รีวิว (Review) ASTON A 4G
สมาร์ทโฟน 4G แบรนด์ไทยสุดคุ้มใหม่ล่าสุด สำหรับชาวเซลฟี่ตัวจริง ด้วยกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ผสานโหมดถ่ายภาพ Beauty พร้อมจอ HD ขนาด 5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek MT6735, แรมขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB, รองรับ 2 ซิมการ์ด และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ในราคาสุดคุ้มเพียง 2,990 บาท
Review
Date (3-มิถุนายน-2559)

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเรามีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนในระดับไฮเอนด์ที่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยทุกปีเลยก็ว่าได้ และล่าสุดก็ไม่ได้มีการแข่งขันเฉพาะสมาร์ทโฟนระดับสูงเท่านั้น เพราะทางด้านสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคาประหยัด (ราคาไม่เกิน 3,000 บาท) ก็มีการแข่งขันที่เรียกได้ว่า ตาต่อตาฟันต่อฟันเลยทีเดียว สำหรับสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคาระดับนี้ก็มีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน ซึ่งการแข่งขันของสมาร์ทโฟนในกลุ่มดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแบรนด์ต่างประเทศเท่านั้น แต่สมาร์ทโฟนแบรนด์ประเทศไทยอย่าง ASTON ก็ลงแข่งขันด้วยเช่นกัน และในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็มีสมาร์ทโฟนแบรนด์ไทยราคาสุดคุ้มจากทาง ASTON อยู่หนึ่งรุ่น จึงอยากมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักกัน นั่นคือ ASTON A 4G
สำหรับ ASTON A 4G มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และ 3G ได้, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Smart Wake), กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช LED พร้อมโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) และกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ในส่วนของคุณสมบัติด้านอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่องไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว, พร้อมด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.0 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรมขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 Lollipop
จากคุณสมบัติตัวเครื่องต่างๆ ที่กล่าวมาบน ASTON A 4G บอกได้เลยว่า มีความคุ้มค่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน, ฟีเจอร์ต่างๆ จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด และจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัดจริงหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบให้ทุกท่านครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

ASTON A 4G ที่ได้มารีวิวนั้น จะมาในแพ็กเกจสีดำ พร้อมคาดสีทองบนฝากล่องที่เป็นลวดลายตัวอักษร A

ด้านขวาของกล่องจะมีการระบุสีเอาไว้ด้วย และเครื่องที่ทางทีมงานได้มานั้น คือ สีทอง

สำหรับ ASTON A 4G มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว โดยกระจกหน้าจอจะเป็นแบบ Gorilla Glass ที่ทนทานต่อแรกกระแทก และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี โดยมีขนาดของตัวเครื่อง 145x73x8.5 มิลลิเมตร มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 141 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนประกอบไปด้วย ลำโพงสำหรับฟังขณะทำการสนทนา, ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้, ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน, สัญญาณไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ, กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช LED

ด้านหน้าส่วนล่างมีปุ่มการสั่งงานแบบสัมผัส ได้แก่ ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ นอกจากนี้ ยังมีไมโครโฟน ซึ่งจะอยู่ใต้ปุ่มเมนู

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับส่งผ่านข้อมูล หรือชาร์จแบตเตอรี่

ด้านล่างของตัวเครื่องไม่มีช่องเชื่อมต่อ หรือปุ่มสั่งงานใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่ม เพิ่ม-ลดระดับของเสียง

ด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นไม่มีช่องเชื่อมต่อ หรือปุ่มสั่งงานใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านหลังของตัวเครื่องประกอบไปด้วยกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, ไฟแฟลช LED และลำโพงเสียงภายนอก

สำหรับแบตเตอรี่ของ ASTON A 4G มีความจุ 2600 mAh

เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2, ช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD และช่องสำหรับใส่แบตเตอรี่
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
 
ASTON A 4G ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 Lollipop

ซึ่งมาพร้อมกับหน่วยความจำภายในขนาด 8 GB
 
และยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการแจ้งเตือน อีกทั้งยังสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดต่างๆ ได้ทันที เช่น WiFi หรือ GPS
 
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งบนหน้าจอโฮมสกรีนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การเปลี่ยนธีม, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน, เอฟเฟกต์การปลดล็อกหน้าจอ และเอฟเฟกต์สภาพอากาศ
 
อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับปิดแอปพลิเคชันอย่าง Recent Apps มาให้ใช้งานอีกด้วย (กดปุ่มโฮมค้างเอาไว้ประมาณ 2 วินาทีเพื่อเรียกใช้งานฟังก์ชัน Recent Apps) นอกจากนี้ หน้าจอแสดงผลของ ASTON A 4G ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MiraVision ที่ช่วยให้หน้าจอแสดงผลได้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด
 
ในส่วนของฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย ซึ่งสามารถดูรายการโทรล่าสุด หรือเข้าดูรายชื่อทั้งหมด และสามารถบันทึกเสียงการสนทนาได้อีกด้วย
 
ASTON A 4G รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และสามารถสั่งงานด้วยท่าทางได้ เช่น เคาะที่หน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกการทำงานของเครื่อง หรือการวาดอักษรตัว C เพื่อเปิดใช้งานกล้องดิจิทัล
 
สำหรับเบราว์เซอร์อินเทอร์เน็ตบน ASTON A 4G ก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้ลื่นไหล และสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ
 
นอกจากนี้ แอปพลิเคชันภาพถ่ายบน ASTON A 4G ก็สามารถแสดงภาพถ่ายได้ 3 แบบ ด้วยกัน คือ แบบแยกอัลบั้ม, แบบระบุสถานที่ และแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
 
ไม่เพียงเท่านั้น ASTON A 4G ยังได้ติดตั้งแอปพลิเคชัน CM Security สำหรับดูแล หรือจัดการข้อมูลต่างๆ ภายในเครื่องมาให้ใช้งานอีกด้วย เช่น การซ่อนแอปพลิเคชัน, การบล็อกสายเรียกเข้า หรือการสแกนไวรัส

ASTON A 4G สามารถเปลี่ยนภาษาบนตัวเครื่องได้มากกว่า 70 ภาษาเลยทีเดียว
 
ในส่วนของแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงก็มีให้ใช้งานบน ASTON A 4G ด้วยเช่นกัน พร้อมทั้งสามารถปรับค่าอีควอไลเซอร์ได้
 
ASTON A 4G ยังมีแอปพลิเคชันวิทยุ FM ให้ใช้งาน และสามารถบันทึกเสียงวิทยุ FM เอาไว้ฟังในคราวหลังได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080p) ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการกระตุก หรือหน่วงให้พบเจอ
 
โดย ASTON A 4G มาพร้อมกับชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.0 GHz, พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 Lollipop


ถึงแม้ว่าคุณสมบัติตัวเครื่องที่จัดอยู่ในระดับการใช้งานทั่วไป แต่ ASTON A 4G ก็สามารถตอบโจทย์ด้านการเล่นเกมแบบสามมิติได้ดี อีกทั้งยังแสดงรายละเอียดต่างๆ ภายในเกมได้ชัดเจน ครบถ้วน

และเมื่อนำ ASTON A 4G มาทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 25094 คะแนน

ต่อด้วยการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 2082 คะแนน

ASTON A 4G สามารถรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 2 จุด
 
และยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Google Play Store
กล้องดิจิทัล การถ่ายภาพนิ่ง และภาพวีดีโอ
 
มาต่อกันที่แอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพบ้าง ซึ่ง Interface ของกล้องถ่ายภาพบน ASTON A 4G จะมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่าย อีกทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เช่น การชูสองนิ้วเพื่อสั่งงานถ่ายภาพ หรือเปิดใช้งานโหมด HDR และมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดถ่ายภาพปกติ หรือโหมดถ่ายภาพพาโนราม่า
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสง, เอฟเฟกต์การถ่ายภาพ, โหมดถ่ายภาพแบบสำเร็จรูป, ไวท์บาลานซ์, คุณสมบัติของภาพ, การป้องกันการกระพริบ และการคืนการตั้งค่าทั้งหมด
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพในส่วนอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เช่น การ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ฟังก์ชันการตรวจจับใบหน้า, และฟังก์ชันการตรวจจับรอยยิ้ม, การตรวจสอบรูปภาพอัตโนมัติ, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ ที่สามารถตั้งเวลาได้นานสุด 10 วินาที, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, สามารถเลือกสัดส่วนของภาพถ่ายได้ และสามารถปรับค่า ISO ได้อีกด้วย
 
ในส่วนของโหมดถ่ายวิดีโอสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ เช่น การ เปิด-ปิด ไมโครโฟน หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายวิดีโอ และสามารถปรับความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ HD 720p
 
มาต่อกันที่กล้องดิจิทัลด้านหน้ากันบ้าง ซึ่ง Interface ของกล้องดิจิทัลด้านหน้าก็มีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้กดเลือกใช้งานได้ทันที และยังมีโหมดถ่ายภาพหน้าสวยให้ใช้งานอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานเพิ่มเติมได้อีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, การชดเชยแสง, เอฟเฟกต์การถ่ายภาพ, โหมดถ่ายภาพแบบสำเร็จรูป, ไวท์บาลานซ์, คุณสมบัติของภาพ, การป้องกันการกระพริบ และการคืนการตั้งค่าทั้งหมด
 
นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่ากล้องถ่ายภาพในส่วนอื่นๆ ได้อีกหลายอย่างด้วยกัน เช่น การ เปิด-ปิด ฟังก์ชัน ZSD (Zero Shutter Delay), ฟังก์ชันการตรวจจับใบหน้า, และฟังก์ชันการตรวจจับรอยยิ้ม, การตรวจสอบรูปภาพอัตโนมัติ, การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ ที่สามารถตั้งเวลาได้นานสุด 10 วินาที, สามารถเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพได้สูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, สามารถเลือกสัดส่วนของภาพถ่ายได้ และสามารถปรับค่า ISO ได้อีกด้วย
 
ในส่วนของโหมดถ่ายวิดีโอก็สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ เช่น การ เปิด-ปิด ไมโครโฟน หรือการตั้งเวลาเพื่อถ่ายวิดีโอ และสามารถปรับความละเอียดของไฟล์วิดีโอได้สูงสุดที่ความละเอียดระดับ VGA
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียดระดับ 13 ล้านพิกเซล ของ ASTON A 4G

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ในโหมด Beauty ของ ASTON A 4G
 
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ
 
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด Beauty
สรุปผลการทดสอบของ ASTON A 4G

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟน 4G ราคาประหยัด แบรนด์ไทยรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง ASTON A 4G ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า ASTON A 4G นั้นมีดีไซน์การออกแบบตัวเครื่องที่ทันสมัย และขอบตัวเครื่องมีความโค้งมน สามารถจับ หรือถือใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ต้องกลัวว่าต้องเครื่องจะหลุดออกจากมือ อีกทั้งตัวเครื่องยังมีความบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร จึงช่วยให้สามารถพกพา ASTON A 4G ไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ หรือใส่ในกระเป๋ากางเกงได้อย่างคล่องตัว
สำหรับกล้องดิจิทัลถือเป็นจุดขายหลักของ ASTON A 4G เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และโหมดถ่ายภาพหน้าสวย (Beauty) ซึ่งสามารถตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพเซลฟี่ได้ดีเป็นพิเศษ โดยภาพถ่ายที่ได้ก็มีความคมชัด สมจริง ไม่ดูหลอกตาจนเกินไป ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ก็ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย และสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ได้อีกด้วย
ในส่วนของคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าครบเครื่องทุกการใช้งาน เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด 1280x720 พิกเซล ขนาด 5 นิ้ว, พร้อมด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.0 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T720, หน่วยความจำแรมขนาด 1 GB, หน่วยความจำภายในขนาด 8 GB, รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE และ 3G ได้, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง (Smart Wake), แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh, เทคโนโลยี MiraVision ที่ช่วยเรื่องการแสดงผลให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 Lollipop ซึ่งจากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสามมิติ พร้อมทดสอบด้วยการเปิดไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD (1080p) ASTON A 4G ก็สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้ดี ถึงแม้จะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อยในขณะที่ใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานแต่อย่างใด

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมาก็พอที่จะสรุปได้ว่า ASTON A 4G น่าจะเหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณค่อนข้างจำกัด และกำลังตามหาสมาร์ทโฟน 4G ราคาประหยัดที่มาพร้อมกับกล้องหน้าคมชัด, สเปคครบเครื่อง, มีฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย และต้องมีราคาไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่ง ASTON A 4G ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สมเหตุสมผลเป็นที่สุด สำหรับท่านใดที่สนใจ ASTON A 4G ก็สามารถสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Lazada.co.th พร้อมโปรโมชั่นรับฟรีซิมทรูมูฟ เอช (ฟรีค่าโทร 2,600 บาท), เคสมือถือ และฟิล์มกันรอย นอกจากนี้ ASTON A 4G จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีทอง (Gold) และสีทองกุหลาบ (Rose Gold) สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง ASTON ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง ASTON A 4G มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ ASTON A 4G
- ตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร
- จอแสดงผลแบบ IPS LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 1280x720 Pixels ขนาด 5 นิ้ว โดยกระจกหน้าจอจะเป็นแบบ Gorilla Glass ที่ทนทานต่อแรกกระแทก และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T720
- รองรับฟังก์ชัน Smart Wake สำหรับการสั่งงานด้วยท่าทาง
- ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต 64-bit Quad-Core MediaTek MT6735 ความเร็วในการประมวลผล 1.0 GHz
- ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 5.1 Lollipop
- หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 8 GB
- หน่วยความจำ RAM ขนาด 1 GB
- รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 128 GB
- กล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 13 ล้าน Pixels พร้อมไฟแฟลช LED และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ HD 720p
- กล้องดิจิทัลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 8 ล้าน Pixels, ไฟแฟลช LED พร้อมโหมดถ่ายภาพใบหน้าสวย (Beauty ) และรองรับการถ่ายภาพวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ VGA
- รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด
- รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, WiFi, EDGE และ GPRS
- ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
- ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion ความจุ 2600 mAh
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคาสุดคุ้มเพียง 2,990 บาท ซึ่งหากเทียบกับคุณสมบัติโดยรวมถือว่าคุ้มค่า
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ ASTON A 4G
- หน่วยความจำภายในมีขนาดเพียงแค่ 8 GB ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการเก็บบันทึกข้อมูล ต้องอาศัยการใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD เพิ่มเติมจึงจะเพียงพอ
- หน่วยความจำแรม (RAM) มีขนาดเพียง 1 GB ซึ่งถือว่าน้อย และส่งผลให้การใช้งานบางอย่างมีอาการหน่วง หรือไม่ราบรื่น
- ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป เนื่องจากต้องซื้อผ่านเว็บไซต์ Lazada เท่านั้น
โปรดทราบ
* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *
สรุปคุณสมบัติเครื่อง
ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติแบบสรุป (Specification) ของ ASTON A 4G ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้
สรุปคุณสมบัติโดยละเอียดของ ASTON A 4G

:: ไปหน้าแรกเว็บไซต์ Thaimobilecenter
| ไปหน้าแรก
Mobile Focus ::
|