย่อยกันไปแล้วก่อนหน้านี้ วันนี้ก็ขอนำกลับมารีวิว (Review) อีกครั้งเพื่อความต่อเนื่อง โดย Asus ZenFone Max Plus นั้นได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 11 มกราคา 2561 ซึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องของ ดีไซน์การออกแบบ, หน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ Full View Display, กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 4130 mAh พร้อมเคาะราคาขายสุดคุ้มเพียง 6,990 บาท เท่านั้น! ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Asus ZenFone Max Plus นั้นเป็นซีรีส์ใหม่ที่ใช้ชื่อซีรี่ส์ว่า ZenFone Max ซึ่งไม่ใช่ซีรีส์ที่ต่อยอดมาจาก ZenFone 4 แต่อย่างใด

สำหรับจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody ที่ใช้โลหะอะลูมิเนียมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน, หน้าจอแสดงผลแบบ Full View Display IPS LCD ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, มีโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า, รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานพร้อมๆ กัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับฟังก์ชันการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slots ซึ่งรองรับการการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมมีช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจ 4130 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง

นอกจากนี้ ทางด้านกล้องถ่ายภาพบน Asus ZenFone Max Plus ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังจะเป็นแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับเทคโนโลยี PixelMaster 4.0, เลนส์มุมกว้าง 120 องศา พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีทางยาวโฟกัส 35 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0

ทางด้านคุณสมบัติการประมวลผลก็จัดอยู่ในระดับกลาง ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750T ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat

และจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Asus ZenFone Max Plus นั้นมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์, หน้าจอแสดงผลแบบ Full View Display ความละเอียดระดับ HD+ ใหญ่เต็มตา 5.7 นิ้ว, กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง และฟีเจอร์ครบเครื่องทุกการใช้งาน หากเทียบกับราคา 6,990 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน กล้องดิจิทัลจะถ่ายภาพได้สวยคมชัดขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมรีวิว Asus ZenFone Max Plus พร้อมกันต่อได้เลยครับ

 

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Asus ZenFone Max Plus มาในแพ็กเกจสีฟ้าอ่อน

 

ซึ่งภายในแพ็กเกจก็มีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้ใช้งานอย่างครบครัน ทั้งเคสซิลิโคนใส, อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงซึ่งมีแรงดันไฟ และปล่อยกระแสไฟได้ที่ระดับ 5V/2A, สาย microUSB, สาย OTG, หูฟังแบบ Stereo พร้อมจุกยางสำรอง และคู่มือการใช้งาน

 

และมีเข็มจิ้มถาดซิมการ์ดให้ใช้งาน

 

โดย Asus ZenFone Max Plus มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ Full View Display IPS LCD ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass นอกจากนี้ ยังมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 152.6x73x8.8 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 160 กรัม

 

โดยหน้าจอแสดงผลของ Asus ZenFone Max Plus นั้นมีอัตราส่วนของจอภาพกับตัวเครื่อง (Screen to Body Ratio) อยู่ที่ 80%

 

ด้านหน้าส่วนบนมีสัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือน, กล้องดิจิทัลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีทางยาวโฟกัส 35 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ลำโพงเสียงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, , ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน และระบบ Ambient Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอและแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

 

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent Apps

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะบันทึกเสียง หรือบันทึกวิดีโอ และช่องสำหรับเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slots ซึ่งรองรับการการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมมีช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD

 

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับเทคโนโลยี PixelMaster 4.0, เลนส์มุมกว้าง 120 องศา พร้อมไฟแฟลช LED และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ โดยสามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกได้ภายในเวลาเพียง 0.3 วินาที

 

โดยกล้องตัวที่หนึ่งมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีทางยาวโฟกัส 35 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 ส่วนกล้องตัวที่สองมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีทางยาวโฟกัส 16.7 มิลลิเมตร พร้อมมุมมองกว้าง 120 องศา พร้อมระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) สามารถโฟกัสภาพได้ภายในเวลาเพียง 0.03 วินาที

 

สำหรับตัวเครื่องของ Asus ZenFone Max Plus นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody ที่ใช้โลหะอะลูมิเนียมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรู และแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ภายในตัวเครื่องยังมีแบตเตอรี่ขนาด 4130 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม 100% ภายในเวลา 3 ชั่วโมง และแม้ชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถใช้สนทนาได้ถึง 3 ชั่วโมง หรือมีแบตเตอรี่เพียง 10% ก็สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 67 ชั่วโมง

 

 

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Asus ZenFone Max Plus ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat พร้อมครอบทับด้วย User Interface แบบ Asus ZenUI 4.0 โดยรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมทั้งรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบ 4G LTE กับ 3G ได้

 

โดยมีหน่วยความจำแรมขนาด 4 GB กับหน่วยความจำภายในขนาด 32 GB

 

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือน เช่น มีความข้อใหม่ หรือสายที่ไม่ได้รับ และยังสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้ เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือ WiFi

 

สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การเปลี่ยนธีม หรือการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ล็อกหน้าจอ

 

ทางด้านฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าที่สามารถใช้งานได้ง่าย และยังมีปุ่มตัวเลขขนาดพอดีกับนิ้วมือ จึงช่วยให้กดหมายเลขที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ พร้อมทั้งสามารถเข้าดูรายชื่อทั้งหมดได้ทันที

 

และยังมีบริการต่างๆ จากทาง Google ให้ใช้งานอย่างครบครัน

 

Asus ZenFone Max Plus ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Asus PowerMaster สำหรับควบคุม หรือจัดการส่วนต่างๆ เกี่ยวกับการใช้งานแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็น การยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้นเป็น 2 เท่า, การทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองเพื่อชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนเครื่องอื่น รวมถึงการเปิดใช้งานโหมดประหยัดงานพลังงานก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

 

ส่วนความปลอดภัยของการใช้งานแบตเตอรี่ก็หายห่วง เพราะมาพร้อมกับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยถึง 12 เทคโนโลยีเลยทีเดียว

 

ซึ่งนอกจากจะจัดการกับการใช้งานพลังงานได้แล้ว ทางด้านการจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่องก็สามารถทำได้ผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Manager ไม่ว่าจะเป็น กำหนดการใช้งานปริมาณอินเทอร์เน็ต, การเคลียร์แรม หรือการสแกนไวรัสก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

มีฟังก์ชันแจ้งขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน (SOS) กรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดด้วยการกดปุ่ม Power ติดๆ กัน 3 ครั้ง ซึ่งเครื่องจะโทรไปยังหมายเลขฉุกเฉินให้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีฟังก์ชันติดตามตำแหน่งของเครื่องด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชัน Recent Apps ให้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชัน พร้อมๆ กันได้

 

ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มจำนวนลายนิ้วมือ หรือการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สามารถแตะสแกนลายนิ้วมือเพื่อถ่าย หรือดับเบิ้ลคลิกที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพได้

 

ซึ่งนอกจากระบบสแกนลายนิ้วมือแล้วนั้นบน Asus ZenFone Max Plus ยังมีระบบจดจำใบหน้าให้ใช้งานอีกด้วย โดยตัวฟังก์ชันจะทำการสแกนใบหน้าหลายจุด เพื่อเก็บรายละเอียดใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งมีประโยชน์ในการป้องกันผู้อื่นแอบอ้างเองภาพถ่ายของผู้ใช้มาทำการปลดล็อกเครื่อง เรียกได้ว่า ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งขั้นเลยทีเดียว

 

ในส่วนของอัลบั้มภาพถ่ายจะสามารถแสดงภาพถ่ายได้ 3 อย่างด้วยกัน คือ แสดงภาพถ่ายแบบแยกอัลบั้ม, แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถคนหาภาพถ่ายที่ต้องการได้ เช่น ภาพถ่ายบุคคล หรือวิดีโอ

 

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้าได้

 

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สามารถเปิดใช้งานโหมดสำหรับเด็กๆ ได้ โดยอันดับแรกผู้ปกครองจำเป็นต้องตั้งรหัสผ่านเสียก่อน พร้อมทั้งเลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับเด็กๆ ให้ใช้งาน เรียกได้ว่าเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กๆ รับชมสื่อที่ไม่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี

 

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจบน Asus ZenFone Max Plus คือ สามารถโคลลนนิ่งแอปพลิเคชันได้ เช่น Facebook, Line หรือ Instagram นั่นหมายความว่าผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชันหล่านี้ได้พร้อมๆ กันถึง 2 แอคเคานท์

 

Asus ZenFone Max Plus ยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ (Zen Motion) เช่น การแตะสองครั้งเพื่อปลุกการทำงานของตัวเครื่อง, พลิกโทรศัพท์เพื่อปิดเสียง, การปัดนิ้วขึ้นด้านบนเพื่อกลับสู่หน้าโฮม หรือแม้แต่การวาดอักษรเพื่อเรียกใช้งานแอปพลิเคชัน ก็มีให้ใช้งานบน Asus ZenFone Max Plus ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถพลิกคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียงเรียกเข้า หรือยกโทรศัพท์แนบหูเพื่อรับสายเรียกเข้าอัตโนมัติได้

 

ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการใช้งานมือเดียว หรือเปิดใช้งานโหมดสวมถุงมือได้

 

Asus ZenFone Max Plus ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง

 

พร้อมทั้งสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น

 

Asus ZenFone Max Plus นั้นมาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750T ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat

 

สำหรับคุณสมบัติด้านการประมวลผลของ Asus ZenFone Max Plus นั้นก็ถือว่ามีความครบเครื่อง และสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการหน่วง หรือการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอ

 

เมื่อนำ Asus ZenFone Max Plus มาทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่  38479 คะแนน ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 603 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ  2503 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

 

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 6512 คะแนน

 

มีเซ็นเซอร์พื้นฐานติดตั้งมาให้อย่างครบครัน รวมทั้ง Gyroscope Sensor

 

สำหรับ Asus ZenFone Max Plus นั้นรองรับการสัมผัสที่หน้าจอได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด

 

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store

 

กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวิดีโอ

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพบน Asus ZenFone Max Plus นั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การเลือกอัตราส่วนของภาพถ่าย, ฟังก์ชันถ่ายภาพ Portrait, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และการเปิดใช้งานไฟแฟลช LED นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ได้แก่ โหมดถ่ายภาพหน้าสวย

 

โดยโหมดถ่ายภาพโปรนั้นสามารถปรับค่าเพื่อถ่ายภาพได้หลากหลาย เช่น ความเร็วชัตเตอร์ หรือค่า ISO ส่วนทางด้านโหมดถ่ายภาพหน้าสวยสามารถปรับค่าผิวเนียน หรือผิวขาวได้มากถึง 10 ระดับ เลยทีเดียว

 

ส่วนเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ยังสามารถเปลี่ยนไปใช้งานเลนส์มุมกว้างเพื่อเก็บรายละเอียดต่างๆ มากขึ้นได้อีกด้วย

 

และยังสามารถตั้งค่าส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เริ่มตั้งแต่ การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหลังได้สูงสุดที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, เส้นตาราง 9 ช่อง, เสียงชัตเตอร์, การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย

 

สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p)

 

การเปิดฟังก์ชันป้องกันการกระพริบบนหน้าจอ, การเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียง ได้แก่ การซูม หรือชัตเตอร์ถ่ายภาพ และคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มี Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การเลือกอัตราส่วนของภาพถ่าย, ฟังก์ชัน Portrait และไฟแฟลช LED (ใช้แสงสว่างจากหน้าจอทำหน้าที่เป็นไฟแฟลช) นอกจากนี้ ยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย หรือโหมดถ่ายภาพเซลฟี่แบบพาโนราม่าให้ใช้งานอีกด้วย

 

โดยโหมดถ่ายภาพหน้าสวยผู้ใช้สามารถปรับค่าผิวเนียน หรือผิวขาวได้มากถึง 10 ระดับ

 

ส่วนเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

 

และยังสามารถตั้งค่าส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เริ่มตั้งแต่ การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหลังได้สูงสุดที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันการสัมผัสเพื่อถ่ายภาพ, เส้นตาราง 9 ช่อง, เสียงชัตเตอร์, กระจกเงาสะท้อน, การระบุตำแหน่งบนภาพถ่าย

 

สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ Full HD (1080p)

 

การเปิดฟังก์ชันป้องกันการกระพริบบนหน้าจอ, การเพิ่มฟังก์ชันให้กับปุ่มลดระดับเสียง ได้แก่ การซูม หรือชัตเตอร์ถ่ายภาพ และคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

 

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Asus ZenFone Max Plus แอปพลิเคชัน Selfie Master สำหรับทำงานร่วมกับกล้องดิจิทัลด้านหน้า และกล้องดิจิทัลด้านหลัง ซึ่งสามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 10 ระดับ ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพ, การถ่ายวิดีโอ หรือการรวมภาพถ่ายหลายๆ ภาพไว้ในภาพเดียว นอกจากนี้ ยังสามารถปรับค่าผิวเนียน พร้อมทำการ Live สด ผ่านแอปพลิเคชัน Facebook, Instagram หรือ Youtube ผ่านทางแอปพลิเคชัน Selfie Master ได้อีกด้วย

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักแบบ Dual-Camera ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล ของ Asus ZenFone Max Plus


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าแบบอัตโนมัติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง พร้อมเปิดใช้งานฟังก์ชัน Portrait

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวย ของ Asus ZenFone Max Plus


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าแบบอัตโนมัติ


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง


ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง และเปิดใช้งานฟังก์ชัน Portrait

 

สรุปผลการทดสอบของ Asus ZenFone Max Plus

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนกล้องคู่ผสานจอ Full View และแบตเตอรี่สุดอึดรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Asus อย่าง Asus ZenFone Max Plus อันดับแรกต้องขอบอกเลยว่าการออกแบบดีไซน์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody ที่ใช้โลหะอะลูมิเนียมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน บนสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นมีความเรียบหรูดูน่าใช้งาน นอกจากนี้ ฝาหลังของตัวเครื่องยังมีความโค้งรับกับอุ้งมือ บวกกับเป็นพื้นผิวแบบด้าน จึงช่วยให้จับ หรือถือใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย และเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้วย

โดยจุดขายที่โดดเด่นที่สุดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับเทคโนโลยี PixelMaster 4.0, เลนส์มุมกว้าง 120 องศา พร้อมไฟแฟลช LED ที่สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัดสมจริง และยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายมากขึ้น และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ มีฟังก์ชัน Portrait สำหรับถ่าย าพหน้าชัดหลังเบลอให้ใช้งาน จึงทำให้ตัวแบบที่ต้องการมีความโดดเด่นมากขึ้น

ส่วนทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีทางยาวโฟกัส 35 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0 ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้คมชัดไม่แพ้กัน อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งผู้ใช้สามารถปรับค่าปิวเนียน หรือผิวเขียนได้มากถึง 10 ระดับเลยทีเดียว และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ ผู้ใช้สามารถใช้งาน Live สด พร้อมปรับค่าผิวเนียนให้ดูดีผ่านทาง แอปพลิเคชัน Selfie Master ได้ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายถอดสดในรูปแบบของวิดีโอ หรือถ่ายวิดิโอเป็นอย่างมาก

 

ทางด้านคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ Full View Display IPS LCD ความละเอียด 1440x720 พิกเซล ขนาด 5.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 พร้อมครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass, มีโหมดถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า, รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานพร้อมๆ กัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับฟังก์ชันการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน, ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slots ซึ่งรองรับการการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมมีช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ และแบตเตอรี่ขนาด 4130 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง

สำหรับคุณสมบัติด้านการประมวลผลนั้นจัดอยู่ในระดับกลาง แต่ก็ตอบโจทย์ต่อใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750T ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T860 MP2, หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB, หน่วยความจำแรมขนาด 4 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 7.0 Nougat ซึ่งจากทดสอบทั้งการเล่นเกมที่มีการฟิกแบบสามมิติ หรือชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) Asus ZenFone Max Plus ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่นโดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้พบเจอ แต่อย่างไรก็ดี ในขณะที่เล่นเกมต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็จะพบว่าตัวเครื่องมีการสะสมความร้อนบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า Asus ZenFone Max Plus น่าจะเหมาะผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูดูน่าใช้งาน, กล้องถ่ายภาพแบบคู่, จอ Full View ขนาดใหญ่, แบตเตอรี่สุดอึดใช้งานต่อเนื่องได้นาน และมีฟังก์ชันที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบครัน ในราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก ซึ่ง Asus ZenFone Max Plus ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม

โดย Asus ZenFone Max Plus จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 นี้ ในราคา 6,990 บาท เท่านั้น! ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมก็ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับท่านใดที่สนใจก็สามารถไปหาซื้อได้ที่ Asus Shop และตัวแทนจำหน่ายทุกสาขาทั่วประเทศ สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Asus ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Asus ZenFone Max Plus มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

 

จุดเด่นของ Asus ZenFone Max Plus

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody ที่ใช้โลหะอะลูมิเนียมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน
- หน้าจอแสดงผลแบบ Full View Display IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1440x720 Pixels ขนาด 5.7 นิ้ว พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T860 MP2
- ครอบทับด้วยกระจกขอบนูนแบบ 2.5D Glass
- รองรับการแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันพร้อมกัน
- รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ฟังก์ชันสำหรับลดแสงสีฟ้า เพื่อถนอมสายตา
- รองรับการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core MediaTek MT6750T ความเร็วในการประมวลผล 1.5 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB พร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมีทางยาวโฟกัส 35 มิลลิเมตร พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, โหมดถ่ายภาพหน้าสวย, ฟังก์ชัน Portrait  และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual-Camera) ความละเอียด 16+8 ล้านพิกเซล ซึ่งรองรับเทคโนโลยี PixelMaster 4.0, เลนส์มุมกว้าง 120 องศา พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p)
- รองรับโหมดหน้าสวยสำหรับ Live สด ผ่านแอปพลิเคชัน Selfie Master
- ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ Triple Slots ซึ่งรองรับการการใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด พร้อมมีช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- แอปพลิเคชัน i Manager สำหรับจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น การล้างข้อมูล (การเคลียร์แรม), การตั้งค่าเพื่อควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ต, การจัดการแอปพลิเคชัน และการจำกัดความเป็นส่วนตัว
- ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 4130 mAh พร้อมรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง และการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่น
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคา 6,990 บาท

 

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Asus ZenFone Max Plus

- เป็นจอ Full View ที่ยังคงมีขอบด้านบน และด้านข้างค่อนข้างหนาอยู่
- ช่องต่อหูฟังอยู่ที่ด้านบนของตัวเครื่อง จึงทำให้การใช้งานในบางสถานการณ์อาจไม่สะดวกมากนัก
- ไม่รองรับสัญญาณ WiFi ในคลื่นความถี่ 5 GHz
- ยังรับสัญญาณดาวเทียม GPS ได้ไม่ดีเท่าที่ควร

 

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

พรีวิว (Preview) Asus ZenFone Max Plus
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียด และราคาของ Asus ZenFone Max Plus

 

 

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter | ไปหน้าแรก Mobile Focus ::

 

 

 


 












 รีวิว OPPO A5x | Enco Buds3
สมาร์ตโฟนแบตอึด 6000 mAh พร้อมชาร์จไว 45W SUPERVOOC บนบอดี้สวยแกร่ง ในราคาไม่ถึง 4 พัน และ OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สายตัวคุ้ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay60 Pad Pro
แท็บเล็ตจอใหญ่ 12.1 นิ้ว โทรได้ พร้อมคีย์บอร์ด ปากกา และรองรับ PC Mode ครบจบในเครื่องเดียว ในราคาไม่ถึง 9 พันบาท

[รายละเอียด]
 รีวิว OPPO Find N5
สมาร์ตโฟนจอพับบางที่สุดในโลก พร้อมกล้อง Hasselblad 3x Optical Zoom ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite พลังชาร์จไว 80W และฟีเจอร์ AI ใหม่ล่าสุด

[รายละเอียด]
 รีวิว POCO F7 Pro | F7 Ultra
สมาร์ตโฟนทรงพลังที่สุดของค่าย แรงระดับเรือธง ฟีเจอร์ AI พร้อมใช้ ในราคาแค่ครึ่งเดียว เริ่มเพียง 15,990 บาท

[รายละเอียด]
 รีวิว Xiaomi 15 | Xiaomi 15 Ultra
เรือธงกล้อง Leica ที่น่าจับจองกว่าเดิม เพิ่มกล้อง 200MP ใหม่ซูมได้ 120x พร้อมฟีเจอร์ AI จัดเต็ม

[รายละเอียด]
 รีวิว Alldocube iPlay 50 mini
แท็บเล็ตไซส์มินิสุดคุ้ม โทรได้ มี GPS พร้อมฟีเจอร์ตอบโจทย์คนชอบดูหนัง และอ่าน e-Book ในราคาประหยัดเพียง 3,990 บาท

[รายละเอียด]
รายการรีวิวมือถือทั้งหมด








วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก 3.8 กรัม ราคา 799 บาท
วางจำหน่ายแล้ว OPPO Enco Buds3 หูฟังไร้สาย แบตอึด 48 ชม. น้ำหนัก  
วางจำหน่ายแล้ว หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ “OPPO Enco Buds3” พร้อมมอบการใช้งานที่ดื่มดำเต็มอรรถรสได้ตลอดวัน ในราค
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝาหลังใสและชิป Dimensity 9400e
realme Neo7 Turbo เตรียมเปิดตัวที่จีน 29 พฤษภาคมนี้ พร้อมดีไซน์ฝา 
realme Neo7 Turbo สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเตรียมเปิดตัวในประเทศจีนวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ โดยล่าสุดได้เผยภาพเ
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage) แล้ววันนี้
iPhone 7 Plus และ iPhone 8 ถูกจัดเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นเก่า (Vintage)  
Apple ได้อัปเดตรายการผลิตภัณฑ์เก่า (Vintage) และผลิตภัณฑ์ล้าสมัย (Obsolete) อีกครั้งในวันนี้ โดยมีการเปลี
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู!
เทคนิคตั้งค่ากล้องมือถือให้ถ่ายสวยระดับโปร ทำอย่างไรไปดู! 
ในปัจจุบันกล้องถ่ายภาพของสมาร์ทโฟนได้รับการอัปเกรดให้ล้ำกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนกล้องที่มากขึ้น,
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม?
AirPods หายข้างเดียวทำไงดี ซื้อใหม่ข้างเดียวได้ไหม? 
ฝันร้ายของคนที่ใช้ AirPods คงจะหนีไม่พ้นการที่หูฟังหาย ซึ่งเท่าที่เคยพบเจอมาส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้หายทั้งเค
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีรุ่นไหนบ้างไปดู!
มือถือราคาไม่เกิน 10,000 ปี 2025 อัปเดตล่าสุดเดือน มี.ค. 2025 มีร 
ปัจจุบันสมาร์ทโฟนมีหลายรุ่นหลายราคาให้เลือกสรรกันตามกำลังทรัพย์ โดยรุ่นที่มักจะเป็นที่ต้องการอยู่เสมอคือร
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด ก.พ. 2025
มือถือเล่นเกมราคาไม่เกิน 10,000 บาท สเปกคุ้มค่า อัปเดตราคาล่าสุด  
สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง หรือมือถือเล่นเกมยังคงได้รับความสนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีราคาไม่เกิน 10,000 บาท สำ
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงานดนตรีสุดล้ำ ในงาน Here AI am Music Fest
Samsung เปิดตัว Galaxy S25 Series ในไทย โชว์พลัง Galaxy AI ผ่านงา 
ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S25 Series สุดยิ่งใหญ่ในไทย โชว์ความเก่ง Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ ผ่านงานดนตร
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapdragon 7s Gen 2, จอ 144Hz, ชาร์จไร้สาย และกล้องซูม
HMD Skyline วางขายในไทยแล้ววันนี้ในราคา 14,990 บาท มากับชิป Snapd 
HMD Skyline สมาร์ทโฟนผู้สืบทอดทางจิตวิญญาณของ Nokia Lumia ในตำนานเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยเรียบร้อย
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลดจัดเต็ม [สิงหาคม 2024]
อินฟินิกซ์ โปรกลางเดือน สมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาพิเศษ ส่วนลด 
อินฟินิกซ์ อัดโปรฯ แรงกลางเดือน ขนสมาร์ทโฟนรุ่นฮิต สเปคเทพ ราคาโดน มาให้เลือกช้อป พร้อมส่วนลดจัดเต็มอีกเพ
รายการอัพเดททั้งหมด



ราคามือถือ อัพเดทล่าสุด !!


OPPO Reno13 5G 16,999 บาท ราคาลดลง 1,000 บาท จากราคาเดิม 17,999  บาท
Samsung Galaxy S25+ 34,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 36,900  บาท
Samsung Galaxy S25 27,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 29,900  บาท
Samsung Galaxy S25 Ultra 44,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
Samsung Galaxy S24 FE 17,900 บาท ราคาลดลง 2,000 บาท จากราคาเดิม 19,900  บาท
OPPO Find N5 69,999 บาท
iPhone 13 128GB 15,900 บาท
iPhone 15 20,900 บาท ราคาลดลง 6,000 บาท จากราคาเดิม 26,900  บาท
OPPO Reno13 F 5G 12,999 บาท
Samsung Galaxy Z Fold6 58,900 บาท
Samsung Galaxy Z Flip6 34,900 บาท
POCO F6 Pro 13,490 บาท ราคาลดลง 2,500 บาท จากราคาเดิม 15,990  บาท
Samsung Galaxy A05s 4,499 บาท ราคาลดลง 500 บาท จากราคาเดิม 4,999  บาท
iPhone 15 Pro Max 39,500 บาท ราคาลดลง 7,400 บาท จากราคาเดิม 46,900  บาท
iPhone 15 Pro 35,400 บาท ราคาลดลง 3,100 บาท จากราคาเดิม 38,500  บาท
iPhone 15 Plus 29,900 บาท ราคาลดลง 3,300 บาท จากราคาเดิม 33,200  บาท
Redmi Pad SE 4,999 บาท
Samsung Galaxy Tab S9+ 35,900 บาท
vivo Y27 5G 6,999 บาท
รายการ ราคามือถือ ทั้งหมด



อัพเดท ข่าวสารล่าสุด (New update)

Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรองรับทั้ง iOS และ Android ผู้ช่วยเกมเมอร์อัจฉริยะ
Xbox ปล่อย Copilot for Gaming (Beta) บนอุปกรณ์มือถือ พร้อมรอ 
Xbox เปิดให้เหล่าเกมเมอร์ได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Copilot for Gaming (Beta) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกร
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่านการส่งรีแอคชั่นข้อความด้วย LINE Emoji ได้ทุกรูปแบบแล้ววันนี้
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่! เพิ่มสีสันให้การแชทผ่าน 
LINE อัปเดตฟีเจอร์ “รีแอคชั่น” ใหม่ ผู้ใช้งานทุกท่านสามารถเลือกใช้ LINE Emoji ทุกรูปแบบในการส่งรีแอคชั่นต
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไหนก็ผ่อนได้ กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ
MAHAJAK สบายใจ สบายจ่าย ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน อยู่ที่ไห 
มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จัดให้กับโปรโมชันผ่อนได้นานสูงสุดถึง 10 เดือน พร้อมให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของเครื่องเสียง
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร้อมรับโปรพิเศษ 7 ต่อ
Samsung เปิดตัวทีวี AI รุ่นใหม่ การันตีอัปเดต OS ฟรี 7 ปี พร 
ซัมซุง มอบความมั่นใจให้ลูกค้า การันตีอัปเดต OS ฟรีนาน 7 ปี บนไลน์อัปทีวี AI รุ่นใหม่
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไรโต 64.5%
Xiaomi รายได้พุ่งทะลุ 111.3 พันล้านหยวน ไตรมาสแรกปี 2025 กำไ 
เสียวหมี่ทำรายรับทะลุ 111.3 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งทำยอดทะลุ 1 แสนล้านหยวนเป็นไตรมาสที่สองต
รายการอัพเดททั้งหมด


    Catalog มือถือ     market     Review มือถือ      ราคามือถือ     forum
Catalog มือถือ
Catalog มือถือ Nokia
Catalog มือถือ Samsung
Catalog มือถือ SonyEricsson
Catalog มือถือ i-mobile
Catalog มือถือ LG
Catalog มือถือ BlackBerry
ลงประกาศสินค้ามือถือ
สมัครสมาชิก
หน้าแรกตลาดซื้อขายมือถือ
 
หน้าแรกรีวิว
รีวิว มือถือ Nokia
รีวิว มือถือ Samsung
รีวิว มือถือ Motorola
รีวิว มือถือ LG
 

ราคามือถือ Samsung
ราคามือถือ iPhone
ราคามือถือ Huawei
ราคามือถือ OPPO
ราคามือถือ Vivo
   
   
หน้าแรก cafe
Nokia club
ตั้งหัวข้อใหม่
 

© Copyright all rights reserved : ThaiMobileCenter.com